ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น จะต้องดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ สำหรับคนที่ไม่มีลูกนั้น จะได้ว่าเป็นคนที่มีบุญมาก มีกุศลผลบุญสูง
เพราะด้วยเหตุผลหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือ การมีลูกคนหนึ่งกว่าจะเลี้ยงให้โตได้ กว่าจะส่งเสียให้เขาเรียนจบ กว่าจะดูแลจนเขาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ จะต้องใช้เงินเท่าไหร่กัน
เราชื่อว่าหลายคนคงคิดจะมีลูก แต่ถ้าหากคุณและอ่านเรื่องราวดังต่อไปนี้ ในบางครั้งอาจจะทำให้คุณนั้นเปลี่ยนความคิดใหม่ไปได้เลยทันที
ดิฉันถามว่า : คือว่าตัวดิฉันเองเป็นคนที่ไม่มีลูกเป็นของตัวเอง ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะว่าดิฉันไม่มีบุญใช่ไหมเจ้าคะพระอาจารย์
พระอาจารย์ : มีบุญซิโยม คนที่ไม่มีลูกนั้นน่ะ เป็นคนที่ไม่มีบุญได้อย่างไร อาตมาต้องขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า คนที่มีลูกเป็นคนที่มี ก ร ร ม ลองถามเขาดูสิ
ดิฉัน : ทำไมคนที่มีลูกถึงมี ก ร ร ม ล่ะคะพระอาจารย์
พระอาจารย์ : นั่นก็เป็นเพราะว่าการเลี้ยงลูกมันเป็นทุกข์ยังไงล่ะ เดี๋ยวบางทีลูกก็ดื้อ บางทีลูกก็ซน เดี๋ยวก็เชื่อฟังเดี๋ยวก็ไม่เชื่อฟัง ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ
ลูกจะไปทำอะไรเกิดความเสียหายขึ้น มา สุดท้ายพ่อแม่ต้องกลายเป็นทุกข์เปล่าๆ พ่อแม่ก็ต้องมาคอยรับผิดชอบ มาคอยรับ ก ร ร ม ที่ลูกได้ก่อไว้ จะต้องคอยจ่ายเงินค่าเสียหาย บอกว่าเลยนะว่าการมีลูกไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
เราจะต้องหาเงิน มาให้เขาใช้อยู่ตลอดเวลา คนเป็นลูกนี่ไม่ต้องหาอะไรเลยใช่ไหม จะได้อะไรก็ได้ จะได้เงินก็แค่แบมือขออย่างเดียว พ่อแม่กว่าจะหามาได้แต่ละบาทนี่ เหนื่อยยากเย็น มากแค่ไหนใครจะรู้
ถ้าไม่มีลูกก็ไม่ต้องหาเงิน มาเลี้ยงลูกให้เหนื่อยยาก นี่แหละที่เขาเรียกว่าเป็นทุกข์ คนที่ไม่มีลูกคือคนที่มีบุญ คิดให้ดีก่อนที่จะมี แต่ทางที่ดีอย่าไปมีเลยดีกว่า
ดิฉันถามต่อ : แล้วถ้ามีคนอยู่ 2 คน คนหนึ่งมีลูกแล้วอีกคนนึงยังไม่มีลูก คนที่มีลูกเขาก็เลี้ยงลูกด้วยความทุกข์และก็แก่ไปทั้งคู่
แล้วตอนนั้นชีวิตของคนที่มีลูกดี ก็ดูแลพ่อแม่ยามเจ็บป่วยได้ แล้วคนที่ไม่มีลูกก็ไม่มีคนดูแล แล้วอย่างนี้ใครจะมี ก ร ร ม มากกว่ากันค่ะ
พระอาจารย์ : คนที่ไม่มีลูกน่ะสบายแล้ว เพราะจะได้พึ่งพาตัวเอง รู้จักการพึ่งตนเองโดยไม่ต้องไปพึ่งใคร ถ้าพึ่งตัวเองไม่ได้ก็จะไปแค่นั้นเอง
ไม่ต้องไปคิดอะไรมากสุดท้ายก็ต้องไปอยู่ดี แล้วการที่มีโอกาสที่จะได้ลูกดีมันก็น้อยมากๆ ไม่รู้เลยว่าลูกของเรานั้นโตขึ้น มาแล้วจะเป็นอย่างไร
พ่อโตแล้วเขาจะเลี้ยงดูเราหรือเปล่าไม่มีทางรู้เลย ถ้าเรามีลูกพอเขาโตขึ้นเขาก็ต้องเตรียมตัวแยกย้ายออกไป เขาจะต้องพาตัวเอง จะต้องมีครอบครัวที่จะต้องรับผิดชอบ สุดท้ายแล้วเขาก็พร้อมจะไป
ยังเราเป็นพระก็ไม่มีลูก ในตอนนี้ก็เตรียมตัวจากไปอยู่เรื่อยๆ ถึงเวลาก็ต้องไป ลูกศิษย์จะดูแลหรือไม่ดูแลก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ไม่เคยบังคับ
เรายังต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง โปรดแบ่งปันให้เป็นธรรมทาน สาธุ ขอให้ชีวิตดีขึ้นทุกๆวัน