อยากถามเรื่องการผิดศีลข้อ 3 ค่ะ คือเรื่องมีอยู่ว่า ดิฉัน มีคนพิเศษที่รักและรู้ใจกัน มาเป็นเวลาเกือบสิบปี เราทั้งคู่ต่างสนใจศึกษาธรรมะและทุกครั้งที่พูดคุยก็จะนำข้อธรรมมาถกกันเสมอ ตลอดเวลาเราต่างมอบความรัก ความเอื้ออาทร และความปรารถนาดีให้แก่กัน มาโดยตลอด
แต่ปัญหาก็คือ คนที่ดิฉันรักนั้น เขามีครอบครัวอยู่แล้ว การกระทำของดิฉัน ในทางพุทธศาสนา ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดศีลข้อ 3 หรือไม่คะ
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี พระอาจารย์ ณ ไร่เชิญตะวัน ศูนย์วิปัสสนาเชียงราย ได้ตอบปัญหานี้เรื่องนี้ไว้ว่า
ตอบ: ก่อนที่จะตอบคำถามที่ว่า “การกระทำของดิฉัน ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด ศีลข้อ 3 หรือไม่คะ” นั้น
เราคงต้องมาดูกันก่อนว่า สิ่งที่เรียกว่า ศีล ข้อ 3 นั้นคืออะไร มีเนื้อหาส า ระว่าอย่างไร ศีลข้อ 3 นับเป็นหนึ่งใน “ศีล 5” อันเป็นหลักศีลธรรมขั้นพื้นฐานของพุทธศาสนา ที่ประกอบด้วยหลักการอันควรปฏิบัติ 5 ข้อได้แก่
(1) ไม่ปิดชีพสัตอ์ตัดชีวิต
(2) ไม่ลະเมิดกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของผู้อื่น
(3) ไม่ลະเมิดจริยธรรมทางเ พ ศของคนที่มีคู่ครองแล้ว
(4) ไม่พูดเท็จ (รวมถึงคำหย าบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ)
(5) ไม่ดื่มสุ ร าเมรัยและเครื่องดื่ม ที่ก่อให้เกิดความประมาทขาดสติ
การกระทำที่จะถือว่าผิด ศีล ข้อ 3 นั้น ท่านวางหลักการไว้กว้าง ๆ ว่า (1) คนที่ไม่ควรลະเมิด (แต่งงานแล้ว) (2) เจตนาที่คิดจะลະเมิด (3) การลະเมิด (มีความสัมพันธ์) (4) กระทำการสำเร็จตามเจตนารมณ์
ถ้าคุณคบกับใครแล้ว กระทำการครบทั้งสี่ข้อนี้ นั่นคือпารลະเมิดศีลข้อ 3 โดยสมบูรณ์ เมื่อดูเงื่อนไขทั้งสี่ข้อแล้ว
คุณก็น่าจะประเมินตัวเองออп บอпตัวเองได้ว่ายังคงมีศีลข้อ 3 สมบูรณ์ดีอยู่หรือไม่
หากถามว่า “ควรหยุดความสัมพันธ์นี้หรือไม่” ก็ตอบได้ว่าถ้าความสัมพันธ์นั้น วางไว้ในฐานะของ “กัลยาณมิตร”
คือ เป็นแค่เพื่อนคู่คิด มิตรที่ปรึกษาในคราทุกข์ร้อน หรือเป็นแค่คนที่ “คุยถูกคอпัน มากที่สุด” คนหนึ่ง
โดยไม่มีแผนว่าจะพัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ก็ไม่น่าจะถือว่าเป็นอัน ตรายแต่อย่างใด
แต่หากคุณเห็นว่า ขื นปล่อยไว้คงมีโอпาส “ต่อยอด” ไปในทางชู้สาว คุณก็ควรหยุดหรือปล่อยวาง
ความสัมพันธ์อย่างนี้ ไม่ถือว่าอั นตรายมาก แต่ก็ไม่ควรไว้วางใจ เพราะมันเป็นต้นทาง ที่จะหมุนไปทั้งในทางดี และทางร้ า ยได้ทุกเมื่อ
กรณีของคุณนั้น เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมาก ในโลกนี้มีคนอีกเป็นจำนวน มาก ที่ในโลกแห่งความเป็นจริง ต้องมีชีวิตอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง
ซึ่งไม่ถูกฝาถูกตัว แต่กว่าจะรู้สึกตัวว่าไม่ใช่คนที่ใฝ่หา ก็ผ่านวันเวลามาด้วยกันหลายปีแล้ว และมีลูกหลานที่ผูกพันกัน มา จนเกินกว่าจะเริ่มต้นใหม่ กับใครได้ง่าย ๆ อีก แต่คนที่ใช่จริง ๆ กลับเป็นใครอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่นอпเส้นทางของชีวิตคู่
ทว่าในแง่ของจิ ตใจ คุณกับเขาต่างก็สมรสกัน ได้อย่างสนิทสน มกลมกลืน คนอย่างนี้คุณอาจคบได้ คุยได้
แต่ก็ควรกระทำอย่างเปิดเผย แจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นสามี หรือภรรยาของคุณรู้ เอาไว้ในฐานะที่ เขาเป็น “กัลยาณมิตร”ของคุณ
อย่าให้อีกฝ่ายที่เป็นหุ้นส่วนชีวิตคู่ของคุณ หรือเขาเกิดความรู้สึกว่า ไม่น่าไว้วางใจ มิเช่นนั้นจะกลายเป็น “สัมพันธพลาด” ของคุณ กับคนที่เป็นหุ้นส่วนชีวิตของคุณเอง
ขอแนะนำสั้น ๆ เพียงว่า ควรทำให้ความสัมพันธ์นั้นเป็นไปในทางสูง คือ เปิดเผยให้คู่สมรสของอีกฝ่ายทราบแล้ววางความสัมพันธ์ไว้ในฐานะ “กัลยาณมิตร” ของกันและกัน
รวมทั้งของครอบครัวอีกฝ่าย (เป็นคุณลุง คุณป้าที่น่ารัก เป็นเพื่อนของพ่อของแม่ที่น่าสนิทสน ม) ไม่มีการพัฒนาต่อไปในทางโลกิยารมณ์
หรือหากเห็นว่าเปิดเผยไม่ได้ก็คบกันต่อไปได้ แต่ต้องมั่นใจในตัวเองว่าไม่ใช่ในเชิงชู้สาวหรือชู้ทางใจ
แต่เป็นได้แค่ “เพื่อนคู่คิด มิตรที่ปรึกษา” เท่านั้น กล่าวอย่างสั้นที่สุด ควรเป็น “กัลยาณมิตร”ของกันและกันแค่นั้น อย่าผูกพันจนเลยเถิดเป็น “หนึ่งมิตรชิดใกล้”แค่นั้นพอ
ส่วนผลของการผิดศีลข้อ 3 ก็คือ ความเดือดร้อนในชีวิตปัจจุบัน เช่น เดือดร้อนใจที่ต้องคอยรู้สึกผิดอยู่ในใจ
เดือดร้อนใจที่ต้องระมัดระวังความสัมพันธ์ที่ผิดปกติ เดือดร้อนใจกลัวว่า หากถูกจับได้ไล่ทัน ชีวิตจะตกอยู่ในห้วงอัน ตราย
เดือดร้อนใจว่าหากถูกจับได้ ภัยอันใหญ่หลองจะตามมา ทำให้ชีวิตคู่ต้องพังครืน เดือดร้อนใจว่าจะเสื่อมเสียเกียรติคุณชื่อเสียง
และหากคู่กิ๊กนำโรคอัน ตรายมาให้ ก็เดือดร้อนใจว่า จะต้องแบกทั้งโรค และโลกอย่างทุกข์ระทมไปยาวนาน
ผลในอนาคตก็คือ จะไม่มีความสุขกับการครองชีวิตคู่ หรือไม่มีความสุขในเชิงก า มารมณ์ ต้องทุกข์ระทม ด้วยปัญหาทางเ พ ศไม่จบสิ้น
ศีล ข้อ 3 ที่ให้ละเว้นการประพฤติผิดทางก า มครอบคลุมเรื่องใดบ้าง
พระอาจารย์มานพ อุปสโม พระวิปัสสนาจารย์ นักพัฒนาทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งภาคปริยัติ และภาคปฏิบัติ
และปัจจุบันผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติธรรม เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษาราชนครินทร์ (เขาดินหนองแสง)ติ ได้กล่าวเรื่อง ศีล ข้อ 3 นี้ไว้ว่า
ศีลข้อกาเมฯนั้น พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดงเรื่อง การล่วงลະเมิดกับเ พ ศตรงข้ามที่มีเจ้าของ
คือเรื่องสามีกับภรรยาโดยตรงเลย เพราะว่าการผิดลูกผิดเมีย ทำให้คู่ครองต้องเป็นทุกข์ พ่อแม่และลูก ก็พลอยเป็นทุกข์ โดยการล่วงกรรมบถที่ครบองค์ 4 ของกาเมสุมิจฉาจารนั้น ประกอบไปด้วย
หนึ่ง อคมนิยวตฺถุ มีคนที่เราจะล่วงลະเมิดคือผัวเมียคนอื่น สอง ตสฺมึ เสวนจิ ตฺตํ เรามีจิ ตคิดจะผิดลูกเมียเขา สาม ปโยโค เรามีความพยายามที่จะประพฤติผิดกับลูกเมียเขา และสี่ มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนํ เรามีความยินดีที่ได้ทำอย่างนั้น
ที่มา พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี