เตรียมพร้อมรับมืออย่างไร เมื่อถึงวันที่พ่อแม่แก่ลง

ใครๆ ก็รู้ดีว่า “ชีวิตคน มีเกิด แก่ เ จ็ บ ต า ย” ด้วยกันทั้งนั้น และรู้ดีว่า เป็นธรรมชาติ ธรรมดาของชีวิตที่ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป…แต่น่าแปลกที่เรามักจะทึกทักเอาเองว่า

สัจธรรมชีวิตข้อนี้ เป็นเรื่องยกเว้นสำหรับคนที่เรารัก โดยเฉพาะพ่อแม่ จริงหรือไม่ว่า เรามักคิดเอาเองเสมอว่า กว่าสังขารของท่านจะเริ่มโรยราคงอีกย าวไกล? คิดว่าอย่างไร

ท่านก็ยังเป็นยอดมนุษย์ในสายตาเราไปตลอด?และไม่เคยนึกเลยว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งไม่มีพ่อแม่อยู่กับเราขึ้น มาจริงๆ แล้ว จะทำอย่างไร มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อตอนที่ พ่อแม่ป่ ว ย

ต้องหามท่านส่งโรงพย าบาลแล้วอันที่จริงความเ จ็ บป่ ว ยของพ่อแม่ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยสักนิด กลับกัน มันเป็นสัญญาณปลุกให้เราตื่นขึ้น มาเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง

ให้เรายอมรับสัจธรรมของชีวิตให้ได้ และปลุกให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นเสาหลักให้กับครอบครัวอย่างจริงจังเสียทีหากตอนนี้คุณกำลังอยู่ในวัยที่พ่อแม่เริ่มเ จ็ บป่ ว ย เรามี

เทคนิคดีๆ มาฝาก เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือ กับความจริงของชีวิต

ขั้นแรก จัดการเรื่องเงิน

ก่อนอื่นคุณควรจะจัดแยกบัญชีการเงินแต่ละประเภทไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น โดยแยกบัญชีสำหรับเก็บออม บัญชีสำหรับใช้จ่ายส่วนตัว

และบัญชีสำรองฉุ กเ ฉิ นออ กจากกัน พูดง่ายๆ ว่า เงินที่คุณจะใช้เป็นค่ารั กษ าพย าบาลให้กับพ่อแม่ จะต้องไม่เอาไปปนกับเงินส่วนตัวและเงินเก็บออมของคุณ คุณต้องพย าย าม

แบ่งเงินเป็นสัดส่วนให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินที่จะเกิดขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนอ กจากนี้ คุณจะต้องเปิดใจคุยกับพ่อแม่เรื่องเงินๆ ทองๆ ของครอบครัว

แล้วลิสต์ออ กมาให้หมดว่า ตอนนี้พ่อแม่คุณติดหนี้อะไรอยู่บ้ าง ถ้าคุณมีพี่น้อง ก็ตกลงกันให้ดีตั้งแต่ตอนนี้เลยว่า ใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนไหน เป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อ

เคลียร์ปัญหาหนี้ให้จบไปและป้องกันการทະ เลาະเบาะแว้งกันในภายหลัง

ขั้นสอง จัดการเรื่องเวลา

คุณคิดอย่างไร เมื่อมีใครสักคนพูดว่า “ถ้าย้อนเวลาได้ฉันจะดูแลพ่อแม่ให้ดีกว่านี้” คุณคงไม่อย ากเอ่ยคำพูดทำนองนี้ออ กมาด้วยตัวเองใช่ไหม จริงอยู่ว่า ในวัยที่เรากำลังสร้างเ นื้ อ

สร้างตัว เวลาที่เราแบ่งให้กับครอบครัวนั้นย่อมลดน้อยลง แต่คุณต้องรู้จักบริหารจัดการเวลาให้เป็น อาจไม่ต้องถึงกับแบ่งเวลาให้งาน 50 เปอร์เซ็นต์ ให้ครอบครัว 50 เปอร์เซ็นต์

หรือไม่ต้องถึงกับลาออ กจากงาน มาดูแลท่าน ขอเพียงแค่คุณแบ่งเวลามาใส่ใจท่านให้มากกว่าเดิม อย่างน้อยก็คอยสังเกตว่า พ่อแม่มีอาการผิดปกติตรงไหน แล้วรีบพาไปรั กษ า

ข้อสำคัญคุณต้องไม่ลืมว่า ธรรมชาติของพ่อแม่มักเป็นห่วงความรู้สึกของลูก จึงมักพูดว่า ท่านแข็งแรงดี เพื่อให้คุณสบายใจ ทั้งที่จริงท่านอาจกำลังเ จ็ บป่ ว ยมากก็ได้ในกรณีที่

คุณมีพี่น้อง คุณต้องตกลงแบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันให้ชัดเจน และคอยผลัดเปลี่ยนกัน มาดูแลพ่อแม่ อย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งรับหน้าที่เป็นตัวหลักดูแลท่านอยู่คนเดียว

เพราะทุกคนย่อมมีขีดจำกัดทั้งในเรื่องเวลา และกำลังเรี่ยวแรง

ขั้นสาม จัดการเรื่องใจ

คุณคงรู้สึกป ว ดใจไม่น้อย เมื่อเห็นพ่อแม่ที่เคยสุ ข ภ า พแข็งแรง กลับทรุดหนักลง จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สิ่งที่คุณควรทำในเวลานี้ คือยอมรับความจริงให้ได้ว่า ทุกชีวิต

ล้วน มีเ จ็ บ มีต า ยกันทั้งนั้น การที่พ่อแม่ป่ ว ยครั้งนี้ ท่านอาจมีโอ กาสที่จะหายเป็นปกติ หรือทรุดหนักลงจนหมดลมหายใจเลยก็เป็นไปได้ ดังนั้นคุณควรเผื่อใจเอาไว้บ้ าง

มองทุกอย่างให้เป็นกลางๆ อย่าเอาแต่มองด้วยความหวังว่าท่านจะหายขาดเท่านั้น คุณควรเตรียมใจไว้สำหรับกรณีที่ท่านจะรั กษ าไม่หายไว้ด้วย แม้ว่าจะทำใจย ากสักหน่อยก็ตาม

นอ กจากนี้ ในช่วงเวลาที่คุณต้องดูแลท่าน คุณอาจมีความรู้สึกเ ค รี ย ดหรือหงุดหงิด เมื่อท่านดื้อและเอาแต่ใจ หรือบางครั้งท่านอาจพูดจาบางอย่างกระทบความรู้สึกคุณ จนคุณรู้สึก

เสียใจ หรือน้อยใจ เมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้ คุณต้องพย าย ามวางใจให้ดี อย่าให้อารมณ์ชั่ ววูบทำให้พลั้งเผลอพูดจารุ นแ ร งกับท่าน และอย่ามัวแต่โทษตัวเองว่า เราเป็นลูกที่แ ย่

ที่คิดโกรธ โมโหพ่อแม่ หากคุณเ ค รี ย ดมากๆ ลองปรับทุกข์กับใครสักคนที่ไว้ใจ เมื่อได้ระบายความในใจออ กไปแล้ว คุณอาจจะรู้สึกดีขึ้น ที่สำคัญอย่าท้อแท้ คิดเสียว่า นี่เป็น

ครั้งเดียวในชีวิต ที่จะได้มีโอ กาสตอบแทนบุญคุณท่าน พ่อแม่เปรียบเหมือนพระอรหันต์ของลูก คนที่ดูแลพ่อแม่ป่ ว ย ก็เท่ากับได้ดูแลพระอรหันต์นั่นเอง ขอเป็นกำลังใจให้ลูก

ทุกคนเข้มแข็งและผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *