อวดรวยไม่ได้ทำให้ชีวิตดีหรอ กขึ้นนะแต่เป็นการโชว์ให้คนอื่นดูเพื่อส่งเสริมอัตตาตัวตนให้มากขึ้นเลิกอวดรวย อวดเก่ง อวดดี อวดฉลาด
อวดนั่นอวดนี่ได้แล้วคนที่อิ่มในตัวเองไม่จำเป็นต้องพูดบอ กใครว่าฉันอิ่มแต่คนที่ขาดต่างหากต้องอวดเพื่อสร้างกำแพงปิดกั้นไว้ไม่ให้คนอื่นรู้ว่าฉันขาด ฉัน มีไม่พอฉันอายที่จะให้คนอื่นรู้ความจริง
ในทางจิ ตวิทยา จึงบอ กว่า ใครชอบอวดอะไรลึกๆ คือ เขาขาดสิ่งนั้น หรือเคยขาดสิ่งนั้น มาก่อนในทางพุทธศาสนา ท่านเห็นตรงกัน อวด
คือ การแสดง โอเว่อร์ เกินกว่าที่เป็นจริงมันเป็นการส่งเสริม อัตตา ตัวตน อย่างที่บอ กไปงอวดมากในใจจะเหมือน มีพายุที่ไม่มีวันสงบซักทีความสุขปลอมๆ
คือ ได้รู้สึกเหนือ กว่าใครซักคนในช่วงเวลาสั้นๆหลังจากนั้นความว่างเปล่า จะเข้ามาแทนที่ความสุขปลอมๆ
ในการซื้อสิ่งของต่างๆที่ไม่ได้จำเป็นต่อชีวิต ที่ไม่ได้ต้องการจริงๆมาแค่เพื่ออวด เพื่อบ่งบอ กให้คนอื่นเห็นว่าเขามีฉันก็มีได้เหมือนกัน มีคำกล่าวที่ว่า
“หากคุณซื้อแต่สิ่งของที่ไม่จำเป็นเข้ามาอีกไม่นานคุณจะต้องขายสิ่งที่จำเป็นออ กไป”ลองถามใจตัวเองดู ไม่เหนื่อยหรือยังไง เก่งได้ แต่ อย่าอวดเก่งภูมิใจได้
แต่อย่าให้มากถึง ขนาดห ล งตัวเองเพราะความห ล งตัวเองนั้นทำให้คนเก่ง พลาดมานักต่อนักแล้วยิ่งคิดว่าตัวเองดีเลิศเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอ กาสสูงที่เราจะมองไม่เห็นคนอื่น
นี่คือเรื่องจริงถ้าเรามองโลกแบบตรงไปตรงมาก็จะเห็นว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คนห ล งตัวเองจะไม่คิดดูถูกคนอื่นแล้วนิสัยดูถูกคนอื่นก็จะนำมาซึ่ง
นิสัยที่ชอบเปรียบเทียบเมื่อนิสัยชอบเปรียบเทียบมาถึง คราวนี้มันก็จะพานิสัยที่ชอบตัดสินคนอื่นติดมาด้วย คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ฉลาด
ทำแบบนั้นไม่ดี ทำแบบนี้ก็ไม่เข้าท่า คนห ล งตัวเอง จะเริ่มเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น เทวดาน้อยๆ
ผู้ไม่เคยทำอะไรผิดเริ่มติดกับความเก่ง ของตนเอง เริ่มติดกับความสำเร็จที่มีอยู่ เริ่มทำตัวเป็น คนธรรมดาที่ ไม่สำคัญไม่เป็น
ทั้งหมดนี้ส่งผลไม่ดีต่อ มิตรภาพและความสุขในชีวิตอันที่จริงแล้วยิ่งเป็นคนเก่งเท่าไหร่
ยิ่งต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้นความอ่อนน้อมนี่เองจะสามารถถ่วงน้ำหนักทำให้เท้าของเราให้ติดดินรวมความแล้วว่า
การเห็นคุณค่าของตัวเองไม่ผิดแต่อย่าให้มันลุกลามถึงขนาดทำให้เรากลายเป็น
คนห ล งตัวเองเพราะคนห ล งตัวเอง ก็คือ คนแพ้ตัวเองคนที่แพ้ตัวเอง ก็คือ คนที่แพ้ทุกสิ่งทุกอย่าง