มีเพียงไม่กี่อย่างในชีวิตค่ะที่เราควรเก็บไว้ในใจก็พอให้รู้อยู่แก่ใจตัวเราเองการใช้ชีวิตแบบเรารู้–โลกรู้ไม่ได้ก่อให้เกิดสิ่งดีๆกับตัวเราสักเท่าไหร่หรอ กนะและนี่คือ 7 เรื่องสำคัญสุดๆที่เราไม่ควรพูดกับใครทั้งนั้น
1.อย่าคุยโวแพลนโปรเจ็กท์อลังการที่คุณต้องการจะทำเพื่อ ก้าวไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต
จงเก็บมันไว้เป็นความลับจนกว่าคุณจะจัดการมันสำเร็จเรียบร้อยเพราะในทุกๆแผนการมักมีจุดอ่อนซ่อนอยู่ซึ่งคุณอาจไม่รู้และหากมีคนเห็นจุดบอดนั้นและนำหยิบยกขึ้น มาเป็นประเด็นอาจทำให้คุณท้อแท้ที่จะเอาชนะกับอุปสรรคตรงหน้าก็เป็นได้
2.การทำดีไม่จำเป็นต้องเอาหน้า
ไม่ต้องทวงบุญคุณการโอ้อวดคุณงามความดีที่ตนทำ…จะทำให้คุณเป็นคนเย่อหยิ่งหากคุณยังรู้สึกว่าต้องพูดสิ!
งั้นกลับมาทบทวนดูอีกรอบค่ะว่าจริงๆแล้วคุณทำสิ่งนั้นเพื่ออะไรกันแน่?บริสุทธิ์ใจไหมที่จะทำสิ่งนั้นหรือที่ทำเพียงแค่ต้องการได้รับความชื่นชม?
3.ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องโอ้อวดไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
มันไม่ใช่เรื่องที่น่าคุยโวว่าตอนนี้น้ำหนักฉันลงไปแล้วกี่กิโลกรัมหรือเอาชนะการตื่นสายได้แล้วหรือคุณสามารถหยุดการเ ส พติดเ ซ็ п ซ์ได้แล้วเพราะถ้าคุณละแล้วซึ่งความสุขทางโลก
ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาพูดถึงเรื่องอะไรแบบนี้อีกที่จะแสดงตัวตนหรืออัตตาใดใดเพราะถ้าคุณพึงพอใจในตัวเองก็จะไม่ได้ต้องการคำป้อยอสรรเสริญจากใครอีก
4.อีกสิ่งที่คุณไม่ควรพูดคือช่วงเวลาที่คุณได้แสดงความกล้าหาญหรือช่วยเหลือใครไว้
เพราะคนเราเจอสิ่งต่างๆมากมายในทุกๆวันทั้งภายนอ กและภายในจิ ตใจของเราเองการเอาชนะตัวเองคือ การจัดการทั้งภายในและภายนอ กจิ ตใจของเราว่าคนอื่นจะรู้ไหมนะว่าเราทำดี
เราควรได้รับอะไรตอบแทนอย่างเห ม าะสมบ้างสิ…สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องคิดถึงมันเมื่อเราทำดีแล้วนอ กเสียจากว่าเราเป็นคนห ล งตัวเอง
5.ไม่จำเป็นต้องพูดคุยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ด้านจักรวาลชีวิตหรือความต า ย
เพราะนั่นคือ การตีความของเราเพียงคนเดียวมันยังไม่ใช่ความจริงซึ่งการเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้จะถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์เกิดการเอาชนะไม่จบสิ้ นซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้น มาทั้งนั้
6.ไม่คุ้มค่าหรอ กนะกับการที่จะเอาปัญหาในครอบครัวไปสาวไส้ให้กากิน
เรารู้กันดีอยู่แก่ใจว่ายิ่งคนอื่นรู้ความลับในครอบครัวเราน้อยเท่าไหร่เราก็ยิ่งเข้มแข็งขึ้น
มากเท่านั้นการจะแก้ปัญหาในครอบครัวได้ก็ด้วยความรักเพียงเท่านั้นยิ่งคุณนำเรื่องราวในครอบครัวไปบ่นกับผู้อื่น มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งแก้ปัญหาได้ย ากขึ้นเท่านั้นเองแหละ
7.การบ่นถึงเรื่องราวที่คุณไม่พอใจเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นทำ
ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นค่ะเช่นเดียวกับที่คนอื่นทำเสื้อผ้าคุณเลอะแล้วคุณไม่พอใจและยังพร่ำบ่นซ้ำๆนั่นแปลว่าใจคุณก็เลอะไปด้วยคนที่เก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่ขุ่นข้องหมองใจไว้กับตัวซ้ำๆก็ไม่ต่างกับคนที่ใส่รองเท้าย่ำเข้าบ้าน…บ้านสกปรกเช่นไรใจก็สกปรกเช่นนั้นไม่ต่างกันค่ะ
จะว่าไปนี่ก็จริงนะที่เรามักเก็บเรื่องที่เราไม่พอใจไปบ่นไปต่อว่ากันซ้ำๆอยู่อย่างนั้นแล้วก็ไม่เห็นจะเกิดผลดีอะไรขึ้น มานอ กจากความหงุดหงิดในใจเราเองชีวิตก็สั้นพอแล้วจะมาเสียเวลานั่งหงุดหงิดพร่ำบ่นกันไปอีกทำไม