ฉันเดินตามด้วยความซื่อสัตย์ แต่เขาโรยเศษแก้วทิ้งไว้บนพื้น

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่มีผู้คนได้พูดถึงกันอย่างมากในโลกโซเชียล

เพราะได้มีหญิงสาวรายหนึ่งได้ออกมาเผยเรื่องราวความรักของตนเอง เป็นรักที่เจ็บปวดสร้างความเจ็บช้ำให้กับเธออย่างมาก โดยเรื่องราวมียู่ว่า…

ในช่วงหลายปีที่ผ่าน มานั้นความรักของเธอที่เดินทางอยู่บนถนนเล็กๆแห่งหนึ่ง โดยที่ทั้งสองข้างทางของเธอนั้นเป็นเหว

เธอคนนี้ได้เดินตามผ ช.คนหนึ่งด้วยความซื้อสัตย์โดยที่ไม่มีข้อแม้ ในตลอดทางขอเธอนั้น เธอเห็นแต่แผ่นหลังของเขา

ฉันได้เดินทางไปอย่างความเชื่อใจและไว้วางใจ เขาได้หัน มามองฉันเป็นพักๆ ฉันเองได้เป็นคนที่ตัดสนใจเลือกมาเดินตามเขา

ฉันได้เดินทางต่อไปเรื่อยๆ ในระหว่างทางนั้นฉันไม่เคยได้รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจของเขา

แต่เขาได้โรยเศษแก้วทิ้งไว้บนพื้นในระหว่างที่ฉันได้เดินอยู่ ในขณะที่ฉันได้เดินตามเขา ฉันไม่เคยได้ระวังตัวใดๆเลย

ฉันเดินตามเขาด้วยความไว้วางใจ ด้วยความเชื่อใจที่ฉัน มาให้เขามาโดยตลอด และฉันรู้สึกเจ็บเท้าแล้ว แต่ฉัน..ก็เลือกที่จะเดินตามเขา เดินตามรอยของเขาต่อไป

ชีวิตรักของฉัน…การขอโทษและการให้อภัยเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เค้าก็ยังทำอีก จนในที่สุด

พื้นที่เราเดินก็เต็มไปด้วยเศษแก้วชิ้นเล็กๆมากมายที่คอยทิ่มตำเท้าฉันอยู่ตลอดทุกก้าวที่เดิน

แน่นอนว่ามันก็มีบางช่วงที่เป็นพื้นดินธรรมดา บางช่วงที่เป็นพื้นหญ้านุ่มๆบ้าง แต่เดินไปไม่นานก็กลับไปเจอเศษแก้วอีก

ที่ตลกคือ ฉันก็ยังคงทนเดินต่อไปเรื่อยๆ เพราะคิดเสียดายที่อุส่าต์เดินตามมาตั้งนานแล้ว และด้วยความหวังจากเสียงพูดของเค้า ที่ตะ โกน มาเรื่อยๆว่าเค้าจะหยุดการกระทำแบบนี้แล้วนะ

ความเจ็บปวดมันเพิ่มขึ้น มาอีก เมื่อมีเด็กคนนึงเกิดขึ้น มา จากที่เดินด้วยน้ำหนักเราคนเดียวกลายเป็นต้องเดินโดยอุ้มเด็กคนนี้ไว้ที่แขนเพื่อไม่ให้เค้าโดนเศษแก้วไปด้วยเด็กโตขึ้นทุกวัน

น้ำหนักก็มากขึ้นทุกวันตามไปด้วย 8 ปี..ในที่สุดเราก็เดิน มาจนถึงทางแยก ทางแยก 2 ทาง คือทางตรงทางเดิมที่แม้จะมีเศษแก้วปะปรายให้เห็น

แต่ก็ยังคงมีแผ่นหลังที่คุ้นเคยกับรอยยิ้มจริงใจของเค้าที่เหมือนคอยให้ความหวังว่าเค้ากำลังจะเลิกโรยเศษแก้วแล้ว หรือจะเลี้ยวออกไปอีกทาง ที่มันโคตรมืดและไม่รู้จะมีอะไรอยู่ข้างหน้า

ในใจคิดว่า ไม่ว่าจะเลือกทางไหนเราจะเอาเด็กคนนี้ไปด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่ปล่อยเด็กแน่นอน ที่ทางแยก…ฉัน มองลงไปที่เท้าตัวเอง

ตอนนี้มันดูไม่เหมือนเท้าอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน มันเจ็บ มันชา แล้วกลับมาเจ็บอีก วนไปเรื่อยๆ

วันนี้…ฉันตัดความเสียดาย 8 ปี ที่ผ่าน มาไว้ที่ตรงทางแยกนั้น แล้วเลือกเดินทางใหม่ ทางที่มันโครตจะมืดและไม่รู้จะเจอกับอะไรอีก แต่อย่างน้อยที่สุดทางนี้ก็ไม่มีเศษแก้วอีกแล้ว

แน่นอนว่า เมื่อไม่มีเศษแก้ว ฉันจึงกล้าที่จะวางเด็กลงกับพื้นแล้วจับมือกันเดินแทนการอุ้ม ฉันรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด

จากที่เป็นแต่ผู้ตามที่ซื่อสัตย์ ฉันรู้ทันทีว่าตอนนี้ฉันต้องมาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแทนในวินาทีนี้เลย เพราะ ฉันกำลังจะมีเด็กคนนึงเดินตามแผ่นหลังของฉัน

ตอนนี้ฉันยังเดินต่อไม่ค่อยไหวเลย จากนี้ฉันอาจจะนั่งลงใช้เวลาในการรักษาแผลที่เท้าไปซักพัก แต่ไม่นานหรอกฉันจะลุกขึ้นแล้วเดินต่อ เดินไปไอ้ทางที่แม่งโคตรมืดนี่แหล่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *