เป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา ที่คู่แต่งงานหลๅย ๆ คู่มักชอบทะ เลาะกัน แต่แน่นอนละค่ะว่า ใครเล่าจะอยากให้การทะ เลาะกันนั้น มาปั่นโสตประสาททำให้ความสัม พันธ์ที่ปั้นกัน มากับมือต้องพังทลๅย และการที่เราจะป้องกันการทะ เลาะกันได้นั้น เราก็ควรที่จะทราบถึงเรื่องหลัก ๆ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องทะ เลาะกันก่อนค่ะ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น
1. เวลา หลังจากที่มีตกลงใช้ชีวิตคู่กันแล้วนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาของงภรรยาใช่ไหมละคะ ที่อยากจะใช้เวลาอยู่กับสามีให้มาก ๆ ก็แหม! แต่งงานกันแล้วนี่นา
ผิดกับคุณสามีที่ชอบจะใช้เวลาอยู่กับโลกของตัวเอง อยากอยู่ลำพัง เผ ลอ ๆ คุณผช.บางท่านคิดเสียอีกว่า แต่งงานกันแล้วไม่จำเป็นต้องตัวติดกัน มากนักหรอก
เจอกันตลอด 24 ชั่ วโมง 7 วัน เบื่อแ ย่เลย! ซึ่งวิธีแก้นั้นก็คงไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการปรับตัวเข้าหากันหรอกจริงไหมคะ
เพราะถ้าหากคนสองคนคิดที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้วละก็ การปรับตัวเข้าหากันนั้นคือสิ่งที่ตอบโจทก์ได้ดีที่สุด ลองแบ่งเวลาด้วยการให้เวลากับตัวเองและคนข้าง ๆ ของเราบ้าง แบบนี้สิถึงจะสมดุลที่สุด
2. เงิน ๆ ทอง ๆ เพราะไม่ใช่กระเป๋าของใครกระเป๋าของมันอีกแล้ว การจัดสรรเงินนั้นจะต้องทำให้ลงตัวที่สุด มิฉะนั้นละก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น
ฝ่ๅยหนึ่งใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายไปกับของที่ตัวเองอยากได้โดยไม่แบ่งเบาภาระเลย ส่วนอีกฝ่ๅยกลับต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งบ้านรวมถึงหนี้สินต่าง ๆ เพียงคนเดียว
งานนี้คงต้องคุยกันให้ดีเสียแต่เนิ่น ๆ แล้วละค่ะว่า ใครจะรับผิดชอบอะไร แล้วจะมีการควบคุมค่าใช้จ่ายกันแบบไหน ไม่อยากขัด แย้งกัน อย่าลืมลองคุยกันดูนะคะ
3. เ พศ เพราะเรื่องเ พศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผช.บางคนยึดถือว่าผช.คือผู้นำเป็นช้างเท้าหน้า ผญ.จะต้องทำตามและคอยเอาใจทุกอย่าง
อีกทั้งมีบ้างที่กดขี่ข่ มเหงเ พศตรงข้ามด้วยการใช้วาจาดูถูก หนำซ้ำใช้กำลังกันก็มี ส่วนคุณผญ.บางคน ถือว่าผช.ต้องเอาใจ ต้องเสนอและต้องช่วยทุกอย่าง
ดังนั้น จึงไม่ยอ มทำอะไร แบบนี้จะลงเอยได้อย่างไรหากไม่เปิดอกคุยกันให้ชัดเจน และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน
4. หึงหวง ความรู้สึกสำคัญที่มีตั้งแต่ก่อนแต่งงานและหลังแต่งงาน ในบางคู่อาจจะรุน แรงมากกว่าก่อนแต่งเสียด้วยซ้ำ ทราบไหมคะว่า
ความรู้สึกหึงหวงนั้นเกิดจากความรู้สึกไม่มั่นคง ทำให้ต้องการควบคุมอีกฝ่ๅยไว้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกอุ่นใจ สิ่งที่จะช่วยขจัดความรู้สึกนี้ไปได้ก็คือ ความเชื่อใจ ไว้วางใจ และให้เกียรติซึ่งกันและกันทั้งต่อหน้าและลับหลังนั่นเองค่ะ
5. ลูก เพราะทุกคน มาจากต่างที่ต่างสังคมทำให้พื้นฐานการเลี้ยงดูของแต่ละคนนั้นแตпต่างกัน จึงไม่แปลกที่จะมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก
สิ่งที่จะมาช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้ก็ถือ การยอ มรับและปรึกษาหารือกัน ไม่ยึดความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ พูดคุยและค่อย ๆ ช่วยกันปรับไป โดยนึกถึงความสุขของความเป็นพ่อ แม่ และลูกเข้าไว้นั่นเอง
6. ความเครียด หากสังเกตให้ดี ทุกวันนี้สังคมของเรานั้นเต็มไปด้วยความเครียด ไหนจะเครียดเรื่องงาน เงิน และรถติดแล้วยังมาเจอปัญหาในครอบครัวอันเกิดจากการไม่คุยกันอีก
ทำให้เกิดความสะสมจนเก็บความเครียดนั้น มาระบายและทะ เลาะใส่กัน สิ่งที่จะช่วยป้องกันได้ก็คือ การรู้จักควบคุมอารมณ์และความคิดของตัวเองก่อนค่ะ
หากรู้สึกว่าตัวเองกำลังเครียดก็ค่อย ๆ หาทางระบายออก มาคุยกัน ปรึกษากัน อย่าลืมนะคะว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวเหมือนก่อนแล้ว
ลองหันหน้าคุยกับคู่ของคุณเอง อย่าคิดว่าเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องบางเรื่องเราอาจจะไม่ต้องการคำแนะนำ แต่แค่ต้องการใครสักคนเป็นผู้รับฟังที่ดีเท่านั้นเอง
7. งานบ้าน ข้อนี้นี่เป็นข้อหลัก ๆ ที่มักจะเจอในหลๅย ๆ ครอบครัว จริงอยู่ค่ะที่ใครหลๅย ๆ คนเข้าใจกันว่า งานบ้านนั้นเป็นหน้าที่ของคุณภรรยา แต่อ ย่าลืมนะคะว่านี่คือยุคใหม่แล้ว
ไม่จำเป็นอีกต่อไปที่หน้าที่ดังกล่าวจะต้องตกไปอยู่ที่ฝ่ๅยใดฝ่ๅยหนึ่ง การแบ่งเบาภาระกันช่วยกันทำงานบ้านแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ หยิบจับบ้างนี่ก็ถือว่าเป็นการแบ่งเบาภาระได้แล้วละค่ะ หรือจะให้ดี แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนเลยแบบนี้ก็แฟร์ดี
8. ศาสนา เรื่องละเอียดอ่อนอีกเรื่องหนึ่งที่ควรจะศึกษาคู่ของตัวเองให้ดีก่อนตกลงปลงใจกัน มิเช่นนั้นอาจส่งผลให้เกิดการหย่ๅร้างได้ในที่สุดนะคะ
9. การเมือง คู่รักบางคู่ถึงขั้นไม่คุยกันข้ามปีเพราะต่างฝ่ๅยต่างมีพรรคการเมืองที่ตัวเองชื่นชอบเป็นของตัวเอง สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือ หลีกเลี่ยงประเด็นสนทนาดังกล่าวไปเลยค่ะ
เปิดใจยอ มรับความคิดเห็นของกันและกันบ้าง เคารพในสิทธิส่วนบุคคล ไม่บังคับหรือเข้าไปก้าวก่ายสิทธิของคนอื่น อย่าลืมนะคะว่า คุณแต่งงานกันเพราะความรัก อย่าทำให้เรื่องบางเรื่องต้องมาทำให้ความสัม พันธ์ของคุณทั้งคู่ถึงขั้นแตпหักกันเลยค่ะ
10. ครอบครัวของอีกฝ่ๅย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของพ่อตาแม่ยาย พ่อแม่สามี หรือญาติพี่น้อง ที่บางครอบครัวนั้นยอ มปล่ อยให้เข้ามามีอิทธิพลมากเกินไป
จนทำให้เกิดความอึ ด อั ดและไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่าลืมนะคะว่า คุณสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันเพราะความรัก ดังนั้นเมื่อคุณรักเขา
คุณก็ต้องรับครอบครัวของเขาด้วย แต่ทั้งนี้ความรักที่ว่านั้นก็ต้องอยู่ในขอบเขตด้วยเช่นกัน เพราะนี่คือครอบครัวของคุณทั้งสองคน อย่าได้ปล่ อยให้ใครก็ตามเข้ามามีบทบาทมากเกินไปจนทำลๅยความรักของคุณที่มีต่อกันและกัน