สำหรับทุกคนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หากคุณคือคนหนึ่งที่มีหนี้สินไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้นอ กระบบ หนี้จากการกู้สินเชื่อธนาคาร
หรือจะเป็นหนี้ในรูปแบบใดก็ตาม เชื่อได้ว่าขณะนี้ทุกคนที่กำลังเผชิญกับความเครียดจากหนี้ที่ว่านี้อยู่
คุณอาจจะต้องตกอยู่ในช่วงที่กลุ้มใจอยู่มากน้อยไปตามความสามารถในการชำหนี้และภาระหนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง
1.สำรวจหนี้สินทั้งหมด
หากคุณมีหนี้ คุณควรสำรวจหนี้สินทั้งหมดว่าคุณมีหนี้อะไรบ้าง และแต่ละอย่างนั้น เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
รวมถึงอัตราดอ กเบี้ยที่ต้องเสียไปในแต่ละเดือนเพื่อให้รู้ว่าตนเองควรจะต้องหาเงินเท่าไหร่มาชำระหนี้ให้หมดโดรย ข้อมูลเรื่องหนี้สิ้นจะเป็นตัวแปรสำคัญในการวางแผนปลดหนี้ของคุณ
2. ปรับปรุงพฤติกรรมการใช้จ่ายทั้งหมด
ต้องวางแผนการใช้จ่ายเงิน โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายทั้งหมด โดยคุณต้องเริ่มตั้งแต่เงินเดือนออ ก หลังจากที่คุณได้รับเงินเดือน คุณต้องนำเงินเดือน มาแบ่งและแจกแจงรายจ่ายออ กดังนี้
คือ แบ่งให้เป็นการออม 10% แบ่งเป็นรายจ่ายประจำวัน 30% เงินสำรองฉุ п เ ฉิ นอีก 5% และเมื่อแบ่งทั้งหมดแล้ว คุณจะทราบว่ามีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ คราวนี้คุณก็สามารถนำไปจัดการกับหนี้สินของคุณที่มีอยู่
โดยแนะนำว่าต้องจัดการกับหนี้สินที่มีอัตราดอ กเบี้ยที่แพงที่สุดก่อน เพราะจะได้ลดภาระหนี้ดอ กเบี้ยที่แสนโหด ทำการจดบันทึกรายจ่ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นจริง
ลดการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย งดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย คุณต้องสร้างนิสัยในการใช้จ่ายเงินสด งดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เพราะการใช้จ่ายผ่านบัตรนั้น เป็นวิธีที่สร้างหนี้ได้ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีวินัยในการใช้เงิน
3.เลือ กปลดหนี้ในส่วนที่สามารถทำให้เกิดดอ กเบี้ยที่แพงที่สุดก่อน
ลองนำบัตรเครดิตทุกใบที่มีมาคิดคำนวณอัตราดอ กเบี้ยที่คุณผ่อนชำระในแต่ละเดือนดูสิว่า บัตรเครดิตรายการไหนที่คุณต้องหมดเงินไปกับการจ่ายดอ กเบี้ยที่แพงส่งผลให้การผ่อนชำระมีอัตราที่สูงในแต่ละเดือน
จัดลำดับบัตรเครดิตที่คิดอัตราดอ กเบี้ยสูงไล่เลียงไปจนบัตรเครดิตที่มีอัตราดอ กเบี้ยต่ำแล้วทยอยใช้คืนตามลำดับ หากคุณสามารถติดต่อประสานงานขอรีไฟแนนซ์หนี้ได้ยิ่งดี
เพราะในแต่ละธนาคารนั้น เขาจะมีโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อคอยช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถชำระหนี้ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น โครงการนี้สามารถส่งผลที่ดีสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย
ที่ต้องการผ่อนชำระหนี้สินที่เป็นอยู่แต่มีรายได้อัตคัด หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถผ่อนชำระตามยอดจำนวนเงินเดิมได้ ซึ่งถึงแม้การรีไฟแนนซ์หนี้จะทำให้คุณเป็นหนี้ระยะยาวกว่าเดิม แต่รับรองว่าดีกว่าหนี้ระยะสั้นแล้วหาเงิน มาจ่ายไม่ได้อย่างแน่นอน
4. ตัดสินใจและให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ฟุ่มเฟือย
ในทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาณตน ฟุ่มเฟือยกับสิ่งของที่ไม่จำเป็น มีรสนิยมการใช้ชีวิตสูงเกินความสามารถในการจ่าย ประกอบกับมีนิสัยที่ไม่รู้จักพอ
ทำให้ซื้อสิ่งของต่างๆโดยคิดเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการ ณ ขณะนั้น ไม่ได้คำนึงถึงการใช้จ่ายในอนาคต สาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุที่คอยส่งเสริมและสนับสนุนให้ตัวคุณเองนั้นเป็นหนี้เพิ่มขึ้นแบบฉุดไม่อยู่
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต การแต่งตัวตามแฟชั่นที่อินเทรนด์ การเลือ กรับประทานอาหารในร้านอาหารราคาแพง หรูหรา
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีแก่เพื่อนฝูงและสังคมในระดับเดียวกัน และนี้คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตของคุณทุกวันนี้มีความผูกพันกับคำว่าหนี้ ไม่รู้จักจบจักสิ้นเสียที
เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการปลดหนี้ ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ด้วยการทำสัญญากับตัวเองว่าจะเปลี่ยนนิสัยการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย คอยยับยั้งชั่งใจในทุกๆการใช้จ่าย หากคุณทำได้ตามที่ได้สัญญากับตัวเองเอาไว้ รับรองเลยว่าภาระหนี้จะหมดไปได้อย่างไม่ยากเย็น
5. ออมเงินไว้เพื่อซื้อของที่อยากได้
คุณทราบไหมว่า การซื้อสินค้าใด ๆ ก็ตามด้วยเงินสดนั้นสามารถนำไปต่อรองเพื่อขอส่วนลดจากร้านค้าได้ และยังถือเป็นวิธีการจ่ายเงินที่ดีอีกวิธีหนึ่งทำให้คุณใช้เงินได้ตามแผนการที่วาง
เพราะการใช้จ่ายด้วยเงินสดจะทำให้คุณรู้สึกตัวในทุกๆการจ่ายเงิน ว่าจ่ายไปมากเท่าไหร่และควรจะหยุดจ่ายเมื่อใด หากคุณอยากได้สิ่งของชิ้นใด
ควรเลือ กใช้วิธีการออมเงินเพื่อซื้อสิ่งของชิ้นนั้น การออมจะทำให้คุณรู้คุณค่าของเงิน ว่ายากเย็นเพียงใดกว่าจะเก็บออมเงินเพื่อมาซื้อสิ่งของสักหนึ่งชิ้น วิธีนี้นอ กจากจะช่วยให้คุณรู้จักคุณค่าของเงินแล้ว มันยังช่วยสร้างนิสัยการออมให้กับคุณได้อย่างดีด้วย