คงต้องยอมรับว่า ในยุคนี้รูปแบบการลองใช้ชีวิตคู่แบบ อยู่ก่อนแต่ง ในบ้านเรามีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นะคะ ซึ่งบางคู่ที่ลองแล้วดีก็นำไปสู่การแต่งงานและสร้างครอบครัวร่วมกันอย่างจริงจัง
แต่บางคู่ที่ลองแล้วไม่เวิร์คก็แยกย้ายกลายเป็นเพื่อน ซึ่งแปลว่าไม่ดันทุรังแต่งงานกันให้กลายเป็นครอบครัวมีปัญหา
คลียร์ใจเรื่องพ่อแม่
แจ้งบอกกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่คุณเคารพถึงการตัดสินใจของคุณในการที่จะลองอยู่ก่อนแต่งกับคนที่คุณเลือกเป็นอย่างแรก
อย่างน้อยแม้ท่านจะไม่เห็นด้วยแต่การแจ้งบอกคือแสดงความเคารพ ไม่ใช่อยู่ๆ นึกจะไปอยู่ก็ไป ซึ่งการบอกนี้ควรมีเหตุผลในการตัดสินใจและรายละเอียดที่อยู่สักนิด
ไม่ใช่แค่แจ้งให้ทราบว่าจะย้ายไปอยู่นะแล้วจบ นอпจากนี้ถ้าเป็นไปได้ควรพาท่านไปดูที่อยู่ใหม่ของคุณสักหน่อย
เพื่อความสบายใจว่าอย่างน้อยสภาพที่อยู่อาศัยก็โอเคและรู้ว่าอยู่หนใดไม่ใช่เมืองลับแล
เคลียร์ใจเรื่องเงินทองค่าใช้จ่าย
จะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่เพิ่งซื้อหรือบ้านเก่าของใครก็ตาม อย่าลืมเคลียร์ความสบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านให้ชัดเจน
ไม่เกี่ยงว่าคุณคือฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง เปิดประเด็นนี้ก่อนได้เลย ไม่มีใครว่าผิดหรืองกแน่นอน เพราะเมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้วก็ต้องช่วยกันดูแลรับผิดชอบ
อย่าเข้าใจไปเองว่าบ้านเธอ งั้นเธอต้องจ่ายสิ หรือเธอคือคนอาศัยต้องจ่ายมา ถ้ารักกันจริงและอยากสบายใจอย่าคิดเอาเอง
ถามให้ชัด ตกลงให้ชัวร์ มีปัญหาติดขัดต้องบอก รวมถึงจ่ายได้มากน้อยแค่ไหนอย่ากั๊ก ทำตามนี้รับรองสบายใจทั้งสองฝ่าย
เคลียร์ใจเรื่องอาหารการกิน
ก่อนจะย้ายมาอยู่ด้วยกันคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า อีกฝ่ายคิดยังไงกับบรรยากาศการทำกับข้าวที่มีควัน มีกลิ่นอาหารลอยในบ้านหรือไม่ชอบทำอาหารเพราะไม่ชอบล้างจานหรือเปล่า
อะไรแบบนั้น ซึ่งถ้าไลฟ์สไตล์ในเรื่องนี้ต่างกันก็ต้องคุยกันแล้วล่ะ เพราะถ้าคนนึงชอบกินแต่อาหารฟู้ดคอร์ทง่ายๆ จ่ายตังค์นั่งกินให้พ้นเป็น มื้อๆ
แต่อีกคนฝันถึงความเป็นคู่รักกระหนุงกระหนิงในห้องครัว ก็ต้องหาจุดตรงกลางที่ลงตัว หรือถ้าวันไหนเราอยู่บ้านด้วยกันทั้งวัน
จะเอายังไงกับอาหารทั้งสามมื้อดี ถ้าทำอาหารเธอจะทำหรือเราจะช่วยกันดี
เคลียร์ใจเรื่องการสื่อส า รระหว่างกัน
ก่อนจะอยู่ด้วยกันคุณอาจสื่อส า รกันทางมือถือเช่นโทรฯ หาหรือไลน์หาตลอดๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ไปเจอมาในแต่ละวันให้กันฟัง
แต่พออยู่ด้วยกันตลอดเวลา เรื่องเหล่านี้อาจต้องลดลงหรือเปล่า และเมื่อลดลงไปแล้ว จะแทนที่ด้วยอะไรเพื่อให้ความสัมพันธ์ยังกระชับแน่นไม่เปลี่ยน
ลองตกลงกันให้เคลียร์ว่ารูปแบบเดิมๆ ที่เคยทำ ยังคงมีไหม และอะไรบ้างที่อาจมาแทนที่ คุณจะได้ไม่รู้สึกว่า ความสัมพันธ์เปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อตอนต่างคนต่างอยู่คนละบ้าน
เคลียร์ใจเรื่องการใช้พื้นที่ร่วมกัน
ในการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดหรืออะไรก็ตาม เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการใช้พื้นที่บางจุดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ดังนั้นคุณจึงควรคุยกันให้ชัดเจนถึงรูปแบบการใช้พื้นที่ส่วนกลางตรงนั้นให้ชัดเจน และตกลงแบ่งสรรปันพื้นที่อย่างแฟร์ๆ
และสมเหตุสมผล เช่นว่าในห้องน้ำจะมีพื้นที่ตรงไหนวางของใช้ส่วนตัวของคุณบ้าง และพื้นที่ตรงไหนคือของอีกฝ่าย
ซึ่งฝ่ายหญิงอาจต้องการพื้นที่มากหน่อยเพราะเครื่องประทินผิวเยอะแยะ ก็เจรจากันไปตรงๆ ส่วนคุณฝ่ายชายก็อาจจะขอมุมออกกำลังกายของตัวเองมาหน่อยอะไรแบบนั้น
เคลียร์ใจในเรื่องเวลาส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนรวม
ข้อสุดท้ายที่ควรเคลียร์กันให้ใจสบายคือ เวลาส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวม ซึ่งเรื่องนี้อาจจะดูโหดไปสักหน่อยถ้าจะบอกออกไปว่า
อยากได้เวลาตอนนี้ถึงตอนนี้ในการอยู่กับตัวเอง ดังนั้นประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นที่คุณควรค่อยๆ สังเกตและทำความเข้าใจนิสัยของอีกฝ่ายให้ดี
แล้วให้ความคุ้นชินนั้นช่วยเคลียร์ใจคุณเองว่า อาการแบบนี้หรือช่วงเวลาแบบนี้แหละที่อีกฝ่ายต้องการความสงบโดยไม่ต้องเอ่ยปากถามเลยก็เป็นได้