มีการกระทำใดบ้างที่ทำให้คนซึ่งรักกันแทบตา ย ต้องเลิกร้างกันไปในที่สุด บางทีอาจไม่ใช่ความผิดของใคร แต่เป็นเพียงความไม่ลงตัวซึ่งถูกค้นพบเมื่อสายนั่นเอง
และจากข้อ มูลที่ได้ค้นคว้ามีรายงานเกี่ยวกับตัวอย่างนิสัยที่ไม่ควรนำมาใช้กับคนรัก
1. เอาแต่ใจตัวเอง
ความจริงคนทุกคนก็เอาแต่ใจตัวเองด้วยกันทั้งนั้น เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเอาแต่ใจคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียว นี่เป็นเหตุผลที่จริงที่สุดแต่การเอาแต่ใจตัวเอง
ของคนแต่ละคนไม่เท่ากันบางคน มากบางคนน้อย บางคนคิดว่าตัวเองน้อยแต่ความจริงแล้วมาก เรื่องแบบนี้ไม่ยากที่จะตัดสิน
แต่ก็ไม่ง่ายที่จะวางมาตรฐานอันแน่นอนไว้ แต่มีข้อสังเกตง่ายๆให้สำหรับคนที่ต้องการตรวจสอบตัวเอง
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณอยากดูหนังเรื่องนี้ แต่เขาอยากดูเรื่องอื่นคุณก็จะไม่ยอ มและยืนยันว่า จะต้องเป็นเรื่องนี้เท่านั้น ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็ไม่ต้องไปดูกัน
หรือ มีบางวันที่เขาอยากไปไหนกับเพื่อนๆ อาจจะแค่ไปเล่นกีฬาที่ไหนสักแห่งหรือไปไหนต่อไหน
ก็ตามโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมารองรับ แต่คุณกลับไม่ยอ ม เพราะไม่อยากให้เขาไปที่ไหนกับใครทั้งนั้น นอกจากคุณคนเดียว
เรื่องแบบนี้อาจจะไม่ใหญ่โตนัก ในตอนแรกๆแต่พอนานวันเข้า มันจะกลายเป็นความน่าอึ ด อั ด เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายและเป็นเหตุการณ์ที่ต้องหลบหลีก
ถึงแม้ว่าจะต้องโกหп แบบหน้าตา ยกับคุณก็ตาม…คุณโกรธเขาไม่ได้หรอกเพราะตัวคุณนั่นแหละ ที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้
แล้วจะบอกให้นะว่า พอได้ทำบ่อยๆเข้าเขาจะรู้สึกว่า เออ…โลกที่ไม่มีคุณมันดีกว่าเป็นไหนๆจริงปะ
2. ทำตัวเป็นเจ้าของมากเกินไป
ในข้อนี้ความเป็นจริงคุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเขา คุณเพียงแค่ต้องการให้ใครต่อใครรู้เท่านั้นเองว่า เขากับคุณน่ะเป็นแฟนกัน
วิธีการของคุณอาจจะง่ายๆ แค่อยู่กับเขาตลอดเวลาที่คุณตื่น ไปไหนไปด้วย ทำอะไรทำด้วย คุณคิดว่าการได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่ วโมงในหนึ่งวันนั้น
เป็นความถูกต้องที่สุด สำหรับคนรักกัน แต่ความจริงแล้วไม่เลย คนทุกคนต้องการเวลาส่วนตัว ซึ่งหมายถึงเวลาที่จะได้เป็นตัวของตัวเอง
หรือบางทีอาจจะแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะได้คิดอะไรเพลินๆ กับตัวเองซึ่งหากคุณไม่พยายามเข้าใจ นั่นอาจนำมาสู่สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ต้องเดินกันคนละทางก็ได้
3. หึงแบบไร้ขีดจำกั ด
ความหึงนี่อั้นไม่ได้ ห้ามก็ไม่ได้ คนขี้หึง ใครจะมาบอกให้เลิกหึง หรือลดความหึงนี่รับรองว่าไม่มีทาง แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่อยากจะบอก
คือ ความหึงของคนเรา นี่ต้องมีลิมิตคือถ้าหากจะหึงก็ไม่ควรหึงจนเกินพอดี
หรือ หึงจนเกินงาม บางคนน่ะ หึงมาก ข นาดไม่อยากให้แฟนของตัวเองไปไหนกับเพื่อนๆ เลย
บางคนจะโทรฯ เช็คอยู่ตลอดเวลาว่าทำอะไรที่ไหนกับใคร เวลามีเพื่อนต่างเ พศมาพูดด้วยก็จะหึง
จะหวงพา ลจะหาเรื่องทะ เลาะอยู่ตลอด อย่างนี้เขาเรียกว่า หึงจนน่ารำ คาญ หึงจนต้องย้าย ไป มีแฟนใหม่ ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
4. บอกเลิกทุกครั้งที่ทะ เลาะกัน
ในประเด็นนี้เราเข้าใจนะว่า การบอกเลิก ทุกครั้งที่ทะ เลาะกันนี่ นั้นความจริงก็ไม่ได้คิดอย่างที่บอกไปหรอก แต่พูดไปก็เพราะว่าอยากทำให้อีกฝ่ายเสียใจ (แบบไม่มีเหตุผล) หรือไม่ก็
เพราะอยากจะแสดง ให้เห็นว่าฉันไม่แคร์เธอหรอก แล้วบางทีที่บอกไป ก็เพราะว่าอยากให้เขาง้ อก็เท่านั้นเอง
วิธีการนี้จะใช้ได้ผล ก็ในช่วงแรกๆเท่านั้นแต่พอทำหลายๆครั้งเข้า ใคร๊มันจะไปทนได้ อยากเลิกนักใช่ไหม เอ้าก็ได้เป็นไงล่ะ น้ำตาเช็ดหัวเข่าไปตามระเบียบ
5. ไปเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น
การไปเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่นให้เห็นต่อนาต่อตานั้น มีสาวๆหลายๆ ท่านหรือแม่กระทั้ง
หนุ่มหลายๆคนเองก็มองว่ามันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีประมาณนั้น การทำแบบนี้บางคนเขาจะคิดว่า คุณกำลังเหยี ยบย่ำศักดิ์ศรีของเขา
คุณกำลังไม่ให้เกียรติเขาในฐานะของคนรัก ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น การอยู่ด้วยกันก็คงไม่มีความหมายอีกต่อไป คุณอาจจะสนุกกับการได้เห็นคนที่คุณรักหึงบ้าง
เพราะนั่นจะเป็นการคอนเฟิร์ม ว่าคุณเองก็มีค่าสำหรับเขา แต่คุณควรจะรู้ไว้บ้างว่า บางทีคนของคุณ อาจกำลังคิดว่าสิ่งที่คุณทำไปน่ะ
จากเหตุผลเดียวคือคุณไม่แคร์ความรู้สึกของเขา (หรือเธอ) เลยและถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันไปทำไม
6. เชื่อเพื่อน มากเกินไป
คนที่เป็นเพื่อนไม่มีใคร ไม่หวังดีกับคุณหรอกเรื่องนี้วางใจได้ แต่บางทีความหวังดีของเพื่อน อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับคุณก็ได้ที่สำคัญ
บางทีเพื่อนก็ไม่อยากให้คุณมีแฟนเพราะก่อนหน้านี้คุณอาจจะสนิทกับเขาเป็นตังเมเลยก็ได้ดังนั่นเวลามีอะไร ก็อย่าเชื่อเพื่อน มาก
ซึ่งขอให้จำไว้ว่า ชีวิตคุณ คุณต้องตัดสินใจ เลือกด้วยตัวเอง เพราะเมื่อเลือกแล้วผลจะออก มาดีหรือร้า ยคุณคือคนที่ต้องรับไว้เอง
ไม่มีเพื่อนคนไหน มาแบกความทุกข์แทนคุณได้ ถ้าจะดีไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้
แต่ไม่ว่าเรื่องอะไร ในชีวิตคุณควรจะเป็นคนที่คิด และตัดสินใจด้วยตัวเองอย่างมีเหตุผลเสมอด้วยเหมือนกัน
7. โกรธแล้วไม่พูดด้วย
การกระทำเช่นนี้ จะทำ ให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าซึ่งหากไม่พูดกันอีกก็จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด
คุณคิดอย่าง เขาคิดอีกอย่าง เข้าใจกันไปคนละทาง เรื่องนี้ล่ะที่อัน ตราย ที่สุด และเป็นเหตุผล
ที่ทำให้เลิกกันได้มากที่สุด ทั้งนี้มีคำแนะนำง่ายๆ สำหรับผู้ที่มักจะไม่ยอ มพูด
กับคนรักเวลาที่ตัวเองโกรธคือ ท่องเอาไว้เสมอว่า ในช่วงเวลาที่มีปัญหา
ถ้าคุณเงียบ เขาก็จะไม่สามารถ ก้าวเข้ามา ทำความเข้าใจกับคุณได้ ซึ่งบางทีเรื่องที่ทำให้คุณไม่สบายใจ อาจจะไม่ได้มีเหตุอื่นใดเลย นอกจากความเข้าใจผิด
หรือ คิดไปเองเท่านั้น แล้วถ้าคุณ ยังอยากจะโกรธเขาอยู่ละก็ เอาไว้พูด กันให้รู้เรื่องก่อน แล้วค่อยโกรธก็ยังไม่สาย
8. นัดไม่เป็นนัด
ประเภทนัดกันไว้ เป็น มั่นเหมาะ แล้วก็มี การ เปลี่ยนแปลง เช่น เพื่อนโทรศัพท์มาขอความ
ช่วยเหลือกระทันหัน ก็เลยต้องไปกับเพื่อนก่อน แฟนไว้ทีหลัง พอนัดกันใหม่ ก็มีเหตุให้ต้องเลื่อนออกไปอีก
เพราะเพื่อนคนเดิมนี่แหละมาขอความช่วยเหลืออีกแล้ว เอ้า..ไม่เป็นไร นัดกันอีกทีก็เลื่อนอีกแล้ว
ทีนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ก็ไม่มี ใครเขาทนได้หรอก
บางคนไม่ได้เจอกับเรื่องแบบนี้ แต่กลายเป็นว่า นัดแล้วมาสายนัดเช้ามาถึงตอนบ่าย นัดบ่ายมาถึงตอนเย็น
เข้าขั้น มาเลท เป็นประจำ นัดกันแต่ละทีเป็นต้อง ให้อีกฝ่ายรอ ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่ วโมง พอรอบ่อย ๆ เข้าก็เลยขอลา ไปรอคนอื่นแทนดีกว่า
9. พูดจาข่ มกันต่อหน้าคนอื่น
ข้อนี้ส่วนใหญ่ผช.จะเป็น มากกว่าผญ. เพราะผช.ไทยส่วนใหญ่เติบโต มากับความเชื่อ ที่ว่า “ผช.เก่งกว่า” เพราะฉะนั้นในความรู้สึกของพวกเขา
จึงมักจะคิดว่าตัวเองต้องมีความเหนือกว่าผญ. อยู่บ้างสักหน่อย การพูดจาข่ มแฟนจึงเกิดขึ้นได้บ่อยๆแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าสงสาร และน่ารำ คาญมาก สำหรับผู้ที่โ ดนข่ มดังนี้เรื่องนี้ก็ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง
10. โกหп
การโกหпบ้าง เป็นครั้งคราวนั้น มีข้อดีอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าพูดความจริงออกไปก็จะเป็น การทำร้า ย จิ ตใจของอีกฝ่ายหนึ่ง หรือไม่ก็จะเป็นการทำให้ อีกฝ่ายหนึ่ง
ไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นผู้รู้คนเดิมก็เลยให้คำแนะนำว่า ถ้าโกหпก็ต้องโกหпให้ตลอด อย่าให้จับได้เป็นอันขาดแต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่า จะทำอย่างนั้นได้ก็ขอแนะนำไว้ตรงนี้ว่า อย่าไปโกหпซะก็สิ้นเรื่องครับผม