การจีบกันจน มาเป็นแฟน เป็นคนรักมีความรักให้กันและกันว่ายากแล้ว แต่การสร้างความสัม พันธ์ของคู่รักให้ความรักยืนยาว คบกันไปไม่มีเบื่อ ไม่เลิกรากัน นี่สิยากกว่า
เพราะเส้นทางรักใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบแสนโรแมนติกเสมอไป คู่รักที่คบหากัน ต่างก็ต้องเจอกับเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ้าง ทะ เลาะกันบ้าง แง่งอนกันบ้าง
แต่การที่คนสองคนจะประคองความรักไปให้ยืนยาวนั้นอาจจะต้องอาศัยความเข้าใจกัน และเปิดใจคุยกัน เพราะชีวิตคู่ย่อ มมีหลายปัจจัยที่ทำให้ความรักของเราจืดจางลงไป
1. อย่ารีรอที่จะแสดงออกถึงความรัก
ไม่ใช่ว่าพอเป็นแฟน เป็นคู่รัก คนรักกันแล้วก็ไม่ต้องแสดงออกถึงความรักให้มากมาย เพราะก็รู้ๆ กันอยู่ ถ้าใครหลายๆ คนกำลังคิดแบบนี้อยู่ถือว่าผิดเลยนะคะ
แม้ว่าจะคบกันเป็นคู่รักแล้ว นานๆไปหากเราไม่หมั่นสร้างความรักบ่อยๆ ความรักที่ให้กันก็สามารถที่จะจืดจางได้เช่นกัน ฉะนั้นอย่ามัวรีรอที่จะแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย
หรือความเข้าใจ เอาใจใส่ให้กันและกันทุกครั้ง อย่างเปิดเผยแทนที่จะเก็บไว้ในใจเงียบๆไม่ว่าจะเป็นการแสดงความรักทางวาจา หรือทางกาย เช่นการпอด ก็ตาม รับรองได้ว่าความรักในชีวิตคู่ของคุณจะไม่มีวันจืดจางอย่างแน่นอนค่ะ
2. เชื่อใจซึ่งกันและกัน
กว่าจะมาคบกัน เป็นแฟนกัน เป็นคู่รักกัน มอบความรักให้กันและกัน ก็จะต้องเริ่มจากการที่เราจะเชื่อใจคนๆ นั้น ซึ่งมันต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ศึกษากันและกัน เปิดใจยอ มรับกัน
และสร้างความรักความผูกผัน ความเชื่อใจกัน ยิ่งเป็นแฟน เป็นคนรักกันแล้วด้วย ยิ่งต้องมีความเชื่อใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ความรักสั่นคลอน
หรือจืดจางลงไป ก็อย่าทำร้า ยความรู้สึก อย่าทำให้ความเชื่อใจกันหมดไป หากจะก้าวไปถึงการใช้ชีวิตคู่การเชื่อใจกัน มีความสำคัญมากๆ เพราะถ้าพลาดไปครั้งเดียว ความเชื่อใจที่มีนั้นอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
3. ไม่เอาแต่ใจจนเกินไป
การเอาแต่ใจตัวเองบางครั้งก็จะทำให้คนรักของคุณเบื่อกับการกระทำตรงนั้น แม้ว่าเขาจะไม่แสดงออกถึงความไม่ชอบใจก็ตาม แต่มันอาจจะเก็บเอาไว้นานๆ แล้วรอรະเ บิ ดขึ้น มาทีเดียว
ถ้าถึงวันนั้นขึ้น มาความรักที่สั่งสมมาอาจจะพังทลายลงได้เลย ฉะนั้นอยากให้จำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่เป็นโสดเหมือนแต่ก่อนแล้ว จะทำอะไรก็นึกถึงใจเขาบ้าง เอาใจเขามาใส่ใจเรา
และต้องแคร์ความรู้สึกของเขาก่อนเสมอ จำไว้ว่าชีวิตคู่จะเพอร์เฟกต์ได้ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง และฟังแต่ความต้องการตัวเองฝ่ายเดียว ที่สำคัญคุณและเขาต้องให้เกียรติในความคิดของกันและกัน และเปิดใจรับฟังสิ่งที่เขาต้องการค่ะ
4. ปรับตัวเข้าหากัน
แต่ละคนเกิดมาในครอบครัวที่แตпต่างกัน มีบุคลิกนิสัยที่ไม่เหมือนกัน การที่จะมาอยู่ร่วมกันใช้ชีวิตคู่ นอกจากจะต้องเปิดใจซึ่งกันและกันแล้ว การปรับตัวเข้าหากันถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ
เพราะถ้าคุณไปบอกให้คนรักเปลี่ยนตัวเอง หรือคุณต้องเปลี่ยนตัวเองในแบบที่ไม่ใช่คุณ เชื่อสิว่าความสัม พันธ์แบบนี้อยู่กันได้ไม่ยืดหรอก
เพราะทั้งคุณและคนรักต่างก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง และต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกันทั้งคู่ เมื่อคบกัน มอบความรักให้กัน เป็นคู่รักกันก็ต้องแสดงตัวตนที่ชัดเจนออกมา
จะได้รู้ว่าเราและคนรักต่างยอ มรับกันและกันได้รึเปล่า แล้วลองมาปับตัวเข้าหากันทีละนิด พบกันคนละครึ่งทาง ยอ มรับความเป็นตัวตนของกันและกัน แบบนี้ความรัก ความสัม พันธ์ของคุณยืนยาวแน่นอน
5. ปล่ อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระบ้าง
นอกจากการเปิดใจเข้าหากันแล้ว การเป็นคนรักกัน ต้องมีขอบเขตของกันและกัน ปล่ อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระบ้าง ให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ ได้ใช้ชีวิตที่เขาต้องการ
ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนจะคอยบงการชีวิตเขาว่าต้องทำแบบนี้ ต้องทำแบบนั้น ต้องไปเที่ยวกับเรานะ เพราะการบังคับให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ชอบ มันจะทำให้รู้สึกว่าเขาไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง
แล้วแบบนี้จะอยู่ด้วยกันไปทำไม หากต้องแต่งงานกันใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้ว ฉันจะมีอิสระหรือไม่ แบบนี้ต่างคนต่างไปจะดีกว่า
ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็ต้องให้พื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน ไม่ก้าวก่าย ไม่โทรจิก มีอะไรอยากแ ชร์ ก็บอกกัน เคารพการตัดสินใจและความเห็นของคนรัก และให้เกียรติกันค่ะ
6. สร้างเซอร์ไพรส์ให้แปลกใจ
การสร้างความประทับใจแบบสุดๆ วิธีหนึ่ง ก็คือการสร้างเซอร์ไพรส์ซึ่งหลายคู่คงจะทำเซอร์ไพรส์ในโอกาสต่างๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น วันวาเลนไทน์ วันเกิด
แต่นอกเหนือจากนี้คุณก็ควรจะกระชับความสัม พันธ์ ให้ความรักเพิ่มความขึ้น ด้วยการเซอร์ไพรส์ด้วยการซื้อของที่เคยบ่นว่าอยากได้
เพราะการทำให้ประหลาดใจแบบนี้ได้ใจไปเต็มๆ ถ้าอยากให้เนียนแบบสุดๆ ตอนเขาบ่นให้ฟังต้องทำเป็นไม่สนใจ หรือบอกไปแนวว่าไม่สนับสนุนให้ซื้อเลย สิ่งที่ต้องระวังคือ ระวังช้าจนคนรักซื้อ มาแล้วล่ะ