ข้อคิดสอนใจ

ทำยังไงดี เมื่อต้องเลิกกับคนรัก

 
เรา ๆ ท่าน ๆ ก็คงเคยเจอสถานการณ์การทะ เลาะและเลิกรากับแฟนกัน มาแล้ว บางคนก็ดูแลตัวเองได้ดี บางคนก็แทบจะฆ่ าตัวต า ย

หลายคนก็หลายวิธีที่จะพยายามผ่านประสบการณ์อันเจ็บปวดตรงนั้น มาให้ได้ ข้อแนะนำข้างล่างอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่ก็น่าจะช่วยได้บ้างนะคะ

1.ข้อแรกคือถามตัวเองและตอบอย่างยุติธรรมเป็นกลางที่สุดว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร

อาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งทั้งหมด หรืออาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณเลยก็ได้ ต้องคิดว่าความสัมพันธ์จะเกิดขึ้นได้

ต้องประกอบด้วยคนสองคนหรือสองฝ่าย เมื่อรักกัน ก็มักจะเต็มใจรักกันทั้งคู่ แต่ตอนจะเลิกร้างกัน

อาจจะเกิดจากคนคนเดียวหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตกลงปลงใจเลิกรากันทั้งสองฝ่าย หากใคร่ครวญหาเหตุผลที่เป็นกลางได้ คุณก็จะจดจำไว้เป็นบทเรียนต่อไปใน อนาคต

2. ยอมรับความเจ็บปวดค่ะ

ร้องไห้เสียให้เข็ด ความเจ็บปวดนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ใคร ๆ ก็เคยเจ็บ เคยเหงา เคยเศร้า รู้สึกชีวิตนี้ยับเยิน ยอมรับความจริงไปเลย

ถ้าเป็นความผิดของคุณเอง ก็ยิ่งต้องรับผิดชอบกับการเลิกราครั้งนี้ สุขภาพจิ ตและกายของคุณอาจจะย่ำแย่ลง ก็ไม่เป็นไร

เพราะยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครขาดใจต า ยเพราะอกหัก คุณต้องยอมรับว่าคุณก็เป็นคนดีคนหนึ่ง อย่าฟูมฟายหรือบ่นด่าตัวเอง

และตรงกันข้ามหากคุณคิดว่าตนเองไม่ผิด คุณก็จะยิ่งปฏิเสธที่รับผิด มันเป็นธรรมชาติค่ะ ยังไงก็ตามชีวิตคุณก็ยังต้องดำเนินต่อไป

3.อยู่ให้ห่างกันทันที

ถึงแม้คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนฐานะคบหากันเป็นเพื่อนก็ตาม ในช่วงแรกคุณจะต้องไม่มีการติดต่อกันเลย ทำทันทีที่คุณตัดสินใจเลิกรากัน

ไม่นัดเจอกัน ไม่โทรศัพท์ ไม่อีเมล์ ไม่ เอสเอ็มเอส ที่แน่นอนไม่มีเ ซ็ กซ์กันอีก ต้องตัดขาดจากกันอย่างนี้จนกระทั่งคุณแข็งแรงพอที่จะ ติดต่อกันแบบเพื่อนได้จริง ๆ  

         
4. ครุ่นคิดให้ทะลุปรุโปร่ง

คิดทบทวนหลาย ๆ ครั้ง อย่างมีเหตุผล ไม่ใช่อย่างหมกมุ่น คิดหาเหตุผลว่าอะไรทำให้คุณแยกทางกัน ถึงแม้คิดไปคิดมาแล้วรู้สึกว่ามันหาเหตุผลจริง ๆ ไม่ค่อยได้

แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ฉะนั้น มันก็ต้องมีเหตุผลอย่างน้อยหนึ่งข้อแน่นอน คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่คุณเคยมีความสุขด้วยกันระยะหนึ่ง

ถือว่าเป็นเวลาที่มีค่า ถึงคุณจะยังอยากให้มันเป็นเช่นนั้นตลอดไป แต่คู่ของคุณเขาไม่คิดเช่นนั้นแล้ว ยังไง ๆ มันก็ต้องได้เลิกรากันวันยังค่ำ ฉะนั้นเลิกเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี 
           
5.   อยากจะตะ โกนก้อ

บ่นด่าคู่ของคุณ เพราะความโกรธและความแค้น (ดีกรีของอารมณ์ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่ทำให้แตกหักกัน

ยิ่งมีเรื่องนอпใจมาเกี่ยวข้อง ยิ่งอยากฆ่ าให้ต า ย คุณยิ่งคิดถึงเวลาที่คุณถูกห ล อ ก หรือเวลาทุกข์ทรมานกว่าจะมาถึงจุดแตกหัก

คุณก็ยิ่งเพิ่มปริมาณความโกรธและความแค้น มากขึ้น บางรายพาลโกรธตัวเอง ขอบอกว่าเลิกคิดเช่นนี้ทันทีค่ะ !

ทำให้ได้ เดี๋ยวนี้ มันไม่มีประโยชน์ มีแต่จะเสียเวลา คิดให้ได้ว่าคุณไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว  
           
6. พูดคุยกับเพื่อน ๆ ค่ะ

(เพื่อนดี ๆ นะ) หรือญาติที่รักเราก็ได้ ใครก็ได้ที่คุณรู้สึกดี ๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา คนที่รักและหวังดีต่อคุณ

เขาจะช่วยให้กำลังใจ ชี้แนะให้คุณรักตัวเองมากขึ้น คุณต้องไปหาสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนที่รักคุณ แล้วคุณจะรู้สึกว่าตัวคุณเป็นคนที่มีค่ามาก

7. บันทึกเรื่องราวของคุณลงในไดอารี่ เรื่องราวการเดินทางของชีวิตรัก เรื่องอะไรก็ได้ที่คุณสามารถระบายความรู้สึกออกมาตัวอักษร

เปิดหัวใจยอมรับทั้งความเจ็บปวดและความผิดหวังของชีวิต อย่าเขียนตบแต่งเรื่องราวให้เข้าข้างตนเอง

ไดอารี่นี้จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นสิ่งเตือนสติไม่ให้คุณก้าวพลาด ทำให้พบกับความเจ็บปวดอีกต่อไป

8. ถึงเวลาลุกขึ้น มาทำความสะอาดห้องหอ

บ้านช่อง ออฟฟิศ รถราเสียที อะไรที่มันรก ๆ เอาออกไปจากสายตา ของรัก ของ ๆ เขา เอาออกไปให้หมด คุณเป็นคน Brand-new person แล้ว เป็นคนใหม่

ตั้งใจจะใช้ชีวิตอย่างมีส า ระกว่าเดิมแล้ว รอเจอสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต ถ้าเหลียวไปทางไหนก็เจอแต่สภาพเดิม ๆ คุณก็จะหดหู่

คิดแต่เรื่องเดิม ๆ การลุกขึ้น มาโละขยะออกจากชีวิตแบบนี้ มันไม่ต้องใช้พลังสมองมากมายหรอก

คุณก็เริ่มจากการเขียนเป็นรายการขึ้น มาก่อนก็ได้ แล้วโฟกัสจิ ตใจ ให้ทำไปทีละอย่าง ๆ ในที่สุดคุณจะรู้สึกว่าความเจ็บปวดมันเริ่มทุเลาลง

9. จดจำแต่สิ่งดีๆ

ละทิ้งสิ่งแย่ ๆ ที่เกี่ยวกับเขา เช่นเมื่อได้ยินเสียงเพลงโปรดของเขา หรือเห็นรูปภาพ หรือหนังสือที่เขาชอบ แต่มันกลับทำให้คุณรู้สึกแย่

คุณก็ต้องเอาสิ่งเหล่านั้นออกไปจากความคิดทันที เอาออกไปจากสายตา ปิดหู ไม่ฟัง ปิดตาไม่ดู ไม่รับรู้ ไม่คิด

แต่หากมีบางอย่างที่รู้สึกดีที่จะเห็นจะรับรู้ เช่นนาฬิกาโปรดที่เขาซื้อให้ คุณจะยังสวมมันก็ได้นะ

แต่ต้องยิ้มไปด้วยเมื่อมองมัน และคิดถึงแต่เวลาดี ๆ (คิดแบบมีความสุข ไม่ใช่คิดแบบอยากกลับไปมีเวลาเหล่านั้นอีก) 
        
10. หาความสุขให้กับชีวิตตัวเอง

เพราะชีวิตของคุณกับเขาเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งของการมีชีวิตอยู่ของคนเราเท่านั้น ตอนนี้มันเป็นเวลาที่คุณจะได้ใช้ชีวิตของคุณให้มีคุณค่า

คุณอาจจะอยู่กับครอบครัวมากขึ้น อยู่กับเพื่อน มากขึ้น อาจจะไปเข้าคอร์สเรียนภาษา คอร์สทำอาหาร

หรืออ่านหนังสือทุกเล่มที่คุณหมดเงินเยอะแยะซื้อมาเก็บไว้แต่อ่านไม่หมดซักที จริง ๆ แล้วตอนที่คุณรักกัน

คุณก็อาจจะไม่เคยมีเวลาเป็นของตนเองเลย ทำไมไม่คิดดี ๆ คิดขอบคุณเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันทำให้คุณได้เป็นเจ้าของชีวิตตนเองอย่างแท้จริง(เสียที)

11. ออกกำลังกาย

ละลายความเครียด ออกไปวิ่งกับเพื่อน ๆ ชายหาดสวย ๆ ตอนเช้ายิ่งดีใหญ่เลย สูดอากาศบริสุทธิ์ ยิ่งไปเรื่อย ๆ คิดเสียว่าทุกย่างก้าวคือการปลดปล่อยความทุกข์ และความโกรธออกไปทีละก้าว ๆ ค่ะ

12. คิดเสียว่า ปล่อยมันไปเสียที เลิกตอกย้ำความรู้สึกว่า ฉัน มันอпหัก ฉันเสียใจ ฉันเสียหน้า ทำไมถึงทำกับฉันได้ หยุดคิดไปเลย

คุณควรภูมิใจในตัวเองว่าครั้งหนึ่งคุณก็กล้าหาญพอที่จะตกหลุมรัก แล้วก็กล้าหาญกว่าเป็นสองเท่าที่จะก้าวออกมาจากมัน

เพราะมันเป็นเพียง”เคยรัก” เท่านั้น ไม่ใช่รักอีกต่อไป เมื่อรักนั้นไม่ใช่ รักหน้าก็ยังมีใช่ไหม

13.ถ้าคุณทำมาได้ถึงข้อนี้แล้วคุณจะรู้สึกว่า

ความทุกข์มันเริ่มจาง ๆ ลง เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังผู้ที่ปลอบโยนคุณ จำไว้ว่าเจ็บปวดเพราะการเลิกร้างต่อกัน ดีกว่าเจ็บปวดที่จะพยายามรักษาความสัมพันธ์อันร้าวฉานให้คงอยู่    
   
14.คิดบวกค่ะ

เวลาอยู่คนเดียวก็ตะ โกน(ในใจ)ว่า ยาฮู้ ฉัน มีแฟนใหม่ได้แล้ว! อิสระเสียที เปลี่ยนบุคลิก เปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ แต่อย่าออกมาในแนวก้าวร้าวนะคะ ให้เกียรติและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่นเสมอ ที่แน่ ๆ คือ จริงใจและนับถือตัวเองให้มากขึ้น   
          
15.สุดท้าย..อย่า !

อย่าเผลอไปคิดถามตัวเองว่า เอ..ที่เราตัดสินใจอย่างนี้มันถูกหรือเปล่านะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นฝ่ายบอกเลิก คุณอาจจะแ อ บคิดแว่บ ๆ ว่า

อันที่จริงเราน่าจะพูดกันได้ เขาไม่น่าทำอย่างนั้น เราก็น่าจะอดทน มากกว่านี้ เราเคยรักกันจะต า ย ถ้าเราเพียงแต่…เขาก็คงจะไม่…หรือถ้าเขาล่วรู้ถึงความจริงข้อที่ว่าฉันรักเขาแค่ไหน

ฉันรับไม่ได้เพราะอะไร…เราก็คงไม่ถึงขนาดต้องเลิกราต่อกัน…หยุดคิดเช่นนี้ทันทีค่ะ เลิกเล่นเกมส์กับชีวิตของคุณเอง ยอมรับสถานการณ์และใช้ชีวิตที่เหลือให้คุ้มที่สุด
            
“ความเจ็บปวดนี้ ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ ใคร ๆ ก็เคยเจ็บ และต้องเจ็บ ฉันก็แค่สอบผ่านข้อนี้ไปแล้ว..วันหนึ่งเมื่อฉันเข้มแข็งพอ..ฉันจะหัน มามองด้วยความขบขันและอายตัวเองว่า..ทำไมฉัน มันขี้ขลาดกับชีวิตนัก ”

meko

Share
Published by
meko