บทความนี้จะกล่าวถึงเรื่องการ ออมเงิน แต่หากจะกล่าวถึงเคล็บลับในการออมกี่ร้อยกี่พันบทความ กี่ล้านเทคนิคการออม หากไม่มีใครหยิบไปใช้จริง มันก็ไม่เห็นผล
เลิกจดบันทึกการใช้จ่าย
หลายๆตำราบอ กกับเราว่า หากเราจะเริ่มต้นออมเงินนั้น มันต้องเริ่มจากการมีวินัยในการจดบันทึกรายรับรายจ่ายใช่หรือไม่ เพราะการบันทึกรายรับรายจ่าย จะทำให้เรารู้ว่า
เราใช้จ่ายในแต่ละวัน มากน้อยแค่ไหน มีรายรับมาเท่าไหร่ แต่ใช้จ่ายออ กไปเท่าไหร่ และที่สำคัญค่าใช้จ่ายที่เสียไปโดยไม่รู้ตัว เช่น เดินห้างอยู่ดีๆ กะจะมาเดินรับแอร์ชิลๆ
แต่บังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นป้ายแดงๆเหลืองๆที่ชื่อว่า “sale” และหลังจากนั้นก็ไม่รู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในบัญชีรายรับรายจ่าย มีการจ่ายค่ากระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ออ กไปร่วมหลายพันบาท
และพอถึงสิ้นเดือน ที่เป็นวาระการเปิดดูบัญชีรายรับรายจ่ายของตนเองก็ต้องได้ทึ่ง ว่าบางรายจ่าย ทำไมเราจ่ายไปโดยไม่รู้ตัวนะ ….. ?
นั่นคือสิ่งสำคัญของบัญชีรายรัยรายจ่าย เพราะมันทำให้เราได้ “ตระหนัก” ว่าเรากำลังใช้จ่ายเกินรายรับอยู่หรือไม่ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการออมเงิน มีเงินเหลือให้ออม เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้มีเงินออม ก็เลิกจดบันทึกรายรับรายจ่ายไปซะ
เลิกเช็คยอดเงินคงเหลือในสมุดบัญชีบ่อยๆ
การเช็คยอดเงินคงเหลือในสมุดบัญชี เป็นอีกวิธีที่จะทำให้เราตระหนักว่า เดือนนี้เราควรวางตัวในเรื่องการใช้จ่ายอย่างไร และเป็นการวางแผนเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ว่าจากต้นเดือนที่เดินเข้าชาบูๆ สวยๆ มันจะแปรเปลี่ยนเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้กี่กระป๋อง หากจะออมเงิน แต่!!! หัวข้อนี้คือวิธีที่ทำให้คุณออมเงินไม่สำเร็จ
เราก็แค่เลิกเช็คซะว่าเงินคงเหลือในบัญชีธนาคารทุกเล่มที่มีในชีวิต เหลือรวมกันแล้วเท่าไหร่นั่นเอง เป็นวิธีอีกวิธีที่จะช่วยให้ท่านออมเงินไม่สำเร็จ
หยุดคิดเรื่องความมั่นคงในอนาคต
วิธีการที่จะทำให้เราออมเงินได้นั้น ก็คงเป็นเพราะว่า เราคิดถึงเรื่องความมั่นคงในอนาคตของเรา เช่นว่า หลังอายุ 40 เราจะมีเงินเก็บไว้ทำธุรกิจสักก้อนดีไหม หรืออนาคตเราจะมีเงินเก็บไว้เที่ยวสักที่ที่เราอยากจะไปบนโลกกว้างใบนี้
หากเราคิดถึงเรื่องความมั่นคงในชีวิต เราก็คงจะเริ่มต้นออมเงิน เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะทำให้เราไม่สามารถออมเงินได้ ก็คือเลิกคิดถึงเรื่องความมั่นคงในชีวิตไปได้เลย
บอ กกับเพื่อนว่าเราจะเลิกซื้อของ sale
หากท่านเป็นผ ช.ให้ท่านผ่านข้อนี้ไป แต่หากท่านเป็นผ ญ. ให้ท่าน มาร์คข้อนี้ไว้ให้ดี เพราะหากท่านลองสังเกต คนเราส่วน มากมักตกเป็นเ ห ยื่ อของคำว่า “sale”
การซื้อของลดราคาเป็นสิ่งที่ดี หากจำเป็นและถูกเวลา แต่ความเป็นจริงในเรื่องของเราซื้อสินค้าลดราคานั้น สิ่งที่ได้มาซึ่งจำเป็น มัน มักจะน้อยกว่าของลดราคาที่ไม่ค่อยจำเป็นนั่นเอง
หากท่านลองสังเกตจริงๆ การซื้อของลดราคาในความรู้สึกของผู้ซื้อมักจะคิดว่า มันคุ้มค่า เพราะเราได้ซื้อในราคาที่ถูกกว่าปกติ นั่นคือ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ ไม่ว่าเราพบเจออะไรลดราคากี่ครั้ง
เราก็มักจะ คิดว่า เอาหน่อยหนะ นานๆทีมันจะลดราคาหนิ และเมื่อท่านย้อน มาดูบันทึกการจ่ายค่าสินค้าสำหรับของลดราคาที่ท่านซื้อในแต่ละเดือน ท่านจะเห็นว่า “ค่าใช้จ่ายที่ควรจะลดไปตามราคาsale มันสูงปรี๊ดเกินความจำเป็น”