ชีวิตมนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ คนนั้นอาจได้เงินเดือนไม่เยอะเท่าไรนัก โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ทั้งหลายที่เงินเดือนอาจสตาร์ทอยู่ที่ 15,000 บาท
หากทำงานในเมืองใหญ่ๆนี่เรียกว่าแทบไม่เหลือเก็บกันเลยทีเดียว แต่ว่าถึงจะเป็น มนุษย์เงินเดือนก็อยากมีเงินออมไว้สำหรับชีวิตหลังเกษียณบ้าง
ยิ่งเงินเดือนไม่มากก็ยิ่งต้องเริ่มออมให้เร็วขึ้น แต่เงินน้อยต้องออมอย่างไรดีจึงจะประสบความสำเร็จ
1. ตั้งเป้าห ม ายการออม
การตั้งเป้าห ม ายจะทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น ทำเพื่ออะไร และควรเดินไปทางไหนจึงจะไปถึงเป้าห ม ายได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องออม ถ้าไม่มีเป้าห ม าย เราก็ไม่รู้ว่าจะออมไปให้ใคร ทำไม และเพื่ออะไร
คำถามเหล่านี้อย่าคิดว่าไม่สำคัญเด็ดขาด ถ้าเราตอบได้ จะทำให้เป้าห ม ายชัดเจนขึ้น และเมื่อเป้าห ม ายชัดเจน การจะทำให้ไปถึงเป้าห ม ายก็ชัดเจนตามไปด้วย
วิธีง่าย ๆ ลองตั้งเป้าห ม ายทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวดู เป้าห ม ายที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นยอดเงินก็ได้ อาจจะเป็นบ้าน คอนโด การซื้อหุ้นในกองทุน การมีเงินเก็บสำหรับวัยเกษียณ
หรืออะไรก็ได้ ถ้ากังวลว่าจะทำไม่ได้ก็ให้เน้นไปที่เป้าห ม ายระยะสั้นก่อนก็ได้ เมื่อทำสำเร็จจะช่วยให้มีกำลังใจในการทำเป้าห ม ายที่ใหญ่มากขึ้นต่อไป
2. เลิกคิดว่าจะใช้ไปวัน ๆ ยังไม่มีซะที
คนหาเช้ากินค่ำส่วนใหญ่ชอบคิดว่าจะกิน จะใช้ไปวัน ๆ ยังไม่มี จะเอาเงินที่ไหน มาเก็บ ไหนจะหนี้สิน ไหนจะลูก ไหนจะพ่อแม่ต้องเลี้ยงดู แต่ละวันแทบจะชักหน้าไม่ถึงหลัง ลืมไปได้เลยเรื่องเงินออม
จริงอยู่ที่เรื่องจริงมันเป็นแบบนั้น แต่ถ้ามัวแต่ตีอ กชกตัว โทษโน่นโทษนี่ สุดท้ายก็ไม่มีทั้งเงินใช้ เงินออม และไม่สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นได้อีกต่างหาก
วิธีก็คือถ้ามีหนี้ก็ค่อย ๆ ทยอยใช้หนี้ไปก่อน เงินออมค่อยคิดหลังจากหมดหนี้แล้วเท่านั้น ยิ่งเป็นหนี้ที่มีดอ กเบี้ยแรง ๆ ยิ่งต้องรีบใช้ให้หมดไว ๆ จากนั้นค่อยเริ่มคิดถึงเงินออม
พอปลดหนี้ได้ก็สร้างเป้าห ม ายการออมให้เรียบร้อย ออมก่อนใช้ทีหลัง เงินเดือนน้อยก็ออมน้อย เอาที่เราไหวและสบายใจดีที่สุด
3. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
อย่ามองข้ามการทำบัญชีรายรับ รายจ่ายอย่างเด็ดขาด บางคนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ทำไปทำไม ก็รู้อยู่แล้วว่าวัน ๆ ใช้จ่ายอะไรบ้าง แต่ละเดือนรายรับเท่าไหร่
ทำไปก็ไม่เห็นผล แต่จริง ๆ บัญชีรายรับ รายจ่ายมีอะไรที่ดีกว่านั้น นอ กจากจะจดเพื่อให้รู้ว่าเราใช้จ่ายอะไรไปแล้วบ้าง เจ้าบัญชีนี้ยังช่วยจำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการใช้จ่ายของเราด้วย
ที่สำคัญคือทำให้รู้ว่าในแต่ละเดือนเราใช้เงินกับอะไรไปบ้าง อันไหนเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ อันไหนเป็นรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย
พอมาสรุปยอดเราจะมองเห็นภาพรวมว่าเราหมดเงินกับสิ่งใดไปบ้าง กระแสเงินสดเป็นลบหรือบวก จำเป็นต้องตัดรายจ่ายตัดส่วนใด เป็นต้น
สำหรับการบันทึกรายรับ รายจ่าย ไม่มีข้อ กำหนดต า ยตัวใด ๆ จะใช้สมุดแล้วจดเอา หรือใช้แอปพลิเคชันใด ๆ ก็ตาม เดี๋ยวนี้มีแอปฯ มากมายที่ช่วยให้เราบันทึกการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
4. ออมอย่างมีวินัย
สิ่งสำคัญยิ่งกว่าการออมก็คือ การมีวินัย ถ้าคิดว่าอยากออมเมื่อไหร่ก็ค่อยเก็บเงิน เราจะไม่มีวัน มีเงินออมอย่างเป็นกอบเป็นกำได้เลย ดังนั้นวินัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มตั้งเป้าห ม ายเลยทีเดียว
อาจเริ่มต้นความมีวินัยตั้งแต่ “การทำบัญชีรายรับรายจ่าย” ก่อน จะได้เห็นภาพรวมการใช้เงินแล้ววางแผนการออมได้อย่างเห ม าะสมมากขึ้น
จากนั้น มาต่อ กันที่การออม แนะนำให้ออมก่อนใช้เงินทีหลัง เช่น ออม 30% ของเงินเดือน ได้เงินเดือน มา 20,000 หักไปเป็นเงินออมก่อน 6,000 เป็นต้น การออมจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือต่อเมื่อเราออมอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกเดือน เป็นต้น
5. เรียนรู้เรื่องการลงทุน
หลายคนไม่รู้ว่าการออม ไม่ได้ทำให้รวย การออม การประหยัดแค่ทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น แต่ยังห่างไกลจากคำว่า ‘รวย’ อีกไกลเลยทีเดียว
วิธีที่ทำให้รวยได้คือ การลงทุน การทำให้เงินออมที่มีอยู่งอ กเงยออ กมาได้ ออมอย่างเดียวโดยไม่ลงทุน ไม่ทำให้งอ กเงย แค่ทำให้เรามีเงิน มากขึ้น และต้องออมเป็นจำนวน มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้มีเงินใช้หลังเกษียณ
ขณะที่การออมที่มีจำนวนเท่ากันทุกเดือน แต่ออมด้วยการลงทุนจะทำให้ถึงเป้าห ม ายได้เร็วกว่า ดังนั้นถ้าอยากให้เงินออมเพิ่มขึ้นโดยลงแรงน้อยที่สุด ก็ต้องเรียนรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มขึ้น
แต่การลงทุน มีหลายรูปแบบ บางอย่างมั่นคง ความเสี่ยงต่ำ แต่กำไรน้อย บางอย่างความเสี่ยงสูง แต่กำไรเยอะ
เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบก่อนลงทุน หากมีความรู้ความเข้าใจที่ดี อาจช่วยให้ประสบความสำเร็จในการออมเงิน มากขึ้นได้
ถึงเงินจะไม่เยอะก็อย่าคิดว่าจะเก็บเงินไม่ได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่เป็นเด็กจบใหม่ทั้งหลาย ถ้าเริ่มออมได้ไว ก็มีเงินเก็บไว อย่างน้อยออมตามความเห ม าะสม
ไม่ต้องกังวลเรื่องจำนวน จากนั้นค่อยเติมเต็มความรู้และวินัยในการออมไปเรื่อย ๆ การออมเงินก็จะประสบความสำเร็จได้มากขึ้น