หน้าที่สามีที่ดี การเป็นสามีและพ่อที่ดี เป็นหน้าที่ ๆ ต้องอาศัยความรับผิดชอบและความอดทนอย่างมาก
ซึ่งผญ.หลๅย ๆ คน ต่างก็มองหาคุณสมบัติดังกล่าวในตัวชายอันเป็นที่รัก คนที่จะสามารถฝากชีวิตทั้งหมดที่เหลืออยู่ให้ดูแล พร้อ มเดินเคียงข้างไปด้วยกัน ทั้งในยามสุขและยามทุกข์
ดังนั้นการทำตัวเป็นสามีหรือพ่อที่ดี เป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติอย่างหนึ่งของคุณผช.ทุกคนที่มีครอบครัวแล้ว นั้นจึงจะเรียกว่าเป็นบุรุษที่เกิดมาอย่างสมบูรณ์แบบ
ความหมายของสามี – ภรรยา
สามี แปลว่า ผู้เลี้ยง ผัว
ภรรยา แปลว่า ผู้ควรเลี้ยง เมีย
ซึ่งคำทั้งสองนี้ เป็นคำที่แฝงความหมายอยู่ในตัว และเป็นคำคู่กัน ซึ่งก็หมายถึง ผช.ที่ได้ชื่อว่าสามีก็เพราะเลี้ยงดูภรรยา ผญ.ที่จะได้ชื่อว่าภรรยาก็เพราะทำตัวเป็นคนควรเลี้ยง
คุณสมบัติของคู่สร้างคู่สม
พื้นฐานอัน มั่นคงที่จะทำให้สามีภรรยาครองชีวิตกันยืนยาว มีความสุข คือคู่สามีภรรยาต้องมีสมชีวิธรรม ได้แก่
1. สมสัทธา มีศรัทธาเสมอกัน ได้แก่ มีหลักการ มีความเชื่อ มั่นในพระพุทธศาสนา มีเป้าหมายชีวิตเหมือนกัน
2. สมสีลา มีศีลเสมอกัน ได้แก่ ความประพฤติศีลธรรมจรรยา กิริยามารยาทอบรมมาดีเสมอกัน
3. สมจาคา มีจาคะเสมอกัน ได้แก่ มีนิสัยเสียสลະชอบช่วยเหลือ ไม่เห็นแก่ตัว ใจกว้างเสมอกัน
4. สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน ได้แก่ มีเหตุผล มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ดื้อด้านดันทุรัง เข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกัน พูดกันรู้เรื่อง
วิธีทำให้ความรักยั่งยืน ตามหลักมงคลชีวิต 38 (มงคล ที่ 13 สงเคราะห์ภรรยา (สามี))
การเป็นสามีภรรยากัน เป็นเรื่องที่จะว่ายากก็เหมือนง่าย แต่ครั้นจะว่าง่ายก็เหมือนยาก เพราะเพียงแต่เราตั้งคำถามว่า
ทำอย่างไรสามีภรรยาจึงจะมีความรักยั่งยืนอยู่กินกันราบรื่นเพียงประเด็นเดียว แล้วลองเที่ยวหาคำตอบดูเถอะ
ถามสิบคนก็ตอบสิบอย่าง บ้างก็ว่าเกี่ยวกับดวงชะตาคู่ธาตุ ต้องวางฤกษ์ วางลัคน์ให้เหมาะๆ
บ้างก็ว่าเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ที่หัวสมัยใหม่หน่อยก็ว่า สำคัญที่แหวนหมั้นขันหมากเงินทุนให้มากๆ เข้าไว้ ความสุขในชีวิตสมรสจะ มีเอง
แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรื่องมงคลสมรสไว้สั้นๆ เพียงคำเดียวว่า สังคหะ แปลว่า การสงเคราะห์กัน และให้ปฏิบัติตามหลักสังคหวัตถุ 4 เพื่อเป็นการยึดเหนี่ย ว น้ำใจกัน ดังนี้
1. ทาน การให้ปันแก่กัน คนเราถ้ารักที่จะอยู่ด้วยกันต้องปันกันกิน ปันกันใช้ หามาได้แล้วควรรวมกันไว้เป็นกองกลางแล้วจึงแบ่งกันใช้ หากไม่เอามารวมกัน อาจเกิดการรະแวงกันได้ ที่ใดที่ปราศจากการให้ที่นั่นย่อ มแห้งแล้งเหมือนทะเลทราย การปันกันนี้รวมทั้งการปันทุกข์กันในครอบครัวด้วย เมื่อฝ่ๅยหนึ่งฝ่ๅยใดมีความทุกข์ มีปัญหา ก็ควรนำมาปรึกษากัน อีกฝ่ๅยก็ต้องรับรู้จักรับฟังและปลุกปลอ บให้กำลังใจ
2. ปิยวาจา พูดกันด้วยวาจาไพเราะ แม้การตักเตื อ นกันก็ต้องระมัด ระวังคำพูด ถ้าถือเป็นกันเองมากเกินไป อาจจะเกิด ทิฐิ ทำให้ครอบครัวไม่สงบสุข โดยถือหลักว่า ก่อนแต่งงานเคยพูดไพเราะอย่างไร หลังแต่งงานก็พูด ให้เพราะ อย่างนั้น
3. อัตถจริยา ฝึกฝนตนให้เป็นประโยชน์ คือ มีความรู้ความสามารถ แล้วนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่นั้น มาช่วยเหลือกัน ประพฤติตนเป็นประโยชน์ต่อกันในทุกด้าน เมื่อรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ควรหรือไม่ควร ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง พยายามศึกษาหาความรู้ทางธรรม เอาใจมาเกาะกับธรรมให้มากสามีภรรยานั้นเมื่อทะ เลาะกัน มักจะโยนความผิดให้อีกฝ่ๅยหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้วย่อ มมีความผิดด้วยกันทั้งคู่ อย่างน้อยก็ผิดที่ไม่หาวิธีที่เหมาะสมแนะนำตักเตื อ นกัน ปล่ อยให้อีกฝ่ๅยหนึ่งทำความผิด
4. สมานัตตตา วางตัวให้เหมาะสมกับที่ตัวเป็น เป็นพ่อบ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อบ้าน เป็นแม่บ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นแม่บ้าน ต่างก็วางตัวให้ เหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายทั้งในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งข้อนี้จะประพฤติ ปฏิบัติให้ดี ต้องฝึกสมาธิให้ใจผ่องใสเป็นปกติ เพราะคนที่ใจผ่องใสจะรู้ว่าในภาวะเช่นนั้น ควรจะวางตนอย่างไร ไม่ระเริงโลกจนวางตนไม่เหมาะสม
โดยสรุป คือปฏิบัติตนตามหลักทาน การให้ปันสิ่งของ รักษาศีล เพื่อให้มีคำพูดที่ไพเราะและเพื่ออุ ดข้อบกพร่องของตน จะได้เป็นคน มีประโยชน์ เจริญภาวนา คือการฟังธรรมและทำสมาธิ เพื่อให้ใจผ่องใสเกิดปัญญา จะได้วางตัวได้เหมาะสมกับที่ตัวเป็น