สาวโสด หนุ่มโสด ทั้งหลาย คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมคุณถึงไม่มีความรักเหมือนกับคนอื่นๆ มั้งนะ? อ่ะ… อยากรู้ใช่ไหมล่ะ วันนี้เราก็มีคำตอบมาเฉลยให้แล้ว
1. ห ล งใหลกับสิ่งไม่แท้จริง
ถามตัวเองดูนะว่าคุณละเลยความจริง ความสวยงามแท้จริง ชีวิตในด้านลึกหรือเปล่า วัน ๆ มัวแต่เ ส พสิ่งต่างๆ ทั้งข้าวของต่างๆ ที่เราพากันอยากได้
จนทำให้เราลืมนึกถึงเรื่องจิ ตใจกันไป นานเข้าก็เ บื่ ວ เ บื่ ວโน่นเ บื่ ວนี่รวมทั้งเ บื่ ວ การต้องไปเดทด้วย ก็เลยทำให้คุณไม่อยากไป แล้วอย่างนี้จะมีความรักได้อย่างไรกันล่ะคะ หันกลับมาสนใจกับชีวิตในความเป็นจริงกันเถอะค่ะ
2. ไม่เข้าใจเ พ ศตรงข้าม
เดี๋ยวนี้เรื่องความเท่าเทียมกันของผ ญ.ผ ช.มาแ รงมาก ใคร ๆ ก็พูดกันถึงแต่เรื่องนี้ ผ ญ.ทำงานเก่งขึ้นทุกวัน บางครั้งมันเลยทำให้เราขาดความเคารพในความแตกต่างของ
เ พ ศหญิงและชายไป เรามองข้ามไปว่าหญิงและชายสามารถสร้างความรัก ความรวมกันเป็นหนึ่งได้เมื่ออยู่ด้วยกัน ความห่างระหว่างเ พ ศสูงขึ้นเรื่อยๆ
เราเลยอาจรู้สึกว่า “ฉันเจ๋งกว่าเธอ” หรือ “ผ ช.ไม่มีวันทำให้ฉัน มีความสุขได้หรอ ก” เราก็เลยไม่เปิดรับเ พ ศชายเข้ามาในชีวิตเสียที
เอาล่ะ เรายอมรับกันได้ในส่วนหนึ่ง แต่โดยเนื้อแท้อย่าลืมว่าผ ช.เกิดมาเพื่อปกป้องผู้ หญิง ให้เขาทำหน้าที่ของเขาเถอะนะ
3. ฉันอยู่คนเดียวได้
คุณอาจรู้สึกว่าก็ไม่เห็นจะต้องการใครในชีวิตเลย ถ้าเราต้องการใครมาให้ความรัก อยู่ข้าง ๆ เรา หรือคอยปลอบใจเรานั่นห ม ายถึงว่าเราเป็นผ ญ.อ่อนแอ
และมันเหมือนเป็นบัญญัติของสังคมที่คอยบอ กเราตลอดว่า ผ ญ.อ่อนแอน่ะ เป็นสิ่งไม่ดี คุณก็เลยพยายามทำตัว โอเคว่าฉันเข้มแข็ง ไม่มีใครฉันก็อยู่ได้ต่อไป แต่ในที่สุดก็รู้สึกเหงาจนได้
4. ไม่กล้าเปิดใจ
ความไร้เดียงสาอย่างหนึ่งของคนเราก็คือ เวลาเราได้เปิดใจ เปิดเผยความรู้สึกลึกๆ กับใคร มันอาจเป็นความกลัวที่สุดที่ซ่อนอยู่ก็ได้
แต่ทุกวันนี้พวกเรากลับเลือ กปิดกั้นความรู้สึกจริงๆต รงนั้นไว้ พยายามทำตัวปกติ และนั่นล่ะเป็นตัวทำลายวิญญาณที่แท้จริงของเราไป ก็ในเมื่อเราไม่เปิดใจก่อน แล้วใครเขาจะมาเข้าใจ เขาจะก้าวเข้าสู่ความเป็นคุณได้อย่างไรล่ะ
5. ตัดสินคนง่ายไป
“โอ้ย! แค่สิบห้านาทีฉันก็รู้แล้วว่าหมอนี่เป็นคนยังไง” ประโยคนี้คุ้นๆ กับคุณไหม ทุกครั้งที่คุณเจอชายหนุ่มคุณจะกำลิสท์ความต้องการใน ตัวชายหนุ่มของคุณใน มือไว้ตลอด
และมันยังเป็นความต้องการที่ต่อรองไม่ได้ด้วยนะ เช่น เขาจะต้องเป็นผ ช.สูง เขาจะต้องจบปริญญาโท เพียงแค่เขาไม่มีคุณสมบัติตามลิสท์คุณ คุณก็จะบอ กว่า “ไม่เอาแล้ว คนนี้ไม่ใช่แน่นอน”
คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีมุมมองความรักเป็นยังไง เขามองโลกยังไง เขาอาจจะเป็นคนที่ดีที่สุดของคุณก็ได้ การที่เราไปตัดสินคนอย่างรวดเร็วเนี่ยก็เหมือนคุณสร้างกำแพงให้ตัวเองนั่นแหละ
มันเป็นทางที่ง่ายที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อคุณจะได้ป ้องกันได้ว่าเขาจะไม่ตัดสินคุณไปก่อนไง คุณจะไดไม่ต้องรู้สึกแย่กับตัวเอง
6. ความสัมพันธ์ฉันต้องดีที่สุด
คุณอาจจะมีความสุขในงานที่ทำ คุณประสบความสำเร็จในชีวิต คุณมีครอบครัวที่อบอุ่น มาก แต่นั่นไม่ได้ห ม ายความว่า คุณจะต้องตั้งความหวังว่าความสัมพันธ์คุณจะต้องดีมาก ๆ ผ ช.คนนั้นจะต้องเพอร์เฟคสุดๆ ไปด้วย
เพราะลองถามตัวเองจริงๆ คุณอาจได้คำตอบว่างานที่ฉันทำก็ไม่ได้ดีที่สุดกว่าคน อื่นตรงไหน ฉันเองก็ไม่ได้มีชีวตสมดุลไปซะทุกอย่าง
และที่สำคัญฉันก็ไม่ได้เป็นผ ญ.เพอร์เฟคที่สุดซัก หน่อย เพราะฉะนั้นแทนที่เราจะมองหาแต่สิ่งที่ดีที่สุด ลองเปลี่ยนเป็น มองสิ่งที่ดีเฉยๆ ก็พอดีมั้ย และใครจะรู้ สิ่งนั้นล่ะอาจะเป็นความมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตคุณก็ได้
7. จะมีความรักต้องพร้อม
อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณไม่มีความรักก็อาจเป็นเพราะว่า คุณมักรอให้ความรักเข้ามาตอนที่คุณต้องพร้อมในทุกด้า นก่อน คุณต้องรอเวลาให้เรียนจบ มีอาชีพที่ดี และมีความเป็นอยู่แบบที่คุณอยากจะเป็น
เหล่านี้จะมาก่อนความรักของคุณ ลองมองย้อนไปที่ความรักของพ่อแม่เราดูสิ ว่านั่นน่ะเป็นความรักที่เกิดขึ้นผิดเวลาก็ได้ ผิดสถานที่ก็ได้
ความสำคัญของการที่เราได้อยู่กับคนที่ใช่มันจะมาก่อน เหตุผลอื่นเสมอ เรื่องมีความรัก เรื่องแต่งงานเลยเป็ฯเรื่องไม่ยากเย็นอะไรนัก
8. ใช้หัวคิดมากกว่าหัวใจ
ยิ่งนานวันเข้า ก็ยังไม่มีความรัก เราก็จะต้องคอยไปหาหนังสืออ่านบ้าง พยายามคุยกับผู้รู้ทั้งหลาย ยิ่งถ้าเจอเพื่อนคนไหนแต่งงานสำเร็จไป
เราก็จะยิ่งเจอความคิดมากมายชวนสับสนยิ่งนัก เอ! แล้วฉันจะดำเนินการตามแผนไหนดี ความรักมันเลยกลายเป็นเรื่องของหัวคิดมากกว่าหัวใจไป ซะงั้น เหตุผลต่างๆ จะมาก่อนความรู้สึกจริงๆ จากใจ ไฟรักเลยมอดหายไปได้
9. วางแผน มากไป
แทนที่ความรักจะเป็นเรื่องของธรรมชาติหัวใจ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้หัวใจพาไป ความรักกลับกลายมาเป็นเรื่องการวางแผน คุณจะคอยมีความคิดอยู่ในหัวว่า
“โอ้! อาทิตย์หน้าฉันก็สามสิบแล้ว ปีหน้าเนี่ยล่ะเห ม าะที่สุดที่ฉันจะมีความรัก” หรือ “ฉัน มีเวลาว่างแค่ชั่วโมงเดียวหลังจากเรียนโยคะที่จะ ไปออ กเดท
เพราะหลังจากนั้นฉันต้องไปเรียนศิลปะอีก” ความรักเลยเป็นเหมือนงานอดิเรกของคุณไป คุณเลือ กจะไปเดทตอนคุณสะดวกเท่านั้น ถ้าตารางคุณยุ่งแล้วก็อย่าหวังว่าหนุ่มไหนจะแทรกเวลา ของคุณมาได้แล้วกัน