แค่เป็นสุขกับสิ่งที่มีนั่นแหละ คือวาสนาที่สุดแล้ว

ชายคนหนึ่ง ตอน มีชีวิตเขาเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คนหลังจากเขาต า ยไป จึงได้รับตำแหน่งเป็นทูตสวรรค์หลังจากที่ได้เป็นทูตสวรรค์เขาก็มายังโลกมนุษย์อยู่เสมอเพื่อช่วยให้ผู้คนได้สัมผัสกับคำว่า

วาสนาอยู่มาวันหนึ่ง ทูตสวรรค์ได้เจอ กับชาวนาสีหน้าของชาวนามีแต่ความเศร้าหมองทูตสวรรค์ได้เอ่ยถามไปว่า

ท่านกลัดกลุ้มในสิ่งใดฤา ควายของข้าเพิ่งต า ยไป ข้าไม่มีควาย ช่วยไถนาอีกแล้ว แล้วต่อไปข้าจะดำนาได้ยังไงชาวนาตอบทูตสวรรค์จึงมอบควายให้เขาสองตัว

ชาวนาลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจทูตสวรรค์ยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้า เขาสัมผัสได้ถึงวาสนาของชาวนาวันต่อมา

เขาพบเจอชายอีกคนหนึ่ง สีหน้าของชายผู้นี้เต็มไปด้วยความเศร้าหมองเหตุใดท่านจึงเศร้าหมองเช่นนี้เล่า ข้าถูกห ລ อ กจนหมดตัว แม้แต่เงิน จะซื้อตั๋วรถกลับบ้านก็ไม่มี ข้าอยากต า ย ฮือๆ

ทูตสวรรค์ จึงยื่นเงินเป็นจำนวนที่เพียงพอให้ชายผู้นี้สาม ารถเดินทางกลับบ้านได้เขากอดทูตสวรรค์ด้วยความขอบคุณความปิติของชายผู้นี้พลอยทำให้ทูตสวรรค์สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวาสนาอีกครั้งวันต่อมา

ทูตสวรรค์ได้พบกับกวีหนุ่มคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่มีความสาม ารถ อีกทั้งรูปงามและร่ำรวย ภรรย าของเขาก็งามแฉล้ม กิริยามารยาทก็งดงามแต่กวีหนุ่มกลับไม่มีความสุข ท่านไม่มีความสุขหรือ

ข้าช่วยท่านได้ไหม ทูตสวรรค์ถามข้าพรั่งพร้อมในทุกสิ่ง ขาดก็เพียงสิ่งเดียว ท่านให้ข้าได้ไหม กวีหนุ่มเอ่ยขึ้นได้สิ ท่านบอ กข้ามาเถิด ข้าจะให้

สิ่งนั้นกับท่านเดี๋ยวนี้ ทูตสวรรค์ตอบ ข้าอยากมีวาสนา กวีหนุ่มตอบทูตสวรรค์ถึงกับอึ้งและเซไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า

ข้าเข้าใจแล้ว ทูตสวรรค์ เริ่มทำให้เขาสูญเสีย ในสิ่งที่เขาครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถ รูปโฉมที่หล่อเหล า ทรัพย์สินเงินทองที่เขามี อีกทั้งชีวิตของภรรยาสาวของเขา

เมื่อริบรอนในสิ่งที่เขามีจนสิ้น ทูตสวรรค์ก็จากไปหลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปทูตสวรรค์ได้กลับมาหากวีหนุ่มอีกครั้งสภาพของเขาในตอนนี้ช่างน่าหดหู่ยิ่งนักเขานอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงนอนที่สกปรก

และเสื้อผ้าที่มอมแมมทูตสวรรค์ได้เสกทุกสิ่งที่เขามีก่อนหน้านั้นกลับคืนให้เป็นของเขาอีกครั้งแล้วก็จากไปครึ่งเดือนให้หลังทูตสวรรค์ได้กลับมาเยี่ยมกวีหนุ่มอีกครั้งกวีหนุ่มจูงมือภรรยาสาวเข้ามาขอบคุณทูตสวรรค์

เพราะเขาได้รับแล้วซึ่งวาสนาเราทุกคนต่างอยู่ในท่ามกลางวาสนา แต่ไม่รู้จักวาสนากลับแสวงหาวาสนาเพียงเพราะคิดว่าตนเองพร่องในสิ่งที่คนอื่น มีตอนเราหิวมีบะหมี่ชามหนึ่งวางอยู่ตรงหน้านั่นคือวาสนาทำงานเหนื่อยมาทั้งวันกินข้าวเสร็จแล้วล้มตัวลงนอน

หัวถึงหมอนกรนเลยนั่นคือวาสนาร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรจู่ๆ ก็มีคนที่รักเรายื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้พร้อมคำปลอบใจ “เธอยังมีฉันอีกทั้งคน” นั่นคือวาสนาคำว่าวาสนาไม่มีคำจำกัดความสุขกับสิ่งที่มีได้ นั่นคือวาสนา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *