ข้อคิดสอนใจ

จะทำอย่างไร เมื่อทำงานร่วมกับ “คนขี้อิจฉา”

คนที่อิจฉาคุณก็จะไม่สามารถทำอะไรคุณได้ทำได้เพียงแค่แ อ บมองคุณจากมุมมืด พร้อมส่งสายตาอิจฉามายังคุณเท่านั้นแต่ถ้าคุณ โช ค ร้ า ย คุณก็อาจโดนคนประเภทนี้

ออ กมาเล่นงานคุณจัง ๆ จน เ จ็ บ หนักเสื่อมเสียชื่อเสียงได้เช่นกันอย่างไรก็ดีไม่แน่ว่าความ ร้ า ย กาจของคนที่อิจฉาคุณอยู่นั้น อาจถูกสยบลงได้ หากคุณมีวิธีจัดการที่ดี

1. สร้างความน่าเชื่อถือในหมู่เพื่อนร่วมงาน

ไ่ม่มีอะไรสามารถสร้างแรงหนุน ให้กับคุณและผลักคำกล่าวหา ร้ า ย ๆ ออ กไปได้เร็วเท่ากับการได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างหากคุณได้รับการยอมรับจากทีมหรือคนอื่น ๆ

ที่มีความเชื่อมั่นในตัวของคุณพวกเขาจะไม่สนใจคำว่า ร้ า ย นินทาจากคนที่อิจฉาคุณแต่ประการใด และจะทำให้คนที่อิจฉาคุณอยู่นั้นต้องยอมจากไปแต่โดยดี

2. หยิบยื่นความเป็น มิตร

แม้ว่าคุณอาจได้ยินหรือพอจะรู้สึกได้ ว่ามีคนบางคน แ อ บอิจฉาคุณอยู่ แต่การเดินหน้าเข้าไปลุ หรือเข้าไปจัดการกับคู่กรณีอาจไม่ใช่ทางออ กที่ดีนักหากทำได้ลองมีน้ำใจ

ทำสิ่งดี ๆ กับเขาคนนั้นก่อนจะดีกว่าเช่น พูดกับเขาดี ๆ หรือมีขน มก็แบ่งกัน การลองทำสิ่งดี ๆ แก่กัน อาจช่วยเปิดโอ กาสให้คุณและเขาคนนั้นได้รู้จักกันดียิ่งขึ้นและทำให้

สถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ค่ะ แต่ถ้าหากลองทำแล้วยังไม่เป็นผลก็อย่านำเรื่องนี้มาเก็บเป็นอารมณ์ให้กังวลใจไปเลยเพราะคนเราก็มีได้หลายมุมหลายความรู้สึก

เราไม่อาจทำให้ทุกคนรู้สึกดีกับเราได้ทั้งหมดหรือถ้าสบโอ กาส ลองสังเกตดูก็ได้ว่าเขาคนนั้น ทำนิสัยเดียวกัน กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ หรือไม่ถ้าทำก็เป็นไปได้ว่า นั่นคือตัวตนของเขาและไม่ได้มีแต่คุณที่เจอเขาอิจฉาใส่

3. เข้มแข็งเข้าไว้

บางคน กว่าจะทราบว่ามีคนอิจฉาหรือลอบใส่ความ ก็มาสังเกตได้เมื่อสายไปเสียแล้วเช่น เพื่อนร่วมงานทั้งออฟฟิศ ต่างได้รับข้อมูลเท็จเกี่ยวกับตัวคุณจากคน ๆ นั้นและไม่มีใคร

อย ากคบหาสมาคมกับคุณอีกถ้าเป็นเช่นนี้ขอให้เข้มแข็งเข้าไว้ ยืดอ กเชิดหน้า ให้มั่น (จะแ อ บร้องไห้ก็ได้ ถ้าร้องเสร็จแล้วตาไม่แดง)เพราะถ้าคุณไปแ อ บร้องไห้ หรือทำตาแดง ๆ

ก็เท่ากับเข้าล็อ กตามที่ เขาต้องการแล้วเขาก็จะจัด “ปฏิบัติการลอบ เ ม า ท์” ตามมาอีกชุดใหญ่

4. ก ร ะ ตุ้ น ให้มีการทำงานเป็นทีม

เพราะการทำงาน เป็นทีมจะสำเร็จได้ ทุกคนต้องหัน มาร่วมมือ กัน ซึ่งการทำเช่นนั้นก็อาจทำให้คุณและคนที่อิจฉาคุณได้มีโอ กาสศึกษานิสัยใจคอ กัน มากขึ้นกว่าเดิม เข้าใจกัน มากกว่าเดิม นำไปสู่การเลิก อคติหรือมองกันในแง่ ร้ า ย ได้

5. กันไว้ดีกว่าแก้

การป้องกัน การเกิดความอิจฉาในหมู่เพื่อนร่วมงาน อาจทำได้หลายแบบ เช่น การกล่าวชื่นชมทุก ๆ คนที่มีส่วนต่อความสำเร็จในงาน (เพื่อนร่วมงานบางคนอาจหา ความมีส่วนร่วมไม่เจอ

แต่ก็ขอให้พย าย ามนึกให้ออ ก)แม้จะเล็กน้อย แต่การกล่าวชมออ กไป เผื่อแผ่ความดีความชอบออ กไปจะทำให้คุณ ไม่ตกเป็นเป้าจากคนขี้อิจฉาเหล่านั้น อีกทั้งยังทำให้คนที่ได้รับคำชม หรือ การพูดถึงจากคุณไม่รู้สึกอิจฉาคุณด้วย

6. มุ่งมั่นในหน้าที่ของตัวเอง

การเปลี่ยนจุดห ม าย ในการทำงาน แทนที่จะพัฒนางานของตนเองให้ดีขึ้นไปหาคนที่อิจฉาหรือจ้องจะทำไม่ดีกับคุณอยู่นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำคุณควรเอาเวลาในออฟฟิศ

ไปมุ่งมั่นพัฒนางานของตนเองให้ดียิ่งขึ้นศึกษาความต้องการขององค์กร เป้าห ม ายของหัวหน้างาน ฯลฯ แล้วปรับปรุงการทำงานของตนเองให้เป็นไปในทิศทางนั้น ๆ เพื่อที่ว่า

อย่างน้อย เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็จะได้ไม่สามารถ ทำ ล า ย หรือพูดถึงคุณในแง่ไม่ดีได้นั่นเอง

7. หากปัญหา รุ น แ ร ง เข้าพบหัวหน้าย่อมดีที่สุด

ไม่ได้ห ม ายความว่าคุณต้องเข้าไป ร้องไห้ฟูมฟาย ขณะเล่าให้ผู้จัดการ หรือหัวหน้าของคุณฟัง เพราะมันจะดูเหมือนเด็กถูกเพื่อนแกล้งแล้วเข้าไป ฟ้ อ ง ครูถ้าจะเข้าพบหัวหน้า

เพื่อแจ้งถึงปัญหาดังกล่าวให้รับรู้ การวางตัวให้เห ม าะสมก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น เอ่ยถึงปัญหาและความวิตกกังวลของคุณขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัว กับปัญหาดังกล่าว เรียกว่า

ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า

8. ไม่ว่าอย่างไร เป็นคนน่ารักไว้ก่อน

แม้ว่าจะมีคนทำไม่ดี กับคุณอย่างมาก แต่ถ้าคุณอดทนกับมัน และใจดีพอที่จะไม่ถือสาหาความกับเรื่องไร้สระเช่นนี้ก็เป็นไปได้ว่า เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกอิจฉานั้นก็จะถูกแทนที่

ด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีต่อ กันได้นั่นเองแต่ถ้าวันใด ตัวคุณเองกลายเป็นฝ่ายอิจฉาคนอื่นบ้าง ก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อน ที่จะไป ทำ ร้ า ย ใครดีกว่านะคะ

meko

Share
Published by
meko