สำหรับการเลือกคู่ครอง มันก็เหมือนกับการเสี่ยงดวง บางคนเกิดมาเพื่อความสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่คู่ควรกับคนสมบูรณ์แบบ
บางคน มีความแตกต่างกัน มากเกินไป จนทำให้การอยู่ร่วมกันยาก แล้วเราจะเลือกคู่ครองอย่างไรล่ะ
และถ้าคนเรามีศีลไม่เสมอกัน จะสามารถอยู่กันได้หรือไม่ จะอยู่กันอย่างไรไม่ให้ทะ เลาะกัน
เมื่อ ศีลไม่เสมอกัน ปัญญา.. ที่จะคุยกัน .. ก็ไม่เท่า คือ.. คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจกัน ..
พาลทะ เลาะตลอด ทางแก้คือ “ รักษาศีล ” รักษาใจ .. ของเราเองให้ดี ถ้าไม่ใช่ เขาก็ไปเอง แต่ถ้าใช่ เราเปลี่ยน เขาก็เปลี่ยน
ศีลไม่เสมอกัน “ ชีวิตคู่ ” หากเลือก.. คนไม่เสมอเรา แม้เราจะพยายามเ ปลี่ยนแค่ไหน..? แต่หาก อีกฝ่ายไม่คิดเปลี่ยน ก็ไปกันไม่ได้
เลือกใคร..? มาเป็น “ คู่ ” จึงไม่ได้ดูแค่ภายนอп แต่เพ่งดูภายใน ศีล สติปัญญา
เพราะนี่จะทำให้ “ชีวิตคู่” อยู่กันนา “ ชีวิตคู่ ” คือ อภัย และ เข้าใจ คุยกัน และพร้อมปรับแก้ไข ไม่ใช่ พยายามอยู่ฝ่ายเดียว นั่นเขาเรียก “ ชีวิตคู่ ”
หากทำเช่นนั้นอยู่ฝ่ายเดียว ให้เรียก“ ชีวิตเดียว ” ของคนๆ เดียว แต่ถ้าหาก..“ โชคชะตา ” ทำให้..คุณเจ็บช้ำ จงรู้ไว้ มันสอนให้คุณกลายเป็น..“ คนเข้มแข็ง ”
หาก..“ โชคชะตา ” ทำให้..คุณถูกห ล อ ก จงรู้ไว้ มันสอนให้คุณ..“ ฉลาดขึ้น ”
หาก..“ โชคชะตา ” ทำให้..คุณเผชิญกับศั ต รู จงรู้ไว้ มันสอนให้คุณ..“ เอาชนะตัวเอง ”
หาก..“ โชคชะตา ” ทำให้..คุณล้มเหลว จงรู้ไว้ มันสอนให้คุณ..“ หนักแน่น ” มากยิ่งขึ้น
หาก..“ โช คชะตา ” ทำให้..คุณห ล งทาง จงรู้ไว้ มันสอนให้คุณพบกับ..“ ทางเส้นใหม่ ”
อย่าปล่อยให้..“ ความทุกข์ ” ที่กำลังเผชิญอยู่ผ่านไป โดยสูญเปล่า จำไว้นะ “ ทุกอุปสรรค ” คือ การเปลี่ยนแปลงชีวิ ตคู่ก็เช่นกัน
การที่จะมาเป็นคู่ครองกัน ต้องมีปัญญาเสมอกัน ถ้าใกล้เคียงกัน มากก็จะยิ่งมีความสุข ความเจริญ ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ เนื่องด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทั้งคู่มีได้เกื้อหนุนกันและกัน
แต่ถ้า ศีลไม่เสมอกัน ก็จะไม่ช่วยนำพาให้คู่ครองคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน ไม่มีความเชื่อในแบบเดียวกัน ครองคู่กันอย่างไม่มีความสุข ก่อให้เกิดการทะ เลาะเบาะแว้ง