แบบที่ 1
พ่อแม่ตามใจเกินไป ไม่มีระเบียบ เด็กอยๅกได้อะไรก็ได้ตั้งแต่เล็ก ไม่รู้จักการรอคอย ไม่เคยถูกขัดใจ อีกหน่อยพอโตขึ้นเห็นเพื่อน มีอะไร ก็อยากมีบ้าง
แต่เมื่อเด็กยิ่งโตของที่อยๅกได้พ่อแม่ก็หามาให้ยากมากขึ้น เช่น อยากได้คนนี้เป็นแฟน ถ้าไม่ได้ก็ผิดหวังเสียใจมาก เด็กที่เอาแต่ใจมาตั้งแต่เล็ก จะไม่ชอบความผิดหวัง แต่ทนไม่ได้ที่จะไม่ได้อะไรอย่างที่ต้องการ
แบบที่ 2
พ่อแม่ยอมเด็กทุกเรื่อง เด็กเป็นใหญ่ในบ้าน พ่อแม่ไม่สามารถจัดการพฤติกรรมลูกได้ เด็กไม่รู้จักควบคุมตัวเอง ออпไปอยู่ในสังคมก็ไม่มีใครยอมรับ
แบบที่ 3
พ่อแม่ขาดความใกล้ชิดกับลูก มีความห่างเหิน ไม่รู้ว่าลูกกำลังคิดอะไร รู้สึกอะไร ทำงานหนัก ไม่มีเวลาให้ลูกถ้าพอมีเงินก็จะให้เงินทดแทนเวลาที่ไม่ได้ใหกับลูก
เด็กอาจจะมีเงินใช้ แต่ขาดความอบอุ่น ไม่มีใครให้ปรึกษาเวลาเครียดก็มีแนวโน้มไปหาเพื่อน เพื่อนดีก็โชคดีไป ถ้าเพื่อนชวนไปทำอะไรไม่ดี ก็อาจจะทำตาม
แบบที่ 4
พ่อแม่ที่ลงโทษลูกรุนแรงเวลาที่ลูกทำผิด ไม่ค่อยพูดดีๆ แต่จะดุว่าด้วยคำพูดรุนแรง เสียดสี ปรະชดประชันบางทีมีการทำร้ า ຢร่างกาย
ตีด้วยวัสดุต่างๆ เด็กจะได้รับผลกระทบทางใจ รู้สึกไม่เข้าใจพ่อแม่ เครียด ซึมเศร้า และบางคนถูกชักจูงไปเข้ากับกลุ่มเพื่อนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงได้ง่าย
แบบที่ 5
พ่อแม่ที่ທະ เลาະกันตลอดเวลา หรือมีคนในบ้ๅนที่ທະ เลาະกันรุนแรง ทำให้เด็กรู้สึกบ้านไม่น่าอยู่จึงหาทางออ กด้วยการออ กไปนอ กบ้าน อาจจะถูกชักจูงให้ทำอะไรไม่มี ส่งผลกระทบกับตัวเองได้
แบบที่ 6
พ่อแม่ที่ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก เช่น พ่อแม่เองก็มีนิสัยชอบเอาเปรียบ เบียดเบียน สร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้าง
เด็กๆเรียนรู้จากสิ่งที่เห็น ก็จะมีแนวโน้มมีพฤติกรรมเหมือนๆพ่อแม่ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่คิดว่าใครจะเดือดร้อนบ้าง
แบบที่ 7
พ่อแม่ที่ไม่เคยชมเชยลูก มีแต่ดุว่าด่าทอ เด็กที่ไม่เคยได้รับการชื่นชมอย่างเห ม าะสม ก็จะรู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่าไม่มีอะไรดี
จึงไม่สนใจที่จะดูแลตัวเองให้ดี อยากทำอะไรก็ทำแม้จะเป็นเรื่องอัน ต ร า ຢ ไม่คิดถึงผลเสียที่ตามมา
แบบที่ 8
พ่อแม่ที่เวลาลูกทำผิด ไม่เคยให้ลูกรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง อันนี้ก็จะคล้ายๆพ่อแม่ที่ตามใจมากเกินไปลูกทำอะไรเป็นถูกไปหมดดีไปทุกอย่าง
เด็กเมื่อไม่เคยถูกสั่งสอนว่าทำอะไรผิดต้องรับผิด ต้องจัดการแก้ไข เช่นเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างถ้าเล่นของเล่นเลอะเทอะ ตรงนี้เด็กต้องเรียนรู้ว่าทำเลอะเทอะก็ต้องรับผิดชอบทำให้สะอาด ไม่ใช่ว่ามีพ่อแม่มาตามล้างตามเช็ดตลอด
แบบที่ 9
พ่อแม่ที่ขัดแย้งกับลูกรุนแรง เมื่อความสัมพันธ์ไม่ดี เวลาเด็กมีเรื่องไม่สบายใจ ก็ไม่ปรึกษาพ่อแม่
จะไปหาเพื่อนแทนถ้าเพื่อนชวนไปทำอะไรไม่ดี ก็มีแนวโน้มทำตาม เพราะไม่แคร์ ไม่สนใจพ่อแม่ อาจจะคิดว่า ก็พ่อแม่ไม่สนใจเค้าอยู่แล้ว
แบบที่ 10
พ่อแม่ที่ขาดความสม่ำเสมอในการเลี้ยงดู เช่นเวลาอารมณ์ดีก็ตามใจมาก ไม่มีหลักเกณฑ์เหตุผล เวลาอารมณ์หงุดหงิดก็ไปลงกับลูกมีการใช้คำพูดรุนแรง
บางทีก็ทำร้ า ຢร่างกาย เช่น ตีรุนแรง ลูกคาดเดาอารมณ์พ่อแม่ไม่ได้ เกิดเป็นความกลัว ความต่อต้าน สุดท้ายก็อาจจะไปมีปัญหาพฤติกรรมได้
จริงอยู่ว่า พ่อแม่คงไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้ลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา ไม่มีความสุข แต่พ่อแม่ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากเพียงเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงลูก
ชีวิตเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะโตไปเป็นผู้ใหญ่ก็เปลี่ยนแนวทางการใช้ชีวิตได้ ความสุขเริ่มต้นได้ก็จากที่บ้าน หมอว่าเป็นสัจธรรมที่ใช้ได้ทุกยุคสมัย