แฟนนอпใจ ต้องทำยังไง

เค้านอпใจเราจริงๆเหรอ? มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมเค้าทำแบบนี้? เราไม่ดีตรงไหน? มันจบแล้วจริงๆใช่มั๊ย? เราจะทำยังไงต่อดี? มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเราไม่รู้เลย? ทั้งโกรธ โมโห เสียใจ เสียดาย รู้สึกผิด โทษเค้า โทษตัวเอง

หายใจเข้าลึกๆ ถ้าอยากร้องไห้ร้องเลย

ถ้าอยากร้อง ร้องออกมาเลย จะร้องไห้ ตะ โกน โวยวาย อะไรก็เอาเลยเต็มที่ แต่กับตัวเองนะ ไม่ใช่ไปใส่คู่ของคุณ เพื่อให้โอกาสตัวคุณเองได้ปลดปล่อยความรู้สึกเสียใจ โกรธแค้น ออกมาก่อน และที่สำคัญเลย คือ อย่าทำร้ า ยตัวเอง และคนอื่นนะ ห้ามเด็ดขาดเลย!

การที่เราได้ร้องไห้ ตะ โกน หรืออะไรก็แล้วแต่ มันเหมือนเป็นการที่เราได้ปลดปล่อยอารมณ์ ความเสียใจ ความอึดอัด ที่เรามีออกมา จะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น มาหน่อยนึง ใช่ “หน่อยนึง” แต่ก็ยังดีกว่าเก็บไว้ แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น มาเลยป๊ะ

พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

พยายามหาคำตอบว่าทำไม และมันเกิดขึ้นได้ยังไง ถึงแม้ว่าจะไม่อยากพูดถึง ไม่อยากมองหน้า ไม่อยากรับฟัง แต่คุณก็ต้องทำอย่างมีสติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ทราบถึงต้นตอของปัญหา ว่ามัน มาถึงจุดที่ แฟนนอпใจ กันได้ยังไง จะได้เป็นส่วนช่วยในการคิด วิเคราะห์ ว่าจะ ต้องทำยังไง ต่อไป

เชื่อมโยงมาจากข้อข้างบน เมื่อเราได้รู้แล้วว่าปัญหามันคืออะไร เกิดจากอะไร รายละเอียดเป็นแบบไหน แล้วความสัมพันธ์ของคุณที่มีอยู่มันดีมั๊ย เค้าดีมากพอที่เราจะให้อภัย และก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้มั๊ย ซึ่งมันไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจที่จะไปต่อหรือไม่ เพราะทุกคน มีเหตุผลที่ต่างกัน มีเรื่องที่ยอมรับได้และไม่ได้ต่างกัน และรายละเอียดในความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ก็ต่างกันด้วย

ต้องเข้าใจนะว่ามันไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งหมด

ฝ่ายที่นอпใจต่างหาก ที่เป็นฝ่ายผิด ไม่ว่าเค้าจะพยายามพูดแค่ไหนก็ตาม ว่าเป็นเพราะคุณ คุณมีส่วนที่ทำให้เป็นแบบนี้ การที่คุณทั้งคู่ตัดสินใจคบกัน หรือแม้กระทั่งแต่งงานกัน มันเหมือนการที่คุณทั้งคู่ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกันแล้วว่าจะรักและไม่นอпใจกัน ซึ่งการรักกัน ไม่นอпใจกัน ให้เกียรติกัน เป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้ว แฟนที่ดีเค้าไม่ทำแบบนี้หรอก

ประเมินทางเลือกที่คุณมี

อย่าเอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้งอย่างเดียว ให้คิดอย่างมีสติ และคิดให้รอบคอบ ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง ลองคิดดูว่า ถ้าเราเลิกจะเป็นยังไง และถ้าไม่เลิกจะเป็นยังไง ชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบดู เพื่อประเมินทางเลือก และเงื่อนไขที่คุณมี ณ ขณะนั้น

ให้เวลาตัวเองอย่างน้อยซักวัน ก่อนตัดสินใจอะไรลงไป

การตัดสินใจนี้ เป็นการตัดสินใจเรื่องสำคัญ และครั้งสำคัญมากครั้งนึงในชีวิตของคุณเลยนะ ฉะนั้นไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบตัดสินใจในทันทีทันใด ให้เวลาตัวเองได้ตั้งสติ ปล่อยเวลาให้อารมณ์เย็นลงหน่อย เพื่อให้มีสติเข้ามาแทนที่ จะให้คิดทบทวนทุกอย่างให้รอบคอบ ถี่ถ้วน ก่อนจะตัดสินใจพูด หรือทำ อะไรลงไป

ติดต่อเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือคนที่คุณไว้ใจ

เรื่องบางเรื่อง ถ้ามันหนักหนา เกินที่จะแบกมันไว้คนเดียว ก็ลองพึ่งพาคนที่รักเราและเรารักเค้า ไว้ใจเค้า ให้ช่วยคิดได้ บางครั้งการที่เราเป็นคนที่ต้องเจอเหตุการณ์นี้โดยตรง ก็ทำให้เราอยู่ใกล้เรื่องนี้เกินไปจนอาจจะมีมุมมองอะไรที่แคบเกินไป จน มองไม่เห็นบางมุมบางเรื่อง การที่เราได้ปรึกษาใครซักคนที่เค้าอยู่วงนอпออกมา อาจจะทำให้เราได้เห็น มุมมองบางอย่างที่เราไม่เห็น แต่คนนอпมองเข้ามาเค้าเห็น แล้วมันก็อาจจะช่วยให้เราตัดสินใจอะไรบางอย่างก็ได้

อย่าเพิ่งให้โซเชี่ยลมายุ่ง

อย่าเพิ่งไปยุ่งกับโซเชี่ยล ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ด่าเค้าที่นอпใจ แฉเค้า หรือแม้แต่โพสต์รูปสวยๆแฮปปี้ ห ล อ กตัวเองและคนอื่นว่าคุณเองมีความสุขดี ทั้งที่ในใจทุกข์แทบต า ย หรือโพสต์ประ ชดแฟนคุณ เพื่อหวังให้เค้าเจ็บอย่างที่คุณรู้สึก คุณควรต้องออฟไลน์ตัวเองไปก่อน ให้เวลาตัวเองได้จัดการกับเรื่องราวความสัมพันธ์ และเยียวยาจิ ตใจของตัวเอง ในพื้นที่ความเป็นจริง ก่อนจะสู่โลกภายนอп โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกโซเชี่ยล ที่เมื่อทำอะไรไปแล้ว ถ้าอยากจะแก้ไขมันอาจจะสายเกินไป จนทำอะไรไม่ได้แล้ว

ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

หลายๆคน มักเลือกที่จะผลักไสไล่ส่งความจริง ที่ว่าเค้านอпใจคุณ ไม่ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ห ล อ กตัวเองไปวันวัน ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ลึกๆในใจคุณก็รู้อยู่ดีว่ามันเกิดอะไรเกิดขึ้น และที่สำคัญคือมันเกิดขึ้นไปแล้ว เราแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะยอมรับ อยู่กับปัจจุบัน และทำอนาคตให้ดีขึ้นได้

อย่าลืมดูแลตัวเอง

ไม่ว่าสุดท้ายจะตัดสินใจยังไง ก็ไม่แปลกที่คุณจะเสียใจ ไม่ห้ามเลย เสียใจได้ เจ็บได้ แต่ให้เวลากับมันอย่างจำกัด อย่าจมกับมัน อย่าปล่อยให้มันทำลายคุณ โดยการไม่กิน ไม่นอน หรือปล่อยตัว กินแต่อาหารแย่ๆเยอะๆ ไม่ดูแลตัวเอง หรือแม้แต่จมดิ่งไปกับมันจนป่วยทั้งกายทั้งใจ คุณเท่านั้นที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยดึงตัวคุณเองขึ้น มาได้ คุณอาจจะต้องรับมือกับความล้มเหลวทางด้านอารมณ์ แต่อย่างน้อยก็อย่าลืมดูแลร่างกายซะหน่อยก็ยังดี

ในตอนจบ ถ้าคำตอบ คือ “ให้อภัย” และคุณทั้งคู่อยากจะไปกันต่อ ก็ต้องมาจับเข่าคุยกันแล้วหล่ะ ว่าจะทำยังไง ทั้งคู่ก็ต้องมาหาทางออกร่วมกัน ให้ความสัมพันธ์ยังดำเนินต่อไปได้ ว่าจะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนา อะไรให้กันได้บ้าง ที่จะรักษาแผลนี้ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้เดินไปต่อ และก้าวผ่านเรื่องที่มันเกิดขึ้นนี้ไปได้

แต่ถ้าคำตอบ คือ “ให้อภัยไม่ได้” แสดงว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ต้องจบลง ก็จงอย่าได้เสียใจ หรือเสียดายอะไร ถ้าที่ผ่าน มาคุณได้ทำมันอย่างเต็มที่แล้ว ก็แต่ต้องยอมรับและเดินต่อด้วยตัวเองให้ได้

ไม่มีอะไรที่ทำให้แผลความเจ็บปวดจากเรื่องนี้มันหายสนิทได้หรอก มันจะยังคงอยู่ในใจเราเสมอ แต่อยู่ที่เราว่าจะเลือกวิธีรักษาแผลนี้ให้ดีที่สุด หรือเลือกที่จะทนเจ็บปวด กรีดแผลเดิมซ้ำๆ อยู่รึป่าวแค่นั้นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *