คนที่หลายรัก และชอบไปกุ๊กกิ๊ก เกลือกกลั้วและสำส่อนไม่เลือกหน้า เพราะแม้แต่ผญ.บางคนก็ชอบกระจายความรักให้ใครๆ ไปทั่วแคว้นแดนสยามเหมือนกัน
แต่อัตราการแสดงออกอย่างโจ๋งครึ่มน่ะ คงมีสัดส่วนไม่เท่ากันแหงๆ เพราะหนุ่มๆส่วนใหญ่ ไม่ชอบเก็บความในใจเรื่องนี้ไว้นักหรอก
แต่ไม่ใช่กลัวว่าถ้าเก็บ “รักซ้อนซ่อนรัก” ไว้แล้วจะอกแตпตา ยนะ ทว่าอยากบอกออกไปเพื่อจะได้รู้ไงล่ะ ว่า “คนที่เค้าไปปิ๊งเข้า” จะเล่นด้วยรึเปล่า?
ดังนั้น แทนที่จะเขียนเรื่องชายนอกใจ ก็ไม่รู้จะฝอยไปทำไม เพราะผช.น่ะเจ้า ชู้รู้ๆ กันอยู่ แถมเวลาเค้านอกใจน่ะ มีแฟนสาวคนไหนไม่รู้มั่งมีมะ?
ถ้าไม่รู้ก็ตลกแล้ว อย่าอ มฮอลล์มาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เอ๊ะ หรือไม่อยากยอ มรับความจริงกันแน่ แต่เอาน่ะ ถ้าดูไม่ออกจริงๆ ไว้จะเขียนให้อ่านละกัน
คราวนี้ขอแฉ ฝ่ายหญิงที่นอกใจแฟนของเธอกันบ้าง ท่าจะดี แต่อุบอิบก่อนว่า เรื่องนี้สาวดีๆ ซึ่งไม่มีพฤติпรรมเสื่อ มเสียไม่เกี่ย ว นะ
เพราะไม่ใช่กลุ่มที่เขียนถึง และเชื่อว่า ผญ.ที่รักเดียวใจเดียว หรือ รักใครก็รักทีละคนน่ะมีมากกว่า “สาวหลายใจ” หรือ “สาวเจ้า ชู้” แน่นอน
ถ้าใครอยากรู้ว่าสาวคนไหนนอกใจแฟน ล่ะก็ มีสัญญาณต่อไปนี้ส่อพิรุธให้จับได้ไล่ทันละกันว่า หล่ อนนอกใจแน่แล้ว เช่น…
1. หล่ อนไม่ค่อยวิพากษ์วิ จารณ์แฟนชนิดกระหน่ำซ้ำเติมเหมือนเดิมแฮะ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หล่ อนจะแคร์ในสิ่งที่แฟนพูดหรือทำอะไรก็ตามออกมานะ โดยเฉพาะถ้าพูดไม่ถูกหูก็โ ดนด่ ากลับแหงๆ ถ้าปากหวานก็เรียกดาร์ลิ่งจ๊ะ ดาร์ลิ่งจ๋า กันทั้งวัน แต่เดี๋ย ว นี้รึ หล่ อนแทบไม่สนด้วยซ้ำ ว่าแฟนจะเป็นตา ยร้า ยดีอย่างไร?
เรียกว่าหมดความสนใจในตัวแฟนอย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้ อ่ะ เพราะมีเป้าหมายใหม่ให้ดู๋ดี๋ซี้ดซ้าดแล้วนี่หว่า ทว่าอาการไม่สนใจไยดีหยั่งงี้
ควรสังเกตให้ดีๆซะก่อน เพราะบางทีไม่ใช่เพราะมีใครอื่นก็ได้นะ แถมอาจเป็นอาการชั่ วคราว จึงไม่เข้าข่ายนอกใจ แต่ถ้าเลิกสนอย่างถาวร ไม่มีคะ ไม่มีขา เป็นหางเสียงแล้ว นั่นแหละ ของจริงล่ะ
2. รักษารูปร่างและออกกำลังวังชา
เพื่อให้มีรูปร่างที่ใครๆ อยากเหลียวมอง นี่ก็ใช่ จู่ๆจากเคยอวบอั๋นเป็นบริดเจท โจนส์ สาวทรงชามกะ-ละมัง และเอร็ดอร่อยกับอาหารทุกจานที่ขวางหน้า
แต่วันดีคืนดีก็หุนหันเปลี่ยนใจมาเข้าฟิตเนส เพราะอยากมีเรือนร่างเช้งกะเด๊ะกว่าแต่ก่อน ทั้งที่ไม่ได้มีวี่แววว่าหล่ อนคำนึงถึงเรื่องสุขภาพอะไรทั้งสิ้น
อีกอย่าง สุขภาพน่ะเรื่องรอง แต่อ ยากสวยน่ะเรื่องใหญ่กว่าน่ะสิ แถมทำงี้ไม่ใช่เพื่อให้แฟนตัวจริงทั้งรักทั้งห ลงด้วยนะ
3. สุงสิงกับสมาชิกในครอบครัวถี่จัง
ทีเมื่อก่อนแทบไม่เคยเอ่ยถึงญาติให้ได้ยินเลยสักแอะ นี่อาจเป็นข้ออ้างก็ได้นะ หากพ่อแม่ของหล่ อนเกิดเจ็บไข้ได้ป่ วยขึ้น มา ยังพอเข้าใจว่าเธอต้องรีบกุลีกุจอช่วยเหลือแหงๆ เพราะพ่อแม่ใครใครก็รักจริงมะ
แต่หากหล่ อนอ้างอยู่นั่น แหละว่า วันนี้ต้องทำธุระกับญาติห่างๆ แถมเป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องซะด้วย ไม่ใช่พี่น้องคลานตามกัน มาซะหน่อย
หรือขอตัวไปดูแลลูกๆของน้า และหลานๆของเพื่อน…เปิดเนิร์สเซอรี่ฆ่ าเวลาหรือไงเนี่ย? แต่แท้จริงกลับเอาเวลาไปอี๋อ๋อฉอเลาะกับคนอื่นต่างหาก แล้วใช้วิธีขุดญาติโกโหติกาจากไหนไม่รู้มาบังหน้า โถ…ช่างเข้าใจแหกตาจังนะตัว
4. มีเพื่อนหน้าใหม่ๆ
เพิ่มขึ้นทุกวัน แล้วเป็นเพื่อนนอกวงการที่ไม่ได้ทำงานเอี่ยวกันซะด้วยดิ เผอิญไปรู้จักอีท่าไหนก็ไม่รู้ เพราะหล่ อนคงไม่อยากเล่าให้ฟัง
แต่สนิทกันโค ตรเร็วเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้หล่ อนเป็นสาวสังคมจัดจ้านซะที่ไหน นานน้าน ถึงจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงซึ่งมักเป็นเพื่อนหน้าเดิมๆ
หรือ มีรู้จักใหม่ก็ไม่มากเท่าไหร่ ที่สำคัญ ไม่เคยเห่อเพื่อนใหม่จนออกนอกหน้าหยั่งงี้ซะด้วย แล้วอู้ย! เพื่อนหน้าใหม่แต่ละคนที่หล่ อนรู้จักนะ อู้หู ตรงสเปกกับใจที่อยากได้เป็นแฟนพอดี๊พอดี บังเอิญมาสอดคล้องต้องกันได้ไงวะเนี่ย
5. หล่ อนไม่อยากให้แฟนตัวจริงเข้ามาประชิดและมีเ พศสัม พันธ์ด้วยแล้ว
เมื่อก่อนแค่สะกิดก็โผเข้าหา แต่ปัจจุบันเรอะ ข นาดจับไม้จับมือแถมจับแล้วจับอีก (จับอะไรมั่งเดาเอาเอง) ยังรู้สึกงั้นๆ ไม่ดึ๋งดั๋งตื่นเต้นแล้วอ่ะ
เพราะหล่ อนไม่เห็นแฟนเป็นสิ่งเร้าอารมณ์ให้อยากมีกา มกิจด้วยน่ะซี หรือถ้ายอ มคล้อยตาม เอ้า…กุ๊กกิ๊กหน่อยก็ได้ฟะ ไ อ้ครั้นโหมโรงไม่ทันไร หล่ อนก็รู้แล้วอ่ะ ว่าท่าเดิมๆมาอีกแหละ แต่ต่อให้เปลี่ยนไปสวิงสวายแค่ไหน ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว