การประคับประคอง ดูแลความรัก ให้ตลอดรอดฝั่งนั้น จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่าย ากก็ย าก
โดยเฉพาะเมื่ออายุย่ างเข้าเลข 4 ซึ่งเป็นช่วงวัยที่คนส่วนใหญ่เริ่มประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ชีวิตคู่กลับล้มเหลว
1.หัน มาดูแลตัวเองคือสิ่งแรกที่ควรทำ
เมื่อขึ้นวัยเลข 4 หลายคน มักมัวแต่ดูแลบ้านดูแลลูกหรือดูแลสามี / ภรรย าจนบางครั้งลืมใส่ใจดูแลความสวยความหล่อของตัว
เองบางคนแต่งตัวดีออ กไปทำงานแต่พออยู่บ้านกลับใส่แต่ชุดเก่าหรือใส่ชุดนอนขาดๆ
ปล่อยผมฟูฟ่องดูไม่เจริญหูเจริญตาซึ่งอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สามีหรือภรรย าหันไปหาความสวยความหล่อจากที่อื่น
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือควรแต่งตัวให้สวยงามตามวัยดูแลทรงผมให้ดูดี
ตามสไตล์ของคุณไม่ดูแก่หรือเด็กจนเกินไปที่สำคัญคือ ควรแต่งให้ดูดีตามธรรมชาติ
2.ตามดูใจตัวเองให้ทัน
วัยนี้ส่วนใหญ่มักเป็นผู้บริหารมีความรับผิดชอบสูงจึงมักเผลอพกความเครียดกลับบ้านโดยไม่รู้ตัวซึ่งอาจทำให้กลายเป็นคนขี้
หงุดหงิดโมโหง่ายเพราะยังมีเรื่องงานค้างอยู่ในหัวสิ่งที่คุณเผลอแสดงออ กไปนั้นเป็น
การส่งต่อความเครียดและสร้างความทุกข์ให้คนที่คุณรักจนเขาอาจทนไม่ไหวต้องออ กไปหาความสุขความสบายใจจากที่อื่น
สิ่งแรกที่คุณควรทำคือ สังเกตตัวเองว่าพกความเครียดกลับบ้านด้วยหรือไม่ซึ่งสามารถสังเกตได้จากความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
เช่น มีอาการหน้าแดงใจสั่นเหงื่อออ กทั้งที่อากาศไม่ร้อนหรือปวดหัวบ่อยๆหรืออาจเป็นอาการที่ร่างกายบอ กว่าคุณกำลังเครียด
วิธีปลดปล่อยความเครียดทำได้ไม่ย ากเริ่มจากหยุดคิดแล้วดึงความสนใจทั้งหมดมาอยู่ที่ลมหายใจของตัวเองหายใจเข้าก็รู้
หายใจออ กก็รู้หรือเรียกอีกอย่ างว่า “การทำสมาธิ”ซึ่งเป็นการใช้พลังงาน
สมองที่น้อยที่สุดส่งผลให้จิ ตใจไม่ว้าวุ่นไม่ฟุ้งซ่าน และไม่เผลอไปทำร้ า ยจิ ตใจคนที่คุณรักอีกด้วย
3. พูดจาภาษาดอ กไม้
“กี่ครั้งที่คุณທະ เลาະกับคนที่คุณรักด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องพอรู้สึกตัวอีกทีเขาก็เดินจากไปทิ้งให้คุณร้องไห้อยู่เพียงลำพัง”
คำพูดเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการใช้ชีวิตคู่หลายคนเริ่มต้นประโยคแบบผิดๆด้วยการต่อว่าอีกฝ่ายเช่น
“ทำไมคุณกลับบ้านดึกอีกแล้ว”“ทำไมคุณถึงไม่โทร.บอ ก”ประโยคเหล่านี้มักทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขากำลังถูกตำหนิ
วิธีแก้ไขคือควรเปลี่ยนแปลงคำพูดใหม่โดยยึดหลักง่าย ๆ 2 ประการคือพูดด้วยความรู้สึกที่แท้จริงและเริ่มต้นประโยคด้วยคำ
ว่า “ฉัน” หรือชื่อของคุณเช่น “ฉันเป็นห่วงจังเลยที่คุณกลับบ้านดึกอย่ างนี้ ติดธุระอะไรรึเปล่าคะให้ฉันช่วยอะไรไหม”
คำพูดลักษณะนี้นอ กจากเป็นการให้เกียรติคนที่คุณรักแล้วเขาเองจะเป็นฝ่ายรู้สึกผิดกับสิ่งที่กระทำลงไป
4. ลงมือทำสิ่งที่หัวใจต้องการ
การลงมือทำในสิ่งที่หัวใจของคุณต้องการคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการครองชีวิตคู่ให้ตลอดรอดฝั่งลองคิดภาพว่าถ้าคุณทำงานนอ ก
บ้าน มาทั้งวันกลับบ้านก็มาดูแลครอบครัวจนไม่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ
สักวันคุณจะหมดพลังแห่งความสุขและไม่มีแรงเหลือที่จะเอาใจใครได้อีก
เริ่มจากถามหัวใจตัวเองว่าความสุขของคุณคืออะไรบางครั้งอาจเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ที่คุณห ล งลืมไปเช่นคุณอาจชอบดูภาพยนตร์ ชอบช็อปปิ้งหรือชอบดูละครน้ำเน่าก็สามารถ
ทำได้ทั้งนั้นไม่ถือเป็นเรื่องผิดเพราะเพียงคุณได้ทำในสิ่งที่ชอบก็คล้ายกับ
ได้เติมพลังใจจนเต็มและพร้อมกลับมาดูแลจิ ตใจของคนที่คุณรักอย่ างดีและมีความสุขมากกว่าที่เคย
5.ถ้าสุดมือสอยก็ปล่อยไป
การใช้อารมณ์โมโหเหวี่ยงหรือวีนไม่ได้ทำให้คนที่คุณรักกลับมารักคุณได้แต่การให้เกียรติด้วยกายวาจาและการมีจิ ตใจอันดีงามต่าง
หากคือหนทางที่จะทำให้เขาหันกลับมามองคุณอีกครั้ง แต่ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว
แต่เขามองไม่เห็นนั่นอาจห ม ายความว่า“เขาหมดบุญกับเรา” หรือ “เราหมดก ร ร มกับเขา”