เชื่อว่าโดยปกติแล้วคนเราก็จะมีการออมเงินที่แตกต่างกันออ กไป เงินเดือนน้อยก็อาจจะออมน้อย ส่วนคนที่มีเงินเดือน มากก็อาจจะมีช่องทางในการออมเงิน มากกว่า
ทั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการออมเพียงอย่างเดียว เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้คุณนั้น มีเงินออมมากหรือน้อย อีกทั้งยังเจอ กับภาวะอัตราเงินฝากต่ำ
และต้องเจอ กับปัญหาเงินเฟ้ออีก ซึ่งทำให้ทุกคนนั้นจ่ายเงินเยอะขึ้นจากราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น อาทิเช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าไปโรงเรียนลูก ค่าโทรศัพท์ ค่าเน็ต
รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลด้วย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ย่อมส่งผลต่อ การดำเนินชีวิตของแต่ละคนด้วย วิธีที่ดีที่สุดที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย รายรับ รายจ่ายในอนาคตนั้น เราต้องมีการวางแผนให้ดี
1. จงมีอัตราการออมเป็นบวกและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วิธีการนี้คือเป็นการเพิ่มอัตราการออมเงินให้สูงขึ้น โดยให้มีเงินเก็บในทุกเดือนนั้นเพิ่มขึ้นทุกเดือนๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้คุณนั้นสามารถมีเงินออมให้ได้เร็วที่สุด
อาทิเช่น หากคุณนั้น มีรายได้ในแต่ละเดือนนั้น 30,000 บาท เมื่อมีรายรับเข้ามาในแต่ละเดือน ก็ให้แบ่งเงินส่วนหนึ่งนั้นไว้เก็บอาจจะ 20,000 บาท
และหลังจากนั้นเมื่อคุณได้รับการเลื่อนขั้นหรือปรับเงินเดือนขึ้น ก็ให้นำเงินส่วนที่เพิ่มขึ้น มานั้นไว้เป็นส่วนของเงินออม ก็จะทำให้คุณนั้น มีอัตราการออมเงินนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เพราะว่าเงินเดือนจะมีการเพิ่มทุกปีๆอยู่แล้ว แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่แต่ละบริษัทนะคะ หากทำเช่นนี้จนเกิดเป็นนิสัย รวมไปถึงจะเป็นการสร้างนิสัยรักการออมให้คุณ จะส่งผลดีให้มีเงินแก็บมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมในการออมเงินนั้น อยากฝากเพื่อนๆไว้ โดยการคำนวณรายได้ควรใช้รายได้สุทธิหลังหักภาษีเงินได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรรู้และศึกษาเพิ่มเติม
คือวิธีการลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายควรคิดเฉพาะเงินที่ใช้เพื่อ การบริโภคและให้แยกเงินที่ใช้ในการออมและการลงทุนออ กเพื่อจะได้เงินออมจริงๆนั่นเอง
จงจัดสรรเงินออมให้เห ม าะสม
วิธีนี้เป็นอีกวิธีในการแบ่งเงินออมที่เป็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน นั่นคือแบ่งเงินออมทั้งหมด เงินเพื่อใช้จ่าย เงินเผื่อฉุ п เ ฉิ น เงินเพื่อลงทุน ซึ่งเงินออมแต่ละกองนั้น มีหน้าที่แตกต่างกันออ กไป กองแรก
เงินออมเพื่อใช้จ่ายเงินออมประเภทนี้มีหน้าที่สร้างสภาพคล่องและต้องมีเงินไว้ใช้ตามที่เราต้องการใช้ในยามจำเป็น ดังนั้น เงินออมประเภทนี้ต้องสามารถเข้าถึงเงินกองนี้ได้ทันที
ปกติแล้วต้องมีเงินสำรองไว้ใช้ประมาณ 3 เดือน ในส่วนที่ 2 นี้เป็นเงินไว้ใช้ในยามฉุ п เ ฉิ นหรือจำเป็น หน้าที่หลักของเงินประเภทนี้คือ
มีหน้าที่เสริมสภาพคล่องในช่วงที่มีความต้องการใช้ปกติทั่วไป โดยเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้ในยามที่จำเป็น สามารถนำออ กมาใช้ได้ทันที แต่เงินส่วนนี้หากไม่จำเป็นนั้นไม่ควรเอาออ กมาใช้อย่างเด็ดขาด
ดังนั้นต้องสามารถเข้าถึงเงินกองนี้ได้ไม่นานนัก เงินที่เตรียมไว้ในส่วนนี้นั้น ควรมีไว้สำรองสัก 3 เดือนนะค่ะ และกองสุดท้าย เงินออมเพื่อลงทุน
เป็นเงินที่มีหน้าที่สร้างผลตอบแทนที่ดีคือสามารถนำไปลงทุนได้นานา เห ม าะสำหรับนำไปลงทุน เพื่อหวังผลตอบแทนอีกหนึ่งช่องทาง
ดังนั้นต้องเป็นเงินเย็นสามารถนำไปลงทุนได้นาน ถ้าหากจะลงทุนนั้น ควรนำไปลงทุนกับการลงทุนที่เห ม าะกับเรามากที่สุด โดยนำไปลงทุนในสิ่งที่ตนเองรู้ลึกรู้จริงและต้องรับความเสี่ยงได้เพราะการลงทุนคือความเสี่ยง
จงจัดสมดุลการออมในปัจจุบันและอนาคต
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า หากไม่มีเงินเพียงพอต่อ การใช้จ่ายในปัจจุบันนั้น จะมีช่องทางเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้หลายคนที่กำลังเจอปัญหาการเงิน
อาทิเช่น สินเชื่อต่างๆ การกู้เงินนอ กระบบ แม้ว่ารู้ทั้งรู้ว่าจะต้องจ่ายดอ กเบี้ยในราคาที่สูง หลายคนก็ยอมที่จะจ่าย ดังนั้น เราจึงควรใช้เงินอนาคตอย่างรอบคอบในสิ่งที่จำเป็นและรู้ตัวว่าสามารถชำระคืนได้
และควรจัดระบบในการออมเงินนั้นให้ดีและมีระบบ มีการวางแผนที่ดีทั้งนี้เพื่ออนาคตที่ดีข้างหน้า และจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลานต่อไป
จงเรียนรู้การออมเงินรูปแบบอื่น
เมื่อมีเงินออมแล้วจงเรียนรู้ที่จะนำเงินที่มีนั้น ไปลงทุนเพื่อให้เกิดผลกำไรเพิ่มขึ้น คุณรู้หรือไม่ว่าช่องทางการออมมีมากกว่าการฝากเงินในบัญชีธนาคารซึ่งเป็นอีกช่องทางที่ให้คุณนั้นสามารถลงทุนได้ง่ายๆและผลตอบแทนดีที่เดียวอาทิเช่น
กองทุนรวมตราส า รหนี้ หุ้นกู้บริษัทเอ กชน พันธบัตรรัฐบาล และประกันชีวิตเป็นต้น
