สิ่งที่ “ไม่แน่นอน” ที่สุด คือไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้เราจะมีโอ กาส ได้ลิมตา ได้มีลมหายใจ ได้อยู่ต่อ บนโลกใบนี้หรือเปล่า
เราไม่ชอบพูดเรื่อง “ความต า ย” เราไม่ชอบฟังเรื่องเศร้า เราเลือ กที่จะไม่รับรู้ข่าวร้ า ຢ ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันคือสัจธรรมความจริง
ทุกครั้งที่มองเห็นความไม่แน่นอน เรามักแ อ บคิดว่าเราคงไม่โชคร้ า ຢขนาดนั้นทำให้ประมาท
ชะล่าใจ กลับมาใช้ชีวิตในแบบเดิมๆ ราวกับว่าจะอยู่อย่างไม่มีวันแตกดับ
ทุกปีเรามั่วแต่ห ม пมุ่นกับการเฉลิมฉลอง แต่ลืมคิดไปว่า ในขณะที่เรากำลังก้าวข้ามเวลา
นั่นห ม ายถึงการ “นับถอยหลัง” ของการมีลมหายใจด้วยเช่นกัน เราจะมีโอ กาส เดินทางข้ามปีอีกกี่ครั้ง
เราจะบรรเทิงกับเทศกาลได้อีกกี่หน เราจะรื่นรมย์กับชีวิตได้อีกกี่วัน สำคัญที่สุด ที่ควรคิด
คือปีที่ผ่าน มาาเราอยู่จุดไหน มีอะไรเปลี่ยนแปลง ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง
เพื่อคนที่เรารักและตอบแทนอะไรให้โลกนี้บ้ๅงหรือยัง เราทุกคน มีเวลาจำกัด ไม่มีใครรู้ว่าวันสุดท้ายจะมาถึงเมื่อไหร่
อย่าเกิดมาเพื่อ “เบียดเบียน” พื้นที่โลก และปล่อยชีวิตให้เป็นภาระ ของ “โชคชะตา”ใช้ทุกๆ นาที ที่ยังเหลืออยู่ให้มีค่า
ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการมีลมหายใจเข้าใจ “แพคเกจ” ของการ “คงอยู่”
ว่ามัน มาพร้อมกับการ “ดับไป” และไม่มีใครบอ กได้ว่าวันไหน จะถึง “คิวเรา” อย่าประมาท