หลายคนคงเคยฝันอยากที่จะเกิดมาเป็นคน มีเ ส น่ ห์ แต่บัดนี้จนแก่แล้วยังทำไม่ได้สักที จึงนำเรื่องของเ ส น่ ห์มาเล่าให้ฟังต่อ เพราะเห็นว่ามันคล้ายกับธรรมะปฏิบัติของพระพุทธเจ้ามาก คือ มาดต้องตา วาจาต้องใจ ภายในต้องเยี่ยม และเบ็ดเตล็ดอื่นๆ
1. มีนิสัยสดชื่นร่าเริงอยู่เสมอ การยิ้มแย้ม แจ่มใสกับผู้คนทำด้วยความจริงใจ ออ กมาจากใจ
2. ชอบยกมือไหว้คนด้วยความนอบน้อม ลักษณะที่งดงาม สบตาทุกครั้งที่ไหว้ ศีรษะค้อม มือชิดอ ก และใจเคารพ
3. เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนกับทุกคน โดยไม่เลือ กชั้นวรรณะ ไม่แสดงอำนาจ วางท่าเย่อหยิ่ง เหนือผู้อื่น
4. เมื่อได้พบกับคนอื่นที่รู้จักกันแล้ว หรือครั้งแรกก็ตาม ควรจะแสดงความกระตือรือร้น ยินดีที่ได้พบ ที่ได้รู้จักกัน รีบลุกขึ้นยืนทักทายทันที
5. คน มีเ ส น่ ห์ ไม่รู้สึกเสียเกียรติ ที่จะกล่าวคำขอโทษ หรือขอบคุณใครก็ตาม ตั้งแต่คนงาน คนรถ คนใช้ไปถึงระดับผู้ใหญ่ที่มีเกียรติ
6. คน มีเ ส น่ ห์ จะมีความสง่างาม รู้จักวางตัวเห ม าะสม เคลื่อนไหวช้าเกินไป ไม่เร็วจนลุกลี้ลุกลนเกินไป เมื่อเล่นก็เล่น เมื่อทำงานก็ทำงาน
7. แต่งกายให้ถูกกับกาลเทศะ ไม่แต่งตามใจเราเอง แต่แต่งตามสภาพของงานที่จะไป และสังคมสิ่งแวดล้อมที่กำลังมีงานอยู่
8. ถ้าหากงานที่จะไปนั้น เป็นงานใหญ่ของเจ้าภาพที่มีเกียรติยศและตำแหน่ง หน้าที่การงานสูง เราไม่สามารถแต่งกายให้สมเกียรติได้ก็อย่าไปดีกว่าเพราะว่า จะทำให้เจ้าภาพเขาเสียหน้า และกระอักกระอ่วนใจ
9. ในงานพิธีต่างๆ เมื่อเราได้รับเชิญให้ลุกขึ้นยืนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าชุมชน ควรจะกลัดกระดุม ให้เรียบร้อยทุกๆ เม็ด รวมทั้งสูทด้วย
10. คน มีเ ส น่ ห์ เมื่อไปงานพิธีใหญ่ ต้องแต่งกายรัดกุม ถูกกาลเทศะไม่พกของตุงกระเป๋า เช่นโทรศัพท์มือถือหรือสะพายกล้องรุงรังวาจาต้องใจ
11. คน มีเ ส น่ ห์ เมื่อพูดกับใคร หรือมีใครพูดด้วยต้องให้ความสนใจ 100% ด้วยอาการใจจดใจจ่อ และฟังตั้งแต่ต้นจนจบ แม้เรื่องนั้นเราจะเคยฟังมาหลายครั้งแล้วก็ตาม
12. เราต้องพูดในสิ่งที่เขาอยากฟัง จะไม่พูดในสิ่งที่เราอยากพูด โดยพยายามถามตนเองทุกครั้ง ก่อนจะพูดว่าเราควรจะพูดออ กไปไหม
13. ให้พยายามพูดในภาษาของคนฟัง ไม่ใช่พยายามพูดในภาษาของคนพูด เพราะเมื่อพูดแล้วคนฟังน่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ
14. คน มีเ ส น่ ห์ ควรแบ่งบทพระเอ กให้คนอื่นเป็นบ้าง อย่าถือว่าเก่งคนเดียว เป็นเจ้านายคนเดียว เป็นหัวหน้าคนเดียว แบ่งให้คนอื่นบ้าง
15. ต้องไม่ยกตนข่ ມท่าน หลีกเลี่ยงในการวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าไม่ดี เราดีอยู่คนเดียว รังแต่จะสร้างศั ต รู เร่งแก้ไขความบกพร่องของตัวเองจะดีกว่า
16. คน มีเ ส น่ ห์ไม่พูดถึงความยากของตนเอง หรือบ่นแต่ความทุกข์ของตนเอง ให้คนอื่นฟัง โดยเฉพาะปัญหาหนักอ กหนักใจ นอ กจากเขาช่วยเราไม่ได้แล้ว เขาอาจจะนึกดูถูกเราด้วยซ้ำไปในความโง่ของเรา
17. อย่าพูดถึงความร่ำรวย มีเงินทองของตนเองเพราะว่าถึงเราจะรวยแต่เราก็คงไม่ยอม ไปแจกเงินเขาหรือให้ใครยืม เขาจะหมั่นไส้เอาเปล่าๆ
18.คน มีเ ส น่ ห์ ย่อมจะไม่พูดถึงความเ ล วร้ า ຢ ความไม่ดีของคนในครอบครัว ลูกเมียของเรา ยกเว้นจะถูกคะยั้นคะยอเท่านั้น
19. คน มีเ ส น่ ห์จะเป็นคน มีอารมณ์ขัน มีศิลปะในการเล่าเรื่องตลกบ้างเป็นครั้งคราว มีอารมณ์ขันสร้างบรรยากาศ ให้ครื้นเครงตามแต่กาลเทศะ แต่ไม่พร่ำเพรื่อจนกลายเป็นตัวตลกไป
20. ต้องไม่แสดงความรังเกียจ จนออ กนอ กหน้าเมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่ถูก ไม่ว่าจะเรื่อง DIRTY JOXES ก็ตาม
21. คน มีเ ส น่ ห์ต้องมีน้ำใจ เอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง “เงินยิ่งใช้ยิ่งหมด แต่น้ำใจยิ่งใช้ยิ่งเพิ่ม” ควรมีน้ำใจในเป็นทุกเรื่อง
22. คน มีเ ส น่ ห์ย่อมทำตัวเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ เพราะว่าผู้ให้ย่อมมีความสุขมากกว่า การไปรับของจากผู้อื่น
23. เป็นคน มีความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องห ม ายของคนดี สังคมเคารพยกย่อง คนที่มีความกตัญญูต่อพ่อแม่และผู้มีพระคุณมาก
24. คน มีเ ส น่ ห์ ย่อมมีความเสมอต้นเสมอปลายไม่ว่าตกทุกข์ได้ยาก ตกงาน ว่างงาน หรือจะร่ำรวยมีฐานะดีก็ตาม
25. คน มีเ ส น่ ห์จะเอาหลักศาสนาที่ตนนับถือ มาเป็นหลักปฏิบัติ ชาวพุทธจะปฏิบัติตนตามธรรมะ คือ ศีล 5 พรหมวิหาร 4 และเมตตาธรรม
26. การทำความดี เราถือว่าเป็นความสุข ไม่ใช่เพราะรอให้คน มาเห็นเราทำความดี จึงจะมีความสุข การทำความดีโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนจะทำให้จิ ตใจเบิกบาน
27. เมื่อมีคนติติง ก็อย่าโกรธ เพราะว่าคำตินั้น มีประโยชน์ในการก่อมากกว่าคำชม ซึ่งจะทำลายและทำให้เหลิงและเสียคน
28. คน มีเ ส น่ ห์จะแสดงความเคารพนับถือ ครูบาอาจารย์ วิทยากร ถึงแม้จะมีอายุน้อยกว่าก็ตาม ถ้าเราคิดว่าเราโง่ เราก็จะมีโอ กาสเป็นคนฉลาด แต่ถ้าหากว่าเราคิดว่าเราเป็นคนฉลาดเราจะเป็นคนโง่ที่แท้จริง
29. ให้ความสนใจกับคำเชิญไปงานต่างๆ เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เรารักและเคารพ ถ้าหากเป็นไปไม่ได้จริงๆ ควรจะโทรศัพท์ไปขอโทษ และส่งของขวัญตามไปภายหลัง งานศ พนั้นความไปเสมอ
30. คน มีเ ส น่ ห์ ควรให้อภัย ไม่อ า ฆ า ตจองเวรคนที่ให้อภัยเป็นทานจะมีใบหน้ารอยยิ้ม อิ่มเอิบ ผุดผ่องเสมอ คนโกรธจะมีใบหน้าบึ้งตึงไร้เ ส น่ ห์
31. คน มีเ ส น่ ห์ย่อมจดจำวันเกิดของเพื่อน คนที่รู้จัก หรือคนที่สนิทได้ แล้วส่งของขวัญวันเกิด ดอ กไม้หรือโทรศัพท์ไปแสดงความยินดี
32. คน มีเ ส น่ ห์ย่อมเตรียมนามบัตรไว้จำนวนหนึ่งให้พอแจกเสมอ เมื่อยื่นนามบัตรให้ยื่นในระดับสายตา ผู้รับอ่านเห็น และควรอ่านชื่อตนเองดังๆ เพื่อเขาจะได้ทราบว่าชื่อของเราอ่านว่าอย่างไร
33. เมื่อมีผู้มอบนามบัตรให้ เราควรจะยกมือขึ้นรับและไหว้ ควรอ่านชื่อในนามบัตรของเขาดังๆ เพื่อให้จดจำชื่อของเขาได้
34. นามบัตรเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อราได้รับนามบัตรอย่าเพิ่งรีบเก็บเข้ากระเป๋า ควรวางบนโต๊ะในที่มองเห็นตลอดเวลา อย่าให้เปื้อน แล้วเก็บไปด้วยเสมอ
35. เมื่อมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วในโต๊ะอาหารหรือนั่งประชุม ควรจะขออนุญาตเมื่อจะเข้าไปนั่งด้วย และกล่าวคำขอโทษก่อนจะลุกออ กจากโต๊ะ อย่าลุกไปเฉย
36. ผู้มีเ ส น่ ห์เมื่อนั่งอยู่ในโต๊ะอาหารหรือที่ประชุมควรยิ้มต้อนรับหรือ กล่าวคำทักทาย ผู้มาใหม่เสมอ หรือผู้ที่จะลุกออ กไปจากโต๊ะ
37. เมื่อนั่งโต๊ะอาหาร ควรคลี่ผ้ากันเปื้อนไว้เป็นรูปสามเหลี่ยมบนตัก อย่าใช้ผ้ากันเปื้อนเช็ดปาก เช็ดหน้า เช็ดมือเป็นอันขาด และเมื่อลุกจากโต๊ะควรพับผ้ากันเปื้อนแล้ววางเอาไว้บนโต๊ะ
38. เมื่อรับประทานอาหารเสร็จควรรวบช้อนส้อมเข้าด้วยกัน พนักงานเสิร์ฟจะได้มาเก็บจานไป แต่ถ้ายังรับประทานไม่เสร็จ ให้วางช้อนและส้อมเป็นรูปตัววี
39. คน มีเ ส น่ ห์ เมื่อตักอาหารบุฟเฟ่ต์ ควรตักกับข้าวอย่างเดียว อย่าตักทุกอย่างรวมกันจนล้นจาน เหมือนคนต า ยอด ต า ยอยาก เมื่อไม่พอ กินก็ตักมาใหม่
40. เมื่ออาหารติดฟัน ไม่ควรที่จะใช้มือแคะอาหารออ กจากปาก อาจจะใช้มือป้องแล้วแคะฟัน แต่ที่ดีที่สุดควรจะลุกไปทำในห้องน้ำจะดีกว่า
41. คน มีเ ส น่ ห์เมื่อไปงานเต้นรำ ควรจะหาคู่เต้นไปเอง ไม่ควรไปล่าหาเ ห ยื่ ວ ถ้าหากจะไปขอสุภาพสตรีอื่นในโต๊ะ ควรจะขออนุญาตสุภาพบุรุษในโต๊ะเสียก่อน และเมื่อเต้นเสร็จแล้ว ควรพามาส่งคืนที่โต๊ะพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ
42. คน มีเ ส น่ ห์ เวลาเล่นกอล์ฟ เขาจะไม่พูดคุยหรือแสดงอาการรบกวนคนที่กำลังพัทท์กอล์ฟ และเมื่อเขาพัทท์ลูกกอล์ฟลงหลุม ควรจะแสดงความยินดีอย่างจริงใจ
43. เมื่อถูกเชิญขึ้นไปร้องเพลง ต่อหน้าคน มากๆ ควรจะขึ้นไปร้องเพลงเฉพาะเพลงที่ตนถนัด และแน่ใจเท่านั้น ถ้าหากร้องไม่ได้จริงๆ ควรจะปฏิเสธดีกว่าขึ้นไปเสียหน้าบนเวที
44. คน มีเ ส น่ ห์ เมื่อเจ็บป่วย เวลาไอหรือจาม ในที่ชุมนุมชนควรจะใช้ผ้าเช็ดหน้า ปิดปากจมูกเสมอ ถ้าเลี่ยงได้ ควรเลี่ยงออ กมาภายนอ ก
45. เมื่อไปเยี่ยมคนป่วย ควรเลือ กของเยี่ยมที่เห ม าะสมกับคนป่วยและภาวะของโรค เช่น ของกิน ของใช้ ดอ กไม้ หรือหนังสือที่เห ม าะกับคนไข้
46. ผู้มีเ ส น่ ห์ย่อมไม่ขับรถปาดหน้าผู้อื่น ไม่บีบแตรไล่ ไม่เปิดไฟไล่หลัง และไม่แ ย่ งที่จอด เมื่อมีผู้อื่นกำลังรออยู่ก่อนเรา
47. คน มีเ ส น่ ห์ ย่อมเป็นคนตรงต่อเวลา ให้ความสำคัญกับการนัดห ม ายทุกครั้ง ไม่ควรอ้างว่า นาฬิกาปลุกเสีย รถติด เพราะว่าเชยหมดสมัยแล้ว