หากรักใครแล้วไม่บอ ก ความรักนั้นจะอยู่กับเราไม่บุบสลาย แต่ก็ไม่งอ กงาม เหมือนเมล็ดพั น ธุ์ที่ไม่ถูกปลูก
เราปลอดภัย ไม่เจ็บตัว แต่เราทนไหวไหม ที่จะเก็บเมล็ดพั น ธุ์ไว้แบบนั้น
หากรักใครแล้วบอ กเขา เหมือนเรายื่นความรักให้เขาแล้ว
หากเขาไม่รับ ความรักอาจร่วงหล่น แตกกระจาย ยากปะติดปะต่อ
ผู้ให้อาจเจ็บปวด มีแผลเป็น ต้องใช้เวลาเยียวยาเนิ่นนาน
แต่อย่างน้อยก็ได้ยื่นความรักให้ ว่า-เราทนไหวไห ม пับความปวดร้าวนั้น
หากรักใครแล้วมอบความรักให้เขา อาจไม่ต้องบอ ก แต่มอบให้
มอบให้ด้วยความปรารถนาดี เขาอาจรู้ หรือไม่รู้
เขาอาจไม่ถึงขั้นแน่ใจจนปฏิเสธ เขาอาจไม่ถึงขั้นไม่รู้จนไม่รู้สึกรู้สา
เป็นบรรยากาศก้ำกึ่ง ที่เรายังไม่เจ็บปวด แต่ก็ยังไม่สุขสมหวัง
ในภาวะเช่นนี้ ความรักมิได้อยู่กับเราแล้ว แต่ก็ไม่ได้อยู่ใน มือเขาเช่นกัน มันลอยอวลอยู่ระหว่างเรากับเขา
ไม่มีใครเก็บไว้ เหมือนเมล็ดพั น ธุ์ที่ถูกปล่อยให้ลอยขึ้นฟ้า
ไม่มีใครรู้ว่า ดินนั้นจะเห ม าะแก่การงอ กงามหรือไม่ ระหว่างเมล็ดพั น ธุ์ยังลอยอยู่
เราย่อมมีความสุขบ้าง ที่เขาได้สัมผัส เราย่อมมีความเสียดายบ้าง ที่เขามิได้อ้าแขนรับ แต่นั่นคือภาวะแห่งการส่งมอบ
วันหนึ่ง เมื่อถึงเวลา เมล็ดพั น ธุ์จะหล่นลงสู่ดิน เราย่อมรู้เองว่า เราจะเป็นคนรดน้ำดูแล หรือเขาจะช่วยกันดูแลความรักนั้นต่อไป
เมื่อเวลาผ่าน เมื่อได้แสดงความรักออ กไปบ้าง โดยไม่ชัดแจ้งจนน่ากังวลกับอีกฝ่าย
เราอาจได้รับความรู้สึกดีดีกลับมาบ้าง ถ้ามากพอ–มันจะกลายเป็นความรัก ถ้าไม่มากนัก–อย่างน้อยก็ไม่ใช่ความว่างเปล่า
รักไม่จำเป็นต้องสมหวังจึงมีความสุข รักไม่จำเป็นต้องสุขเปี่ยมล้น
เรามีความสุขกับความรักได้ โดยที่อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องรับรัก
แต่เขาใช้เวลาสัมผัสความรักในบางห้วงได้ ในเวลานั้น เราย่อมได้สัมผัสสิ่งดีดีจากเขา
เราควรเก็บความรักไว้ที่ไหน ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้
เก็บไว้ตลอดกาลจะดีไหม ยื่นใส่มือให้แบบวัดดวงเลยจะดีหรือ
แต่ความรักก็เป็นความรักเสมอ ตราบที่มันเป็นความปรารถนาดี
และนี่น่าเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เราจะเก็บความรักไว้ที่ไหนดี รักนั้นจึงยังเป็นความปรารถนาดีอยู่