ปกติพ่อแม่ที่ทำงานนอ กบ้านเป็นประจำ การหาเวลาคุยกับลูก ๆ ก็มีน้อยเต็มทีอยู่แล้ว ยิ่งในยุคที่มี เน็ตใช้กันได้เกือบทั่วประเทศ
ทำให้การสื่อສ า รผ่านแอพพลิเคชั่น มีบทบาทยิ่งกว่าการพูดคุยกันเสียอีก กรณีเกิดปัญหาระหว่างพ่อแม่กับลูกที่คุยกันไม่รู้เรื่อง มีการสื่อສ า รไม่ตรงกัน หรือพ่อแม่ไม่เข้าใจลูก ช่องว่างตรงนี้ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกไม่อยากคุยกับพ่อแม่ก็ได้
มีหลายปัจจัยในปัจจุบันที่เป็นเหตุผลให้เด็กสมัยนี้ห่างที่จะคุยอย่างเข้าใจกับพ่อแม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเขินอาย การอยู่ห่างกัน
การเห็นเพื่อนเป็นที่ปรึกษามากกว่าพ่อแม่ หรือ การมีแอพพลิเคชั่นเข้ามาแทนที่การสื่อສ า รแบบตัวต่อตัว แต่สิ่งสำคัญที่ลูกไม่กล้าหรืออยากเข้ามาคุยกับพ่อแม่อาจเกิดจากเหตุผลเหล่านี้หรือเปล่า7 เหตุผลที่ลูกสมัยนี้ไม่อยากคุยกับพ่อแม่
1 ประมาณว่าเกรงใจเมื่อเห็นพ่อแม่ทำงานเหนื่อย
ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปปรึกษาหรือเล่าเรื่องของวันนี้ให้ฟังแต่เมื่อเห็นพ่อแม่ทำงานกลับมาเหนื่อย ๆ ก็กลัวจะไปสร้างความรำคาญให้
หรือพอจะเข้าไปคุยพ่อแม่กลับไม่สนใจที่จะฟัง เมื่อเกิดช่องว่างตรงนี้ลูกเลยเลี่ยงที่จะพูดคุยกับพ่อแม่
หรือพ่อแม่แทนที่จะให้เวลากลับลูกหลังกลับบ้านชวนลูกคุยหรือเล่าเรื่องต่าง ๆ ก็กลับไม่สนใจ จึงกลายเป็นเกิดระยะห่างระหว่างพ่อแม่กับลูกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
2 เอาเรื่องลูกไปเล่าต่อ
การนำเรื่องที่ลูกไปเล่าต่อหน้าไม่ว่าจะเป็นการพูดเปรียบเทียบในทางไหนก็เป็นสาเหตุที่ลูกไม่อยากคุยกะพ่อแม่ในเรื่องของตัวเอง เพราะรู้สึกอับอายหรือไม่ชอบที่จะให้ถูกพูดถึง
3 พ่อแม่ขี้บ่นกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากช่องว่างระหว่างวัยพ่อแม่อาจจะคิดอีกอย่าง ลูกอาจจะคิดไม่ตรงกับพ่อแม่ ทำให้เกิดความขัดใจกัน
เมื่อเกิดความไม่พอใจพ่อแม่ก็จะเป็นฝ่ายบ่นลูก ทำให้ลูกไม่อยากคุยหรือบางทีก็อาจเกิดลุกหนีเข้าห้องของตัวเองไปเลย
4 คอยจ้องจับผิด
พอลูกมีปัญหามาเล่าแทนที่จะรอฟังให้จบหรือถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง แต่กลับคอยมองว่าลูกทำไม่ถูก หรือฟังแต่ไม่ช่วยลูกแก้ไขปัญหา เจอแบบนี้ต่อไปลูกก็ไม่อยากคุยด้วยแล้ว
5 ไม่ได้ฟังลูกอย่างตั้งใจ
เมื่อลูกอยากจะคุยกับพ่อแม่ก็แค่ฟังให้ลูกพูดจบ ๆ ไป โดยไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ หรือไม่มองหน้าลูกเอาแต่ทำงานของตัวเอง
เมื่อลูกจะแสดงความคิดเห็น ก็มีทีท่าไม่สนใจ ในเมื่อพ่อแม่ไม่สนใจฟังบ่อย ๆ เข้าลูกก็ไม่อยากเดินที่จะมาเล่าเรื่องอะไรของตัวเองให้ฟังอีก
6 ทำตัวเป็นนักสืบ
ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เด็ก ๆ ก็เช่นกันโดยเฉพาะลูกที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น มักจะต้องการห้องส่วนตัว พื้นที่ส่วนตัว การที่พ่อแม่เข้าไปในห้องของลูกโดยไม่บอ กกล่าว
หรือแ อ บไปดูสมุดบันทึกส่วนตัวของลูก แทนที่จะให้ลูกเล่าเรื่องประจำวันให้ฟัง หรือตั้งคำถามแบบนักสืบจนลูกอึดอัดและอาจหลบเลี่ยงหน้าที่จะเจอเพื่อพูดคุยกับพ่อแม่ก็ได้
7 ชวนคุยผิดจังหวะ
เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นต่างฝ่ายต่างก็มีเวลาหรือ กิจกรรมที่ต้องทำจังหวะที่พ่อแม่ว่างอยากชวนลูกคุยด้วยอาจไม่ลงตัวในเวลาที่ลูกอยากจะพักผ่อน เล่น เกม อ่านหนังสือ
เมื่อถูกขัดจังหวะเข้าแทนที่อยากจะคุยก็ไม่สนใจที่จะฟังพ่อแม่ เมื่อหาเวลาคุยผิดจังหวะแบบนี้เห็นที่ทางแก้คงต้องขอเวลาลูกในช่วงว่างที่ลงตัว เพื่อให้เป็นช่วงเวลาทองของครอบครัวที่พ่อแม่ลูกมีเวลาให้กันนะคะ