ข้อคิดสอนใจ

3 กฎเหล็กที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้

คำว่า “มนุษย์เงินเดือน” คงเป็นคำที่ทุกท่านคงคุ้นเคยเป็นอย่างดีในฐานะที่เป็นคำซึ่งใช้เรียกกลุ่มบุคคลกลุ่มใหญ่ในสังคม โดยเป็นคำที่ใช้เรียกรวมถึงกลุ่มคนในหลากหลายสาขาอาชีพ

ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนของผู้ดำรงตำแหน่งทางราชการ พนักงานบริษัทเอ กชน พนักงานหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ บริษัทมหาชน ลูกจ้างประจำ หรือผู้ซึ่งได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานในลักษณะประจำที่เรียกตนเองด้วยชื่อใดก็ตาม

กฎข้อที่ 1 มนุษย์เงินเดือนต้องขยันทำงานและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

การเป็น มนุษย์เงินเดือน แม้จะมีข้อดีในแง่ของการมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ แต่นั่นก็เป็นเสมือนดาบสองคมเนื่องจากการมีรายได้ ซึ่งคงที่อาจทำให้ใครหลายคนหมดความกระตือรือร้นในการทำงานและหยุดที่จะพัฒนาตนเอง

เพราะเห็นว่าต่อให้ทำงานเก่งขึ้นหรือทุ่มเทมากยิ่งขึ้นสักเท่าไรก็จะยังคงได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม ต่างจากผู้ทำงานอิสระที่จะมีรายได้มากยิ่งขึ้นหากขยันในการทำงาน มากเป็นพิเศษ

ซึ่งในความเป็นจริงนั้นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนพึงตระหนักอยู่เสมอ ก็คือ นับวันจำนวนผู้ที่จบการศึกษาและเข้าสู่วัยทำงานก็ล้วนแต่จะมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งความสามารถก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนรุ่นก่อนเลย

ดังนั้น หากมัวนิ่งนอนใจและไม่คิดที่จะขยันและพัฒนาตนเอง ต่อไปเมื่อถึงวันหนึ่งผู้ว่าจ้างก็อาจจะลดความสำคัญ หรือมีโอ กาสที่จะบานปลายถึงขั้นของการเลิกจ้าง

เนื่องจากเห็นว่าการจ้างนักศึกษาที่จบใหม่มีความคุ้มค่ามากยิ่งกว่า เพราะนอ กจากจะมีความรู้ความสามารถแล้ว นักศึกษาที่จบใหม่ยังมีแรงกระตุ้นในการทำงานสูง ทั้งยังพึงพอใจต่ออัตราค่าจ้างที่ต่ำกว่าอีกด้วย

กฎข้อที่ 2 มนุษย์เงินเดือนพึงห่างไกลจากหนี้สิน

เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนเป็นอาชีพที่มีรายได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้หลายครั้งอาจเกิดความนิ่งนอนใจและเริ่มที่จะใช้จ่ายเงินอย่างเกินตัว

เช่น การสมัครใช้บริการบัตรเครดิต การผ่อนรถ ผ่อนบ้าน คอนโด หรือแม้กระทั่งการผ่อนสินค้าอันปราศจากความจำเป็น ทั้งนี้

เพราะเห็นว่าเดือนถัดไปก็ย่อมจะมีรายได้เข้ามาทดแทน จึงสามารถนำเงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้าได้ สิ่งเหล่านี้นับเป็นกับดักอัน ต ร า ยที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคนห ล งผิด

เพราะไม่ทันตระหนักคิดว่าการนำเงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้าย่อมห ม ายถึงเงินที่มีใช้ในอนาคตนั้นย่อมจะต้องลดน้อยลงไป และเมื่อถึงเดือนถัดไปก็นำเงินในอนาคตมาใช้ต่อเป็นทอด ๆ อย่างไม่จบสิ้น

กรณีเช่นว่านี้อาจฟังดูไม่เป็นปัญหาเท่าไรนักหากอยู่ในสถานการณ์ปกติ แต่ขอให้ทุกท่านลองนึกถึงกรณีฉุ п เ ฉิ น เช่น เกิดการเจ็บป่วยที่ต้องใช้ค่ารักษาพยาบาล

เกิดอุบัติเหตุที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมทรัพย์สิน เกิดเหตุที่ทำให้การทำงานต้องหยุดชะงักลง หรือแม่แต่เหตุสุดวิสัยอื่นใดก็ตาม

หากสภาวะทางการเงินยังอยู่ในลักษณะที่เป็นหนี้รายเดือนเช่นนี้จะนำเงินจากส่วนใดมาใช้ เมื่อทราบเช่นนี้ มนุษย์เงินเดือนจึงควรตระหนักและไม่ตั้งตนอยู่บนความประมาท

กฎข้อที่ 3 มนุษย์เงินเดือนยังคงต้องแสวงหาความมั่นคงทางด้านรายได้

เชื่อว่าหลายท่านคงจะเคยได้ยินข้อเปรียบเทียบระหว่างมนุษย์เงินเดือนกับผู้ทำงานอิสระอยู่เสมอ และหนึ่งในนั้น มักจะไม่พ้นไปจากเรื่องของความมั่นคงทางด้านรายได้

โดยความเชื่อที่มีอยู่แต่เดิมนั้นอธิบายว่ามนุษย์เงินเดือนเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงทางด้านรายได้สูงกว่าผู้ทำงานอิสระ แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วในบางแง่มุมมนุษย์เงินเดือนก็ไม่ได้มีความมั่นคงดังเช่นว่าเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานในภาคเอ กชน ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากว่า ถึงแม้มนุษย์เงินเดือนจะมีรายได้ที่สม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือน

แต่ใครจะรับประกันได้ว่าเขาจะสามารถทำงานในที่แห่งนั้นได้ตลอดไป มีหลายกรณีตัวอย่าง ซึ่งเคยเกิดขึ้น มาแล้วที่มนุษย์เงินเดือนในบริษัทจำต้องถูกปลดออ กทั้งที่ไม่เคยบกพร่องในการทำงาน

หากแต่เป็นผลพวงมาจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ นโยบายของบริษัท หรือปัจจัยภายนอ กอื่น ๆ เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้ทุกท่านที่เป็น มนุษย์เดือนอย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ

และพยายามแสวงหาความมั่นคงอยู่เสมอ เช่น หารายจากการทำงานเสริม สะสมเงินออม ตลอดจนการตระเตรียมช่องทางสำรองสำหรับกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยหรือจำเป็นต้องออ กจากงานที่ท่านทำอยู่โดยไม่คาดคิด

meko

Share
Published by
meko