ฉะนั้น หากเรารู้สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเวลามีปากเสียงกับแฟนสาวเอาไว้ก่อน ก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยหน่วงเหนี่ยวความคิดให้ยับยั้งชั่งใจก่อนจะทำอะไรแ ย่ ๆ ออกไปไว้ได้ไม่มากก็น้อย
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงยามทะ เลาะกัน
ขุดเรื่องเก่า ๆ มาพูดอีก
ปัญหานี้อาจเป็นปัญหาระดับชาติที่หลายคู่ต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ก็ตามที่มีประเด็นความขัด แย้งเกิดขึ้น
จะมีการหยิบยกเอาเรื่องเก่า ๆ มารีเฟรชใหม่ ให้สถานการณ์ที่กำลังย่ำแ ย่อ ยู่แล้ว เลวร้า ยขึ้นไปอีก เชื่อ มั้ย…ว่าต่อให้ครั้งนี้คุณและเธอปรับความเข้าใจกันได้สำเร็จ คราวหน้ามันก็จะถูกนำมาฉายซ้ำใหม่อยู่ดี
เที่ยวไปสั่งว่าเธอควรรู้สึกยังไง
ความคิดและความรู้สึกคน ไม่ใช่สิ่งที่จะมาบังคับให้ทำตามกันได้ง่าย ๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะรู้สึกต่างกัน
หรือคิดอะไรไม่เหมือนกัน ดังนั้นคุณจะไปสั่งให้เธอคิดแบบคุณก็คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกสักเท่าไหร่ แต่ควรหันหน้ามาคุยด้วยเหตุผล และรับฟังความคิดเห็นของกันและกันแทนจะดีกว่า
ใช้คำพูดหรือกำลัง
นี่ไม่ใช่พฤติпรรมที่ลูกผช.จะกระทำต่อผญ.เลยสักนิด แม้จะไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวทำร้า ยร่างกาย แต่การใช้คำพูดเจ็บ ๆ ให้เป็นแ ผลก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน
ผญ.ส่วนใหญ่อ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว และการที่เธอใช้วาจาขุ่เข็ญบีบบังคับให้เธอทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยที่เธอไม่เต็มใจ นานวันเข้าผญ.เขาจะหมดรักเอาได้ง่าย ๆ แบบไม่รู้ตัวนะ
ทำตัวเป็นผู้พิพากษาด่วนสรุปทุกอย่าง
บางทีฝ่ายหญิงเขายังไม่ทันได้อ้าปากเอื้อนเอ่ยเหตุผลออกมาให้ฟังสักคำ คุณก็รวบรัดตัดบทต่อว่าเธอเสีย ๆ หาย ๆ ทันที
เช่น วันนี้คุณมีนัดกับเธอ แต่แฟนดัน มาสาย ทันทีที่เธอกำลังจะเอ่ยปากขอโ ทษและบอกเหตุผล คุณกลับสวนไปว่า “นี่คุณมาสายอีกแล้วนะ ทำไมไม่คิดจะมาตรงเวลาบ้าง”
โดยที่ความจริงแล้วเธอต้องพาแม่ที่ไม่สบายไปโรงพยาบาลก่อน แบบนี้แล้วถ้าคุณจะมาขอโ ทษขอโพยทีหลังก็คงไม่ทัน เพราะเธอเสียความรู้สึกไปแล้ว
ดึงดันจะถกปัญหาทั้งที่อารมณ์ยังเดือด
การที่เรารีบเคลียร์ปัญหาความขัด แย้งที่เกิดขึ้นในทันที มองในแง่หนึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจให้มองหน้ากันไม่ติด
แต่ในทางกลับกันหากคุณยังโมโห และไม่พร้อ มจะใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา ก็น่าจะหลบไปทำใจสักพักก่อน แล้วพออารมณ์เย็นขึ้นเมื่อไหร่ค่อยขอเธอคุยทีหลังดีกว่า
สิ่งที่ควรทำเมื่อทะ เลาะกัน
เคลียร์กันก่อนที่เรื่องจะลุกลามใหญ่โต
แม้จะเป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องคอขาดบา ดตา ยอะไร แต่ตราบใดที่ป มปัญหายังขมวดอยู่ในใจ มันก็ทำให้คุณสองคนรู้สึกไม่ดีต่อกันได้
สู้รีบ ๆ คลายป มปัญหานั้นออก ก่อนที่จะขมวดแน่นจนแก้ลำบากจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม อย่าลืมสังเกตตัวเองและอีกฝ่ายด้วยว่าพร้อ มคุยกันดี ๆ หรือเปล่า หากคุณหรือเธอยังมีอารมณ์เดือดดาลคุпรุ่นอยู่ ก็นิ่ง ๆ ไว้ก่อนเป็นการดีที่สุด
พูดให้ตรงประเด็น
หลาย ๆ ครั้งที่คนเราเถียงกันไม่จบไม่สิ้น ก็เพราะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด (หรือบางครั้งก็ทั้งคู่) พยายามโยงเรื่องนู้นเรื่องนี้เข้ามาผูกกับประเด็นที่กำลังถกเถียงอยู่
หารู้ไม่ว่านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้คุณสองคนไม่มีวันเข้าใจกันได้ ฉะนั้น มีปัญหาเรื่องใดให้คุยกันที่เรื่องนั้น
รับฟังอย่างตั้งใจ
เวลาที่เธอกำลังอธิบายเหตุผลหรือพูดในสิ่งที่คิด ขอให้คุณฟังอย่างตั้งใจและมีปฏิกิริยาโต้ตอบเธอกลับไปบ้าง ไม่ใช่ฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
หรือพอเธอขอความคิดเห็นก็ตอบไม่ได้ (เพราะไม่ได้ฟังไง) เรื่อง “การสื่อสาร” กับคนรักถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากเลยทีเดียว เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่มีต่อเธอด้วยน่ะสิ
รู้จักเลือกใช้คำพูด
เช่น ถ้าคุณนัดแฟน มาทานข้าวที่ร้านอาหารยอดฮิต แต่แฟนคุณดัน มาสายด้วยเหตุจำเป็นบางประการ แทนที่คุณจะพูดว่า
“คุณน่าจะโท รมาบอกผมสักนิดนะ ถ้าคุณคิดว่ามาไม่ทัน ผมจะได้เผื่อเวลาไว้ ไม่ต้องรีบมาให้เสียเวลา” แต่ให้พูดว่า “ผมแค่กลัวคุณจะหิว
ถ้าเกิดคุณมาไม่ทันแล้วพนักงานต้องข้ามคิวที่เราจองไว้ อีกอย่างผมเป็นห่วงด้วย กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรรึเปล่า” เมื่อเทียบกันแล้ว แบบหลังฟังดูซอฟต์กว่าเยอะ และไม่ทำให้เธอรู้สึกแ ย่ด้วย
ยอ มรับความผิดของตัวเอง
นี่คือวิธีจัดการกับปัญหาให้จบลงได้ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งก็คือการ ยอ มรับผิด เพราะหากต่างฝ่ายต่างยืนกรานในเหตุผลของตัวเองว่า “ชั้นถูก คุณนั่นแหละผิด” แล้วเมื่อไหร่มันจะหาข้อยุติได้ล่ะ
ถ้าคุณเป็นฝ่ายผิดก็ยอ มรับอย่างลูกผช.ไปเลยดีกว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามเอาชนะเธอหรอก ตัวคุณเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าความจริงมันยังไง
อ้อ…ในกรณีที่คุณไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ก็ไม่ต้องโชว์แมนยอ มรับผิดเองเพื่อให้เธอสบายใจนะ ไม่งั้นอีกฝ่ายจะได้ใจและทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ให้คุณค่อย ๆ ลองอธิบายให้เธอเข้าใจ