เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงเคยประสบกับปัญหาการเลิกกันกับคนรัก เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดรักเราไปแล้ว
บางคนหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมถึงหมดรักกัน ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด คอยดูแลใส่ใจเขามาตลอด แต่ก็ต้องยอมปล่อยมือเขาไป
ในเมื่อใจมันไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วจะอยู่ไปทำไม และในที่นี้ก็เชื่อว่าทุกคนยังคงสงสัยว่าทำไมถึงหมดรักกันง่าย ๆ ทั้งที่เราคบกัน มานาน
จะเป็นเพราะเลขอาถรรพ์อย่างที่ใครว่าไว้หรือเปล่า หรือมัน มีเหตุผลอธิบายมากกว่านี้ มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
เราหมดรักกัน เพราะ “โดปามีน”
หากจะพูดว่าโดปามีนเป็นเหตุผลให้คนหมดรักกันก็คงไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่มัน มีส่วนที่ทำให้เราเข้าใจว่าเขาหมดรักเราแล้วต่างหาก แล้วมันทำงานยังไงน่ะเหรอ ?
ร่างกายของคนเรานั้น มีส า รสื่อประสาทหลายชนิดที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก และการกระทำต่าง ๆ ซึ่งส า รสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความรักและความรู้สึกดี ๆ ก็คือ “โดปามีน
งานวิ จัย การศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างและการทำงานของระบบประสาท พบว่าร่างกายของเราจะห ลั่ งโดปามีนจากการกระตุ้นของคนรัก
สงสัยไหมว่าช่วงแรกของการคบกันเรามักจะตื่นเต้น มีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอ บางคู่ตัวติดกันตลอดเวลาเพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข
จนทำให้เหล่าบรรดาเพื่อนสนิทมองว่า “พอมีแฟนก็หายหน้าหายตาไปเลยนะ” แหม ๆ ๆ ก็โดปามีนของฉัน มันห ลั่ งเวลาที่อยู่ใกล้เขานี่นา
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราจะสังเกตว่า ทำไมคนรักของเราไม่เหมือนเดิม ไม่เห็นสนใจเราเหมือนตอนแรก ๆ เลย เมื่อก่อนเธอเคยใส่ใจเรามากกว่านี้นะ
จนบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า “เขาหมดรักเราแล้วใช่ไหม” และความรู้สึกนี้มักจะเกิดใกล้ ๆ ช่วงที่คบกันเป็นเลขอาถรรพ์ แต่เราขอให้คุณลืมความเชื่อนี้ไปเลย เพราะความจริงแล้วมัน มีเหตุผล
“ที่เราเลิกกัน…ไม่ใช่เพราะเลขอาถรรพ์ แต่เป็นเพราะโดปามีนหยุดห ลั่ ง” บางทีอาจจะไม่ได้หมดรัก แค่โดปามีนหยุดห ลั่ ง เราเลยไม่ตื่นเต้น
หลายคู่ต้องโบกมือลากันไปเพราะสัมผัสได้ถึงอาการหมดรัก ที่มักจะเกิดกับคู่ที่คบกัน มานานพอสมควร อาจจะประมาณ 1 ปี บ้างก็ 3 ปี, 5 ปี, 7 ปี
กลายเป็นความเชื่อเรื่องเลขอาถรรพ์ว่าช่วงเวลาหรือจำนวนปีเหล่านี้จะทำให้คนเลิกกัน แต่แท้จริงแล้วเป็นช่วงระยะเวลาที่โดปามีนหยุดห ลั่ ง
บางคนหยุดห ลั่ งช้า บางคนก็หยุดห ลั่ งเร็ว จะเห็นว่าคู่รักที่แต่งงานกันไปช่วงหลัง ๆ จะไม่ค่อยตื่นเต้น หวือหวา
เหมือนข้าวใหม่ปลามันในช่วงแรก ๆ บ่อยครั้งอาจมีปัญหามือที่สามเอื้อมเข้ามาแบบไม่รู้ตัว นั่นก็เพราะว่า คู่รักของเราไปห ลั่ งโดปามีนให้กับคนอื่นแทนเสียแล้ว
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมของใหม่อะไร ๆ ก็ดี ทั้งน่าตื่นเต้น น่าค้นหา มีเรื่องให้คุยเยอะแยะเต็มไปหมด นี่แหละนะที่เขาบอกว่าคนใหม่มักจะมาในรูปแบบของที่ปรึกษา
“แต่ถึงอย่างไร…ถ่านไฟเก่าก็คุได้เสมอ” การหมดรักนำไปสู่การเลิกกัน เราจะรู้ว่าเรายังรักเขาไหม ก็ต่อเมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าโดปามีนทำให้เราเข้าใจว่าคนเราหมดรักกัน แต่จริง ๆ แล้วความรักมันอาจจะยังห ล งเหลืออยู่หรืออาจจะไม่มีก็ได้
แต่ถ้าวันเวลาผ่านไป ไม่ว่าเขาจะมีหรือไม่มีคนใหม่ หากยังคิดถึงวันวานจนอดใจไม่ไหวที่จะทักมา เป็นไปได้ที่ถ่านไฟเก่ามีโอกาสคุขึ้น มาใหม่
ยิ่งถ้าความสัมพันธ์ปัจจุบันไม่ได้ดี ก็จะยิ่งเป็นแรงขับให้โหยหาความสัมพันธ์ครั้งเก่า เพราะช่วงที่คบกันฮ อ ร์ โมน “ออกซิโทซิน” ได้สร้างความผูกพันเอาไว้
แต่ผิดที่เราเองไปนิยามความรักว่าต้องหวือหวา ตื่นเต้น พอไม่ได้เจอกับความรู้สึกนี้อีก เลยทำให้เราเข้าใจว่าหมดรักกันแล้วนั่นเอง ซึ่งเราจะมาเริ่มสัมผัสความรักได้ก็ตอนที่กลับมาคุยกันอีกครั้ง
ทีนี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนเราถึงหมดรักกันได้ง่าย ๆ โดยที่ความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ได้หมดรักจริง ๆ แต่แค่ส า รเคมีในสมองหยุดห ลั่ งเท่านั้นเอง
แต่ถ้ากลัวว่าจะเกิดความรู้สึกเหล่านี้ แนะนำว่าให้คุณออกไปหากิจกรรมแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทำ อาจจะเป็นการแต่งชุดคอสเพลย์ ดำน้ำ ปืนเขา แม้จะทำไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้ใช้เวลาร่วมกันก็พอ