ตามหลักแนวทางความเชื่อของ ศาสนาพุทธแล้วมักจะมีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับ
“การทำความดี” ถือเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันส่งเสริมให้ผลแห่งบุญหนุนนำชีวิตให้ประสบพบเจอแต่เรื่องดีๆ
มีความสุขทางใจ และบางครั้งที่ชีวิตตกต่ำถึงจุดอับ การทำบุญก็สามารถช่วยเสริมสิริมงคลให้กับตัวผู้ทำได้อย่ างอัศจรรย์
ช่วยผลักดันดวงชะตาให้รอดพ้นจากทุกข์หนัก และช่วยบรรเทาให้ความทุกข์นั้นๆเบาบางลงได้
1. หมั่นดูแลเอาใจใส่พ่อแม่ ปู่ย่ าต า ย าย ที่อยู่ในบ้านให้ท่าน มีความสุข พ่อแม่ คือพระประจำบ้าน อย่ าทำให้ท่านเดือดร้อนใจ หรือ
เป็นทุกข์ใจ เมื่อเรายังมีโอ กาสทำดีทดแทนพระคุณท่านทั้งสองก็ควรทำและปฏิบัติ
ด้วยความกตัญญูกตเวทีอย่ าละเลยเพิกเฉยต่อเวลาและโอ กาสที่มี เพราะเวลาของพ่อแม่นั้นสั้นลงไปทุกทีไม่เหมือนเรา
ที่ยังคงมีเวลาใช้ชีวิตอีกมากมาย ยอมสละเวลาแห่งความสุขของตนเองให้กับท่านทั้งสองบ้างอยู่กับท่าน
ชวนท่านทำกิจก ร ร มร่วมกันในวันหยุด หรือ อาจจะพาไปเที่ยวทำบุญตามวัดและสถานที่ต่างๆอย่ างที่ท่านทั้งสองเคย
ทำเคยปฏิบัติต่อเรามาแต่ครั้งอดีต คอยสอดส่องดูแลใส่ใจความเป็นอยู่ของท่านให้บริบรูณ์พูนสุขสม่ำเสมอ
เอาใจใส่ซื้อของมาฝากและเรียกพวกท่านให้มารับเอาของที่เราซื้อมาจะช่วยทำให้ท่าน มีความสุขและรู้สึกว่าท่านยังคงมีความสำคัญ
ไม่เป็นภาระให้ลูกหลานรังเกียจย ามแก่ชรา เท่านี้ก็เป็นการทำบุญที่ดีที่สุดในชีวิตของมนุษย์เราค่ะ
2. ตักบาตรตอนเช้าก่อนที่จะไปทำงาน ด้วยการฝึกตื่นให้เช้าขึ้นอีกสักนิด
รู้จักการให้มากกว่าการรับ แล้วชีวิตของคุณจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น
3. สวดมนต์ วันละ 1 บท สร้างสมาธิด้วยการสวดมนต์วันละแค่ 1 บท ให้พระธรรมช่วยขัดเกลาจิ ตใจที่ขุ่น มัวหย าบกระด้างให้มีความ
ละเอียดอ่อนใส่บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น อาจเริ่มจากบทสวดมนต์ง่ายๆ อย่ างการแผ่เมตตา
หรืออิติปิโส แต่ถ้ามีเวลามากหน่อยก็สวดพระคาถาชินบัญชร 1 จบก็จะดีมากๆเลยค่ะ
4. ถวายน้ำเปล่า 1 แก้ว หรือ อาหารคาวหวาน หรือ จะเป็นดอ กไม้พวงมาลัยก็ได้ ให้พระพุทธรูปที่บ้านอย่ างสม่ำเสมอ
พระพุทธรูปประจำบ้าน ถือเป็นสิ่งช่วยยึดเหนี่ยวจิ ตใจที่ดีของคนในบ้าน เราจึงควรดูแลท่านให้ดี
5. ควรนั่งสมาธิให้ได้อย่ างน้อย 5 นาที โดยแบ่งเวลาสักแค่เพียงวันละ 5 นาที
อยู่กับตัวเองด้วยการนั่งสมาธิเสียบ้าง ไม่เรียกว่าเสียเวลาแถมได้บุญเพิ่มบารมีให้ตัวเองมากขึ้นไปอีก
6. งดเว้นไม่กินเนื้อสั ต ว์สัก 1 วันในสัปดาห์ ลองไม่เบียดเบียนสั ต ว์ดูบ้าง แบบนี้เราจะได้ทั้งบุญและสุขภาพที่ดีในเวลาเดียวกัน
7. พูดคุย หรือ สั่งสอนเรื่องธรรมะ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องหลักธรรมซึ่งกันและกัน จะช่วยให้มีความรอบรู้มากขึ้น
8. ทำบุญกับพระสงฆ์ที่พบระหว่างการเดินทาง เช่น หากพบเจอพระสงฆ์ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก็สามารถบอ กท่านได้ว่า เรามีจุด
ประสงค์ต้องการทำบุญ เนื่องจากไม่มีเวลาจะไปทำที่วัด จึงขอเสนอตัวขับรถไปส่งท่าน ณ
จุดมุ่งห ม ายปลายทาง หรือ อาจถวายเป็นปัจจัย, ผ้าไตร, ผ้าจีวร หากพบว่าท่านกำลังซื้ออยู่ หรือ มีร้านอยู่ใกล้ ๆบริเวณนั้น พอดี
9. หากทราบว่าใครเดือดร้อนเรื่องใด ๆ ก็ให้ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ และเราก็จะต้องไม่เดือดร้อนทำตามกำลังความสามารถของ
เราที่เราพอทำได้และเราต้องไม่ลำบาก เช่น ช่วยคนแก่ให้ข้ามถนน,
ให้เงินคนที่ไม่มีเงินกินข้าวหรือเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เป็นต้น
10. เป็นผู้ปรึกษาให้คำแนะนำที่ดี กับผู้ที่มีความทุกข์ และเดินเข้ามาขอคำแนะนำจากเรา ซึ่งคำแนะนำของเราจะต้องไม่ทำให้คนอื่น
เดือดร้อนด้วย เช่น ยุยงส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกในห มู่คณะ หรือปลุกปั่นทำให้ครอบครัวผู้อื่นเกิดความร้าวฉาน
11. ช่วยคนที่เขาเอาของมาขายกับเรา ตรงข้อนี้ยกเว้นลอตเตอร์รี่นะคะ เพราะหากเป็นลอตเตอรี่
เรามักจะหวังผลจากลอตเตอร์รี่ที่ซื้อไปว่าอาจจะถูกรางวัล ซึ่งการทำบุญตรงนี้เราจะต้องไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น
12. ดูแลสั ต ว์เลี้ยงที่บ้านเป็นอย่ างดี เช่น อาบน้ำ, ดูแลจานใส่อาหารให้สะอาด, ดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อยของกรงหรือที่อยู่,
หมั่นพูดคุย, คอยสังเกตุว่าเขาชอบหรือรักอะไรก็ให้เขาไป เช่น ชอบนอนในถุง
หรือ ชอบนอนกับตุ๊กตา, วโรกาสพิเศษก็มอบของให้เขาด้วยเช่นกัน อย่ าคิดว่าเขาเป็นแค่สั ต ว์เลี้ยง
13. จาน ชาม กินเสร็จแล้วควรล้างขึ้น มาทันที หรือ ถ้าไม่มีเวลา อย่ างน้อยที่สุดก็ควรล้างเอาเศษอาหารออ กให้หมดก่อนเพราะไม่
เช่นนั้น มดจะเดิน มาขึ้น มาบนเศษอาหาร ทำให้เวลาล้างต้องราดน้ำไปที่มดทั้งหมด เพราะจะเป็นการฆ่ าสั ต ว์แบบไม่ได้ตั้งใจ
14. ถือศีล 5
ข้อที่ 1 ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่ าสั ต ว์
ข้อที่ 2 ตั้งใจงดเว้นจากการลักข โ ม ย
ข้อที่ 3 ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในก า ม
ข้อที่ 4 ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดคำหย าบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ
ข้อที่ 5 ตั้งใจงดเว้นจากดื่มสุ ร า
15. ให้อภัยในสิ่งที่ผู้อื่นได้กระทำต่อเรา เข่นการให้ร้ า ยนินทาเราไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ก็ตาม
การให้ทาน นั้น แม้เราจะให้มากถึง100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ “อภัยทาน”
แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม การให้อภัยทาน ก็คือ การไม่ผูกโกรธ
ไม่ อ า ฆ า ต จ อ ง เ ว ร ไม่พย าบาทคิดร้ า ยผู้อื่นแม้แต่ศั ต รู ซึ่งได้บุญกุศลแรงและสูงมากในฝ่ายทาน
16. สิ่งของที่เราไม่ใช้แล้ว ก็มอบให้คนอื่นนำไปใช้ประโยชน์ เช่น เสื้อผ้า หนังสือ
ที่ไม่ใช้แล้ว ไม่มีค่าแล้วสำหรับเรา อาจมีค่าอย่ างยิ่งสำหรับคนอื่น ลองแบ่งปันให้พวกเขาดูบ้าง
และนี่ก็คือวิธีที่ท่านผู้ชมทุกคนสามารถ ยึดเป็นต้นแบบเอาไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้โดยง่าย
ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่เราก็สามารถทำบุญได้ทุกเมื่อทุกเวลาที่สะดวก
โดยไม่จำเป็นว่าเราจะต้องไปทำบุญที่วัดเสมอ แต่อย่ างไรก็ตามการทำบุญ ทำกุศลนั้น ต้องมาจากความตั้งใจและไม่ทำให้ตัวเอง
หรือใครได้รับความเดือดร้อน จึงจะได้บุญกุศลอย่ างแท้จริง หรือ
ได้สำเร็จเป็นผลแห่งบุญกุศลที่บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งใดเจือปนอย่ างแท้จริงค่ะ