แน่นอนว่า คงไม่อยากมีใครล้มเหลวในชีวิตคู่ การดูแลความรัก ใส่ใจซึ่งกันและกัน เปิดใจพูดคุย เป็นสิ่งที่คู่รักแทบทุกคู่ทำกันอยู่แล้ว
แต่นอกเหนือจากนั้น อย่าลืมสังเกตพฤติกรรมหรืออาการแปลกๆกันด้วยนะ ก่อนที่สามีจะหมดรัก จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
1 เมื่อบ้านกลายเป็นโรงแรม
จากที่เคยเข้างาน 9 โมงเช้า เลิก 6 โมงเย็น กลายเป็นต้องอยู่ทำโอทีดึกๆดื่นๆ กลับบ้าน 4 ทุ่มแทบจะทุกคืน แถมเสาร์ – อาทิตย์ ก็ยังต้องออกไปทำงานอีก
และแม้ว่าเวลาที่มีส่วนใหญ่จะหมดไปกับเรื่องงาน แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เลื่อนขั้น หรือเงินเดือนขึ้นเลย เมื่อสามีกลับบ้าน ก็รีบอาบน้ำเข้านอน ทำแต่งาน การบ้านไม่ทำ ปิดไฟนอนหันหลัง ผ้าไม่ซัก บ้านไม่เก็บ
และเมื่อเขาพยายามที่จะใช้เวลาอยู่บ้านให้น้อยที่สุด กลับบ้านดึกทุกวัน ซึ่งทุกครั้งข้ออ้างที่คุณภรรยามักจะได้ฟังอยู่บ่อยๆก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเลี้ยงส่งบ้าง วันเกิดบ้าง เลี้ยงได้เลี้ยงดี เลี้ยงกันทุกวี่วัน
สุดท้ายข้ออ้างที่จะได้ยินก็หนีไม่พ้นเพื่อเงินโบนัสสำหรับอนาคตของครอบครัว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขารู้สึกว่ากลับบ้านมาแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย
ไม่รู้สึกว่าอยากรีบกลับบ้านเร็วๆ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ค่อยๆจืดจางลงแล้วก็เป็นไปได้
2 ทุกครั้งที่คุย ไม่รู้สึกดีเหมือนเคย
ทุกครั้งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จากที่เคยโทรหา ก็เริ่มไม่ค่อยสนใจ แถมไม่ค่อยจะรับสาย อ้างว่างานเยอะ ยุ่งอยู่บ้าง ปิดเสียงไว้ ไม่ได้ยินบ้าง
แม้กระทั่งตอนที่คุยกัน จากที่เคยเล่า เคยถามไถ่ กลับกลายเป็นความเงียบ อารมณ์ไม่มีอะไรจะคุย ไม่รู้จะคุยอะไรก็เกิดขึ้นแบบที่คุณก็รู้สึกได้
คำพูดที่ว่า “มีอะไรไว้คุยกันที่บ้านนะ” ออกจากปากของคุณสามีอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคนสองคนเริ่มพูดกันน้อยลง อีกไม่นานความสัมพันธ์อันง่อนแง่นก็จะตามมา
3 เกิดสังคมก้มหน้าขึ้นในบ้าน
แม้ว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะทำให้การติดต่อสื่อสารดูง่ายขึ้น แต่เรากลับรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากคนใกล้ตัว เมื่อสามีเอาแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ
มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็หยิบแท็ปเล็ตออกมาเล่น ไม่สนใจลูกเมีย คุยได้ กดไลก์ได้ทุกคนยกเว้นคนในบ้าน นั่นก็เป็นอีกสัญญาณที่อาจแสดงถึง อาการหมดรักของสามี ก็เป็นได้
4 ถามอะไรก็ไม่มีความเห็น
เมื่อก่อนเคยชมว่าใส่ชุดนั้นสวย ใส่ชุดนี้น่ารัก แต่ตอนนี้กลับแสดงท่าทีเฉยๆ แต่งหน้าสวยก็ไม่ชม แถมบ่นว่าต้องรอนาน ตอนออกไปช้อปปิ้งก็ทำหน้าเฉยชา ถามอะไรก็ไม่มีความเห็น อาการแบบนี้ เป็นใครก็น้อยใจทั้งนั้น
5 เถียงกันน้อยลง
ไม่เพียงในแง่ของการสนทนาเท่านั้น ถ้ารู้สึกว่าสามีมีข้อโต้แย้งน้อยลง ได้ยินแต่คำว่า “แล้วแต่” คุณอาจจะต้องเริ่มกังวลบ้างแล้วล่ะ เพราะมันอาจจะเป็นสัญญานของการดื้อเงียบ
อันเนื่องมาจากเขาเริ่มไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี้ ในขณะที่คุณอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องทีดี ที่สามีไม่มาโต้เถียงทะเลาะด้วย ตามใจตลอด แต่จริง ๆ แล้ว นั่นอาจหมายความว่าเขาไม่ได้สนใจคุณเหมือนเคยก็ได้
6 เมื่อสองคนกลายเป็นลำพัง
จำได้ไหมว่าตอนจีบกัน ตอนแต่งงานใหม่ ๆ เคยออกไปซื้อของจ่ายตลาดด้วยกันทุกสุดสัปดาห์? จำได้ไหมว่าเราไปส่งลูกที่โรงเรียนด้วยกันทุกวัน ?
มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสามีคุณเริ่มมีธุระบ่อย ๆ และปฏิเสธที่จะไปไหนด้วยกัน ถ้าเป็นแบบนี้คุณควรเริ่มเปิดใจพูดคุยกันได้แล้ว เพื่อที่ความสัมพันธ์จะได้ไปแย่ไปกว่านี้
7 เมื่อเซ็กส์จืดจาง
นี่อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด ว่าชีวิตการแต่งงานของคุณกำลังมีปัญหา หากพวกคุณใช้เวลาที่สมควรจะมีความสุข แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
หรือแม้แต่การปฏิเสธที่จะมีเซ็กส์ เหนื่อยบ้าง ไม่มีอารมณ์บ้าง นั่นก็คงถึงเวลาที่คุณควรเริ่มกังวลได้แล้ว ถ้าสามีของคุณเป็นแบบนี้แล้วละก็ จำเป็นอย่างมากที่คุณต้องเริ่มพูดคุย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
การแต่งงานไม่ใช่การผูกมัด เพราะชีวิตคู่คือการอยู่ด้วยกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน หากคุณมีสามีหรือคนรักที่ดี แต่คุณไม่สามารถเข้าใจและเป็นที่พักใจให้แก่เขาได้
สุดท้ายความรักก็จะจืดจางไป ไม่ว่าคุณจะสวยขนาดไหนก็ตาม ดังนั้นอย่าลืมที่จะใส่ใจ สนใจ พูดคุย และปรับเปลี่ยน ก่อนที่จะเจอกับ อาการหมดรักของสามี นะครับ