ความรักคือการเรียนรู้ เริ่มแรกรักอาจจะห อ มหวาน ชี้นกเป็นนก น้ำต้มผักยังว่าหวาน เมื่อเวลาผ่านไปเราได้เรียนรู้ตัวตนของอีกฝ่ายมากขึ้น ดังนั้น หากคู่ไหนรับกับตัวตนที่แท้จริงของกันและกันได้ก็ย่อ มประคองความรักให้ยืนยาวได้
แต่จะเป็นเช่นนั้นทุกคู่หรือ? ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 คนเท่านั้นจะเข้าใจได้ เหตุผลที่ว่า “เข้ากันไม่ได้” มันไม่ใช่เรื่องผิด
แต่อาจเป็นเรื่องดีกว่าหากเรารู้ตัวเร็วว่ามีบางอย่างทำให้เราเข้ากันไม่ได้ และจะได้หาทางแก้ไขสิ่งนั้น
1. คบกันแต่ไม่รู้ใจกัน
เมื่อคนรักกัน 2 คน เราอาจจะใช้คำว่าคนรู้ใจก็ได้ ดั่งสำนวนที่ว่า “มองหน้าก็รู้ใจ” นั่นหมายถึงเรารักกัน คบหากันต้องเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่น
คือรู้จัก รู้ใจกันในหลายๆ เรื่อง ดังนั้นหากคบกันแล้วแต่เขาหรือเราไม่รู้ใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ชอบอะไร นิสัยใจคอเป็นอย่างไร ไม่เข้าใจกันปัญหาก็จะตามมา บ่งบอกถึงสัญญาณไม่ดีเท่าไหร่แล้ว
2. คบกันแล้วต้องเสแสร้งเหมือนว่าเป็นอีกคน
ในแบบที่เขาชอบ นั่นเขาอาจจะประทับใจคุณจริง แต่คงเป็นความรักที่ไม่ระยะยาวแน่นอน ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นคนอื่นได้ตลอดเวลาหรอกนะ
การเป็นตัวของตัวเองนี่ตะหากคือสิ่งสำคัญ ทางที่ดีหากเกิดปัญหานี้แนะนำให้ปรับตัวเข้าหากันคุณจะรู้สึกว่าการรักกันไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นแบบนั้นแบบนี้ รักกันอย่างที่ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นน่าจะส่งผลในระยะยาวได้ดีกว่า
3. คุยกันไม่รู้เรื่องความคิดไม่ตรงกัน
หากเป็นบางเรื่องที่คู่รักอาจไม่เข้ากันกันบ้างก็คงยอ มกันได้ แต่ถ้าส่วน มากแล้วพวกคุณไม่เข้าใจกันเลยความคิดเห็นแตпต่างกัน แน่นอนต้องนำพามาซึ่งการทะ เลาะเบาะแ ว้ง
อารมณ์เข้ามาอยู่เหนือเหตุผลที่อยากเอาชนะ นั่น มันไม่ใช่สิ่งที่คนรักกันเขาทำกันหรอกว่ามั้ย? ให้สำรวจว่าเราและเขามีเรื่องใดที่ไม่ตรงกันบ้าง หากเป็นส่วนใหญ่ที่เข้ากันไม่ได้คงไม่ต้องพูดถึงอนาคต
4. คุณหรือเธอรู้สึกไม่ไว้วางใจคนรักร้อยเปอร์เซ็นต์
คนรักกันแน่นอนการไว้วางใจเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อ มีรักการไว้ใจย่อ มตามมา แม้ว่าอาจจะไม่ทั้งหมด แต่ต้องเป็นส่วน มาก เช่นว่าเรามีปัญหาเราเองกล้าที่จะเล่าปัญหาเหล่านี้ให้เขาฟัง
เพื่อหาทางออกร่วมกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและัน แต่หากเราเลือกที่จะบอกเพื่อน มากกว่าคนรัก แสดงว่าเราไม่ได้มั่นใจในตัวคนรักมากนัก นั่นคงเพราะเขาต้องมีบางอย่างที่ทำให้เรายังไม่มั่นใจในตัวเขาทั้งหมด
5. คบกันแล้วมีชีวิตมีแต่ดิ่งลง
คนเราเมื่อรักกันควรเป็น”คู่สร้างคู่สม”มากกว่าการเป็น “คู่пรรม” จริงมั้ย? หากคุณรู้สึกว่าความรักของคุณทำให้ชีวิตแ ย่ลงมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องเงินทอง ที่มีอยู่เริ่มหดหายไป ซ้ำร้า ยเป็นหนี้กองโต
ต้องหาเงินหมุนให้พ้นเดือน เหตุอาจจะเกิดจากการไม่วางแผนการเงินให้ดีจนเราเองต้องเดือดร้อนไปด้วย หรือแม้แต่เรื่องอื่นๆ
เช่น มีแฟนแต่สังคมเพื่อนหายไป หรือติดแฟน มากไปจนส่งผลเราแ ย่ลง เป็นแบบนี้ควรต้องห่างกันดูบ้างแล้วแหละ
6. รู้สึกเครียดอึ ด อั ดใจ
ว่ากันว่าคนสองคนจะรักจะชอบกันได้เคมีต้องตรงกัน นั่นหมายถึงต้องมีบางอย่างที่ดึงดูซึ่งกันและกัน แต่เมื่อนานไปรู้สึกได้ว่าเราอึ ด อั ดที่อยากจะพูด
อยากจะบอกอะไรเขาไปแต่กลัวต้องทะ เลาะกัน หรือผิดใจกัน มีหลายอย่างที่ไม่สามารถเข้ากันได้ จนกลายเป็นความเครียดและสุดท้ายความรักอาจจะเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ นั่นเอง
7. ไม่ให้เกียรติกัน
แน่นอนความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน ต้องให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เพราะนั่นคือคุณสมบัติที่สำคัญของคนรักกัน มักจะทำกันเพื่อความสัม พันธ์ที่ยาวนาน
แต่หากคนรักของคุณตอนนี้ไม่ให้เกียรติกันเลย ทั้งตัวเรา ครอบครัว เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง เวลาทะ เลาะเบาะแ ว้งอ้างอิงถึงบุพการี ว่าเราเสียๆ หายๆ คิดว่าความสัม พันธ์นี้ไม่น่ายืด ฟันธง!
8. รู้สึกได้ว่าไลฟ์สไตล์เราต่างกัน มากเกินไป
คนเราย่อ มมีความชอบไม่เหมือนกัน อาจจะคล้ายกันบ้างแต่แน่นอนไม่ทั้งหมด บางคนชอบฟังเพลงลูกทุ่ง อีกคนชอบเพลงสากล คิดง่ายๆว่าแค่นั่งรถคันเดียวกัน ต้องแ ย่งเพลงกันฟังเสียแล้ว
แล้วเรื่องอื่นๆ ล่ะ? จะเข้ากันได้มากแค่ไหน บางคนชอบเข้าสังคม แต่อีกคนชอบอยู่บ้าน บางครั้งบางคราวคนจะรักกันได้ต้องเกิดจากความชอบไปในแนวทางเดียวกัน
และแน่นอนเมื่อแรกคบคุณอาจจะทนได้เรื่องความต่าง แต่นานไป มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นหรอก และมันก็เป็นเหตุผล ที่ทำให้คุณไปด้วยกันไม่ได้
9. มองไม่เห็นอนาคตร่วมกัน
นอกจากชีวิตจะจมลงแล้วปัญหาอื่นๆ ก็ตามมา หรืออาจจะไม่มีปัญหากันแต่ชีวิตย่ำอยู่กับที่ จนบางครั้งก็ต้องกลับมานั่งทบทวนอีกครั้งว่าเรื่องราวระหว่างเรา 2 คน จะเป็นไปในทิศทางใด
หากฝ่ายชายยังไม่พร้อ มที่ะสร้างครอบครัวโดยที่ฝ่ายหญิงเริ่มมองหาอนาคตแล้ว หรือฝ่ายหญิงเองยังคงยึดติดกับสังคมแบบเดิมๆ อยู่ไม่พร้อ มที่จะเก็บเงินหรือ สร้างครอบครัว
และนี่อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าหากเราไม่แก้ไขหรือตกลงกัน สุดท้ายก็คงไปกันไม่ไหว
10. รับรู้ได้เองโดยสัญชาตญาณ
โดยภาพรวมทั้งหมดแล้วจากทุกข้อที่กล่าวมาตัวเราเองรับรู้ได้ว่าเขาหรือเธอคือคนที่ไม่ใช่สำหรับเราจริงๆ จะฝืนคบกันไปก็คงเสียเวลา เสียความรู้สึกกันทั้ง 2 ฝ่าย
แม้ว่าเหตุผลอาจจะไม่เกี่ยวกับมือที่ 3 แต่ด้วยที่คบมาสักระยะเรารับรู้ได้เอง ก็ควรต้องปล่ อยมือและถอยออกไปจะดีกว่า ทั้งนี้อย่าใช้แค่อารมณ์ตัดสินใจ ต้องใช้ความรู้สึกประกอบกับเหตุผลหลายอย่างด้วย
อ่าน มาครบ 10 ข้อ แล้ว เราเองรู้สึกแบบนี้หลายๆ ข้อ ก็คงต้องพูดคุยกันจริงจัง ถามใจตัวเองดีๆ อีกสักครั้ง หากทั้ง 2 ฝ่ายรักกันจริงพร้อ มที่จะปรับปรุงแก้ไขให้รักนี้ยาวนานขึ้นคงเป็นเรื่องดี
แต่เมื่อทำทุกวิถีทางแล้วเราไม่สามารถไปด้วยกันได้จริงๆ อยากให้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนและติดสินใจเอง เรื่องของค 2 คน คุณเท่านั้นที่รู้