นิสัยที่ควรละทิ้ง แล้วชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น

ถ้าเราติดกับความคิดว่าสิ่งนั้นก็เป็นไปได้ยาก สิ่งนี้ก็ทำไม่ได้ ชีวิตก็คงจมอยู่กับความเครียดและหาทางออกไม่เจอ

แล้วอย่างนี้เราจะมีความสุขได้ยังไงถูกไหมคะ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าชีวิตมันยาก ทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่าย และคิดเสมอว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออก

และแม้ว่าปัญหาจะแก้ไม่ได้ในตอนนั้น ก็ลองทบทวนนิ่ง ๆ กับตัวเองสักพัก เพราะบางครั้งเราก็ต้องอาศัยจังหวะและเวลาที่เห ม าะเจาะ เพื่อแก้อุปสรรคที่มีอยู่ไปได้อย่างฉลุย

ไม่ไว้ใจใคร

คนที่ไม่ไว้ใจใครเลยย่อมต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ต้องเหนื่อยกับการทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และต้องแบกทุกความรู้สึก

ทุกความรับผิดชอบเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเขาคนนั้นก็คงมีชีวิตที่ไม่แฮปปี้เท่าไร ฉะนั้นหากเราอยากหลุดพ้นจากความทุกข์ตรมเหล่านั้น

ลองเปิดใจและไว้ใจคนรอบข้างให้มากขึ้นสิคะ และลองเชื่อใจในความดีที่แต่ละคน มี วางความเชื่อใจของเราให้ถูกคน

เพราะอย่าลืมว่ามนุษย์เรานั้น มีทั้งด้านที่ดีและด้านที่ด้อย ดังนั้นเราก็เลือกได้ว่าจะคบเขาในส่วนไหน

จะพึ่งพาเขาในเรื่องใดได้บ้าง ขอแค่เพียงคุณเปิดใจให้กว้างขึ้น คุณก็จะจัดการชีวิตตัวเองเมื่ออยู่กับคนรอบข้างได้ดีขึ้นเช่นกัน

จับผิดไปซะทุกเรื่อง

ถ้ารู้สึกตัวว่ามองอะไรก็ขัดหูขัดตา มีแต่คำตำหนิที่ติดปากอยู่ตลอด ให้เปลี่ยนนิสัยนี้เสียเถอะค่ะ

เพราะนั่นแปลว่าคุณโฟกัสอยู่แต่ความผิดพลาด ซ้ำยังไม่ปล่อยวางและมองให้มันเป็นเรื่องธรรมดาซะด้วย วัน ๆ เลยมีแต่คำพูดว่า “ก็ดีนะ…แต่” หรือ “แบบนี้ไม่ถูกต้อง” อยู่ร่ำไป

ซึ่งเชื่อเถอะว่าติไป หงุดหงิดใจกับความไม่ถูกต้องไปก็เครียดเปล่า ๆ ฉะนั้นปล่อยผ่านกับเรื่องที่เราไม่สามารถไปแก้ไขได้ และมองความผิดพลาดที่มีอยู่เกลื่อนกลาดให้เป็นเรื่องขำ ๆ บ้าง

เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบในแบบที่เราด้อยกว่าเขา หรือเขาด้อยกว่าเรา ก็ไม่ได้สร้างความสุขให้ใครได้เลย

เพราะเมื่อใดก็ตามที่เกิดการคิดเปรียบเทียบ มันห ม ายถึงเรายังไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ เรายังคาดหวัง เรายังอิจฉา

หรือปรารถนาจะมี จะได้เหมือนคนอื่นเขา ซึ่งเมื่อไม่สมใจ ความทุกข์ก็มาเยือนแทนความสุขแน่นอนล่ะค่ะ

งั้นเอาเป็นว่า หยุดคิดเปรียบเทียบตัวเองกับใคร แล้วมาโฟกัสแต่เรื่องของเรากันดีกว่า จะได้ไม่ทุกข์เนอะ

ตึงกับชีวิตมากเกินไป

เป็นคนจริงจังกับชีวิตมันก็ดีค่ะ แต่ถ้าจริงจังมากเกินไป ควบคุมตัวเองจนแทบกระดิกไปไหนไม่ได้

ก็เป็นเราเองนี่แหละที่จะติดกับดักตัวเองจนไร้ซึ่งความสุข ฉะนั้นปล่อยไก่บ้าง ให้โอกาสตัวเองได้ผิดพลาดบ้าง หัวเราะให้กับการผิดแผนที่วางไว้บ้าง ตัวและใจเราก็จะเบาขึ้นเยอะ

กลัวอนาคต

อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ฉะนั้นถ้าเรามัวแต่กังวลกับช่วงเวลาที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะหมู่หรือจ่าก็ยังไม่รู้

ก็เหมือนเรากังวลทิ้งไปฟรี ๆ เครียดไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นจริงไหมคะ เอาเป็นว่าเรื่องที่ยังไม่เกิด ยังไม่มาถึง ก็อย่าไปคิดถึงมัน ใช้ชีวิตในขณะปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ

นินทา แถมยังบ่น

สำหรับบางคนการนินทาไม่ใช่กิจกรรมที่ทำเพื่อความสนุกปากเท่านั้น แต่ยังเก็บรายละเอียดของเรื่องที่เม้าท์มาคิดต่อ

มาเพิ่มความเครียดและน้ำหนักในใจให้ตัวเองอีก ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วเรื่องที่เรานินทา คนที่เราพูดถึง ก็ไม่ใช่เรื่องของเราสักนิด เลิกนิสัยที่ทำให้เสียเวลาชีวิตแบบนี้ซะเถอะค่ะ

อ้อ ! กับคนที่เอาแต่บ่นคนอื่นก็เช่นกัน ถ้าเราไม่โฟกัสเรื่องของคนรอบข้างมากเกินไปนัก

เราก็จะไม่มีเรื่องให้หงุดหงิดใจ ไม่มีประเด็นให้ได้บ่นออกไปหรอกนะคะ ดังนั้น มองผ่านไปบ้าง ปล่อยวางบ้าง เพื่อให้ใจเราสงบขึ้นกันดีกว่า

ดูถูกตัวเอง

มีคนไม่น้อยที่พร่ำบ่นกับตัวเองได้ตลอดเวลา ทั้งพูดกับตัวเองว่าเรานี่มันช่างไม่เอาไหน เรามันไม่เก่ง เรามันอย่างนั้นอย่างนี้

ซึ่งก็เหมือนเราส่งพลังลบไปทำลายพลังบวกในตัวเอง เผลอ ๆ จะคิดไปได้ว่านิสัยเราเป็นอย่างนี้ พัฒนายังไงก็ไม่ดีขึ้นหรอกซะอีก

ซึ่งอยากจะบอกให้ทุกคนรู้ไว้เลยค่ะว่า การที่เราไม่เก่งในบางเรื่อง ไม่ได้เรื่องในบางอย่าง มันคือความธรรมดาของมนุษย์ทุกคนเลย

เพราะเราไม่จำเป็นต้องเก่งไปซะทุกอย่าง ขอแค่รู้ว่าตัวเองมีดีด้านไหน ถนัดอะไรมากที่สุด เราก็เป็นคนเก่งในเรื่องนั้น ๆ ได้ แค่หาตัวเองให้เจอก็พอ

จมอยู่กับความเคยชิน

การจมอยู่กับสิ่งเดิม ๆ ไม่อาจทำให้เรารู้ว่าเรามีสิ่งที่ดีกว่าให้ไป หลายคนเลยทนย่ำอยู่ที่เดิม อยู่อย่างซังกะต า ย

และเริ่มจะหาความสุขในชีวิตได้ยากยิ่ง ซึ่งวิธีขจัดความทุกข์เพิ่มความสุขง่าย ๆ ในเคสนี้ ก็แค่ลองออกไปหาประสบการณ์ใหม่

เลิกกลัวกับความไม่รู้ของตัวเอง และฝึกตัวเองให้พร้อมลุยกับทุกการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง

พูดทุกอย่างที่คิด ยึดติดอารมณ์ตัวเองมากเกินไป

สังเกตง่าย ๆ ว่าคนที่มีนิสัยยึดติดกับอารมณ์ของตัวเอง มักจะต้องนึกเสียใจกับคำพูดที่โพล่งออกไปยามโกรธ

คำพูดที่ปล่อยออกไปตอนผิดหวัง หรือรู้สึกพลาดที่ได้ทำบางสิ่งลงไปในขณะที่อารมณ์ไม่ปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่า

ทุกกรณีไม่ได้ทำให้เรามีความสุขในชีวิตได้เลย หนำซ้ำยังอาจสร้างความผิดหวังให้ตัวเราเองและคนรอบข้างอีกด้วยนะคะ

ดังนั้นขณะที่โกรธอย่าพูด ที่สำคัญควรไตร่ตรองและทบทวนทั้งคำพูดและการกระทำของตัวเองทุกครั้งก่อนจะทำอะไรลงไป

และทางที่ดีอย่ายึดติดกับอารมณ์ตัวเอง ชนิดที่โกรธก็ต้องแสดงอารมณ์โกรธ ไม่พอใจก็ต้องชักสีหน้าให้รู้ นิสัยแบบนี้ขอเถอะให้เลิกทำ

ความสุขในชีวิตหาไม่ยากเลยจริง ๆ ค่ะ เพียงแค่เลี่ยงทำนิสัยไม่ดีต่อใจเหล่านี้ไปซะ ยิ้มให้ตัวเองบ่อย ๆ พร้อมทั้งดูแลสุขภาพให้ดี อารมณ์และร่างกายเราก็จะดีไปด้วยง่าย ๆ แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *