“ทำไมคนเราถึงหมดรักกัน ? ” คำตอบคงยากพอๆ กับถามว่า “ทำไมเราถึงตกหลุมรัก ? ” ในเมื่อความรักเป็นเรื่องนามธรรม
หากแต่ความรักเป็นความรู้สึกที่ถูกแสดงออก ทำให้เราสามารถสังเกตได้ว่า ตอนนี้ความรักคงอยู่ในสภาวะไหนจากพฤติกรรมหรืออาการที่คู่รักแสดงออกต่อกัน
เมื่อครั้งรักกันแรกๆ เขาแสดงออกให้เรารู้ว่าเขารักเรามากแค่ไหน ความรักเบ่งบานเต็มไปด้วยฟิลเตอร์สีชมพู แต่ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ
รวมถึงสิ่งที่คนรักของเราแสดงออกมา แล้วอาการแบบไหนกันนะ ที่บ่งบอกว่านี่คืออาการของคนหมดรัก ที่เราจะสามารถใช้สังเกตตัวเองและคนรอบข้างได้
1. เฉยชากับความทุกข์หรือความสุขของอีกฝ่าย
เมื่อคนรักเรามีความสุขเราก็จะมีความสุขไปด้วย เมื่อเขามีความทุกข์เราก็จะกระวนกระวายทุกข์ใจไปด้วย ความรู้สึกของอีกฝ่ายมีผลต่อความรู้สึกของเรา
แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างแฟนไม่ได้ทานข้าวเช้าไปทำงาน คุณก็จะนึกเป็นห่วงว่าเขาจะปวดท้องไหมนะ? เมื่อแฟน มีปัญหาทำให้ทุกข์ใจ คุณก็จะทุกข์ใจไปด้วย
คุณรู้สึกว่าปัญหาของคนรักก็เหมือนกับปัญหาของคุณ แต่เมื่อไหร่ที่คุณไม่รู้สึกทุกข์ร้อนกับความทุกข์ของคนรัก
หรือไม่รู้ยินดีที่เห็นคนรักมีความสุข ความรู้สึกเฉยชานี้ แปลว่าความรู้สึกของคุณไม่เชื่อมโยงกับความรู้สึกของอีกฝ่ายแล้วหรือเปล่า? คุณอาจจะหมดรักไปแล้วก็เป็นได้
2. ไม่อยากเจอหรือไม่เจอก็ไม่เป็นไร
ช่วงนี้คุณเจอคนรักบ่อยหรือเปล่า? เป็นการพบเจอที่ถูกกระตุ้นจากความรู้สึกโหยหาหรือเพราะเป็นแฟนกันจึงเป็นเหตุผลให้คุณไปเจอคนรัก
เมื่อคุณตกหลุมรักส า รเคมีในสมองจะห ลั่ งออกมา ซึ่งส า รเหล่านี้ไม่ต่างจากยาเ ส พติด
มันจะทำให้คุณคิดถึงและรู้สึกโหยหาคนรักอยู่ตลอดเวลา คุณไม่สามารถหาเหตุผลให้กับความรู้สึกนี้ได้นอпจากคำว่า ‘รัก’
หากช่วงนี้คุณไม่อยากเจอคนรัก หรือไม่เจอก็ไม่เป็นไร หากคุณคิดว่าวันหยุดจากงานยุ่งๆ ชวนปวดหัว คุณไม่อยากจะสละเวลาพักผ่อนให้กับคนรัก
ทั้งที่เมื่อก่อนการได้เจอคนรักถือเป็นการเติมพลังจากเรื่องเหน็ดเหนื่อยที่คุณพบเจอ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้บ่งบอกว่าความรู้สึกของคุณเปลี่ยนแปลงไป
เพื่อความชัดเจนคุณอาจจะไปเจอคนรัก หากคุณยังรักเธอส า รเคมีในสมองจะห ลั่ งโดปามีนออกมา ทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจกับช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน
3. ไม่อยากรับรู้หรือแบ่งปันเรื่องราว
อยู่ไหน? ทำอะไร? ทานข้าวหรือยัง? ตื่นยัง? เป็นคำถามที่ดูเหมือนไม่มีอะไรลึกซึ้ง
แต่กลับเป็นบทสนทนาสุดคลาสสิกที่คู่รักส่วนใหญ่คุยกันตั้งแต่เริ่มจีบกันจนกระทั่งตกลงปลงใจที่จะคบหากัน
คุณยังสนใจอยากรับรู้เรื่องราวเหล่านี้หรือยังยินดีที่จะตอบกลับข้อความเหล่านี้เดิมๆ ซ้ำๆ เหมือนเมื่อครั้งจีบกันอยู่หรือเปล่า?
เมื่อคุณสนใจหรือรักใครคุณก็อยากจะรับรู้เรื่องราวของเขาและอยากจะบอกเล่าเรื่องราวของคุณให้อีกฝ่ายรับรู้ มีทั้งเรื่องไร้ส า ระ เรื่องจริงจัง แม้จะใช้ชีวิตในแต่ละวันเหมือนๆ เดิม
แต่กลับมีเรื่องราวมากมายมายมาแบ่งปันกัน หากคุณไม่อยากรับรู้เรื่องราวเหล่านี้หรือเ บื่ อที่ตอบคำถามเหล่านี้แล้ว
นี่เป็นอีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกถึงอาการหมดรักที่คุณจะสามารถใช้สังเกตตนเองและคนรอบข้างได้
4. ความเ บื่ อหน่าย
ไม่มีความรู้สึกร่วมกับความทุกข์หรือความสุขของคนรัก ไม่อยากเจอหรือไม่เจอก็ไม่เป็นไร ไม่อยากแบ่งปันหรือรับรู้เรื่องราวของอีกฝ่าย
อาการเหล่านี้แสดงออกว่าคุณกำลังรู้สึกเ บื่ อหน่ายกับความสัมพันธ์ คุณเ บื่ อหน่ายกับเรื่องราวของคนรัก เ บื่ อกับการต้องคอยตอบคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน
คุณไม่สนใจว่าการไม่ได้คุยกันหรือเจอหน้ากันจะทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหิน และหากว่าคุณไม่สนใจว่าสุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักจะเป็นไปในทิศทางใด
ไม่ว่าคุณจะเ บื่ อหน่ายคนรักหรือเ บื่ อหน่ายความสัมพันธ์ สุดท้ายแล้วความเ บื่ อหน่ายอาจนำไปสู่การยุติความสัมพันธ์ได้
5. ชวนทะ เลาะได้ทุกเรื่อง
เคยมีเหตุการณ์ทะ เลาะกันที่ทำให้คุณสงสัยบ้างไหมว่า “ทำไมเราถึงทะ เลาะกันเรื่องนี้นะ? ทั้งที่เมื่อก่อนเรื่องนี้ไม่เคยเป็นปัญหาจนทำให้เราทะ เลาะกันเลย”
เมื่อคนเราเริ่มเ บื่ อหน่ายกันแล้ว เรื่องที่เคยยอมรับได้ อะไรที่ปล่อยผ่านได้ตลอด หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่น่าจะมีปัญหา ทุกเรื่องกลับสามารถสร้างความขัดแย้งให้คุณกับคนรักได้ซะงั้น
พฤติกรรมปกติของคนรักอยู่ดีๆ ก็สร้างความหงุดหงิดใจให้แก่คุณ ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ
ของเขาที่คุณเคยปล่อยผ่านได้เสมอมากลับกลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้เกิดการทะ เลาะกันรุนแรงเกินกว่าเหตุ
หากคุณทะ เลาะกันด้วยเรื่องเหล่านี้อยู่บ่อยๆ คุณควรจะตั้งคำถามกับความสัมพันธ์และความรู้สึกของคุณได้แล้วว่า ความรักที่คุณมีต่อกันยังคงอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า?
6. จินตนาการถึงอนาคตโดยไม่มีอีกคนอยู่ในนั้น
พรุ่งนี้ สุดสัปดาห์นี้ เดือนหน้า อีก 1 ปีข้างหน้า อีก 2 ปีข้างหน้า ในช่วงเวลาที่เติมเต็มไปด้วยความรัก คุณจะคิดถึงอนาคตของคุณโดยคำนึงถึงคนรักด้วย
ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว อาจจะแพลนเล็กๆ เช่น ไปทานข้าว ดูหนัง เที่ยวต่างจังหวัด หรืออาจจะเป็นแพลนที่ต้องวางแผนและคิดให้รอบคอบ
เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ เรียนต่อ เมื่อคุณจินตนาการถึงอนาคตข้างหน้าว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ภาพที่คุณเห็นจะมีคนรักของคุณอยู่ด้วย
หากภาพในจินตนาการของคุณหรือแพลนของคุณในอนาคตเริ่มไม่มีคนรักอยู่ในนั้น คุณอาจจะแค่ลืมนึกถึง
แต่นี้ก็เป็นสัญญาณที่มากพอว่าคุณไม่สนใจหรือเริ่มหมดรักอีกฝ่ายแล้ว คุณเริ่มมองเห็นแต่ตัวเอง คนรักแทบจะไม่มีบทบาทต่อชีวิต ความรู้สึกนึกคิด และการตัดสินใจใดๆของคุณ
7. มีความลับและข้ออ้างมากขึ้น
เพราะเ บื่ อหน่ายและไม่อยากให้อีกฝ่ายเข้ามามีบทบาทในชีวิตตนเองเหมือนอย่างเคย จึงทำให้คุณต้องปิดบังบางอย่างไม่ให้คนรักรู้
คุณเริ่มโกหกคนรักบ่อยครั้ง คุณมีข้ออ้างมากมายให้กับความเปลี่ยนแปลงของคุณ ข้ออ้างที่คุณเริ่มตอบข้อความช้า
ข้ออ้างที่ไม่ยอมไปเจออีกฝ่ายในวันหยุด เมื่ออีกฝ่ายเซ้าซี้หาคำตอบ ก็อาจจะลงเอยที่การทะ เลาะกัน
จนทำให้คุณรู้สึกว่า อย่ามาคุยกันเลยแบบนี้ อย่าเจอกันเลยถ้าจะลงเอยด้วยสถานการณ์แบบนี้
8. คุณตกหลุมรักคนอื่น
เมื่อคุณตกหลุมรักใครอีกคน คนรักของคุณจะเป็นคนรักของคุณแค่สถานะ เพราะคุณคงไม่รักเขาแล้ว
คุณไม่มีความรู้สึกร่วมกับความทุกข์-สุขของอีกฝ่ายเพราะความรู้สึกของคุณเชื่อมโยงกับอีกคน คุณไม่อยากเจอเขาเพราะคุณมีอีกคนที่คุณอยากเจอมากกว่า
คุณเ บื่ อและไม่อยากรับรู้หรือแบ่งปันเรื่องราวใดๆของคุณกับคนรักเพราะคุณมีคนที่อยากคุยด้วยแล้ว
คุณลดบทบาทของคนรัก คุณมีความลับและข้ออ้างมากมายเพื่อไม่ให้คนรักรู้ว่าคุณกำลังห ล งรักอีกคนที่ไม่ใช่เขา