สร้างนิสัยอย่างไรให้ ไร้หนี้

หนี้ นับว่าเป็นปัญหาทางการเงินที่สำคัญอย่างหนึ่งเพราะนอ กจากจะทำให้เงินไม่งอ กเงยแล้วเงินที่มีอยู่ยังหายไปอีกด้วย หลายคนคงสงสัยว่าทำไมบางคนถึงเป็นหนี้มากมายมหาศาลแต่บางคนกลับไม่เป็นหนี้เลย

พวกเขาบริหารเงินกันอย่างไรถึงไร้หนี้ ความจริงแล้วการ ไร้หนี้ นั้นง่ายแสนง่ายโดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนนิสัยส่วนตัวบางอย่างเพียงเท่านั้น ดังเช่นนิสัยต่อไปนี้หากคุณลองปฏิบัติตามรับรองว่าส่งผลดีต่อตัวคุณอย่างแน่นอน

1. เก็บเงินให้เป็น

ไม่ว่าคุณจะได้เงินเดือน โบนัส มรดกหรือถูกรางวัลใหญ่ คุณควรคิดให้รอบคอบก่อนว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายอย่างไรได้บ้างรวมถึงค่าใช้จ่ายประจำวัน

เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือปกติคุณฝากบัญชีออมทรัพย์เป็นประจำอยู่แล้วหากปล่อยให้มีการโอนเข้าบัญชีแบบอัตโน มัติก็จะดีไม่น้อย

เพียงคุณคิดว่าเงินจำนวนเล็กน้อยที่ได้มาเมื่อสะสมไว้นานซักวันก็จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ คุณก็จะมีเงินเก็บมากขึ้นแต่คุณต้องศึกษาวิธีการเก็บเงินให้ดีเสียก่อน

อาจศึกษาจากผู้มีประสบการณ์, เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือหรือหนังสือที่เขียนเรื่องการเก็บเงินดี ๆ ซักเล่ม

2. ควบคุมเงินให้ได้

เริ่มจากการค้นคว้าหาข้อมูล มีการตรวจสอบเอ กส า รที่ต้องเซ็นเกี่ยวกับการเงินด้วยตนเองทุกครั้งและอ่านรายละเอียดให้เข้าใจ หากต้องการควบคุมเงินให้ได้

ต้องศึกษาเรื่องบัญชีเอาไว้ด้วยถึงแม้จะดูยุ่งยากวุ่นวายแต่มันจะเป็นประโยชน์ต่อเงินในกระเป๋าของคุณมากเพราะคุณจะรู้สึกอุ่นใจเมื่อคุณควบคุมเงินได้และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับเงินของคุณ คุณจะสามารถจัดการกับมันได้อย่างแน่นอน

3. สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อย ๆ

ความละเอียดรอบคอบคือหัวใจสำคัญของการสร้างนิสัยให้ไร้หนี้ คุณควรสังเกตและตรวจสอบใบเสร็จต่าง ๆ ให้ดี ว่าใบเสร็จนี้มีรายจ่ายที่ถูกต้องครบถ้วนไหมหรือมีความผิดพลาดอะไรบ้างและควรจดไว้ในปฏิทินเกี่ยวกับกำหนดการจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

เพื่อที่จะได้จ่ายภายในวันเวลาที่กำหนดเพราะหากคุณลืมจ่ายคุณอาจต้องเสียค่าปรับโดยใช่เหตุ นอ กจากนี้คุณควรเก็บใบเสร็จรายจ่ายต่าง ๆ

ไว้เปรียบเทียบดูว่าคุณได้ใช้จ่ายไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นบ้างหรือไม่ หากพบตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ควรหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อไป

4. ปฏิเสธบ้างไม่เสียหาย

หากคุณถูกเพื่อนชวนไปเที่ยว ปาร์ตี้หรือรับประทานอาหารแพง ๆ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องตอบตกลงหรือไปร่วมด้วยทุกครั้งเมื่อสถานะทางการเงินของคุณยังไม่มั่นคงพอ

ด้วยการที่คุณรู้จักที่จะปฏิเสธเรื่องเหล่านี้เสียบ้างจะทำให้คุณลดค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงได้ เพราะรายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณนึกไม่ถึงเมื่อเวลาผ่านไปก็จะกลายเป็นรายจ่ายก้อนโตที่คุณอาจรู้สึกเสียดายทีหลัง

แต่ทว่าการไม่ไปพบปะเพื่อนฝูงหรือปาร์ตี้คงทำให้ชีวิตของคุณจืดชืดไม่น้อยคุณมีทางเลือ กที่หลากหลายในการที่จะสนุกกับเพื่อน ๆ

เช่น เปลี่ยนจากร้านอาหารหรู ๆ เป็นการช่วยกันทำอาหารกินเองที่ห้องหรือจัดปาร์ตี้สนุก ๆ ทีห้องโดยทุกคนทำอาหารมาแบ่งกันหรือชวนกันไปเที่ยวที่ไกล ๆ ราคาไม่แพง ก็ถือได้ว่าเป็นการสร้างความสุขอย่างง่าย ๆ และประหยัดอีกด้วย

5. ปรับเปลี่ยน มุมมองต่อรายได้

หากคุณคิดว่าคุณมีรายได้มากสามารถใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ได้นั่นคุณคิดผิดเพราะการที่คุณคิดว่าคุณมีเงินเยอะจะทำให้คุณกลายเป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไม่เก็บออม

หากคุณปรับเปลี่ยน มุมมองต่อรายได้โดยแกล้งทำตัวให้มีรายได้น้อยถึงแม้ว่าคุณจะเป็นหนี้อยู่

เพียงแค่นี้สถานการณ์ทางการเงินของคุณก็จะดีขึ้นทันตาเห็น เช่น การลองจินตนาการว่าคุณมีรายได้น้อยลงซัก 10% หรือ 20% จากรายได้จริง

ให้คุณใช้รายได้จำนวนนี้คำนวณค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณ ในเริ่มแรกมันอาจจะดูยากแต่การลดค่าใช้จ่ายลงมาจะทำให้คุณมีรายจ่ายน้อยกว่าเงินที่คุณหามาได้

ทำให้คุณมีเงินเหลือเก็บไว้สำหรับบั่นปลายชีวิตหรือเงินสำหรับกรณีฉุ п เ ฉิ นต่าง ๆ และยังเป็นการลดนิสัยการใช้เงินเกินตัวให้ลดลงอีกด้วย

6. คิดก่อนซื้อ

เคยไหมเมื่อคุณเจอสิ่งที่คุณอยากได้คุณไม่ลังเลเลยที่จะซื้อมันโดยไม่สนใจว่าจะมีเงินพอใช้จ่ายในอนาคตหรือไม่ บางครั้งอาจมีวิธีที่ดีกว่าการอยากได้แล้วเดินเข้าไปซื้อทันทีคือ การชั่งใจไว้ก่อนแล้วคิดทบทวนดูให้ดีกว่าเราอยากได้จริงไหม

ซื้อมาแล้วเราจะได้ใช้อย่างคุ้มค่าหรือไม่ เช่น เมื่อคุณเจอ กระเป๋าที่อยากได้แทนที่คุณจะเดินไปซื้อทันทีเช่นลองคิดดูว่าถ้าเราซื้อ กระเป๋า เราจะมีเงินไว้ใช้จ่ายอื่น ๆ หรือไม่

ในที่นี้ไม่ได้ห ม ายความว่าไม่ให้คุณซื้อแต่ลองเปลี่ยนเป็นการเก็บเงินเพื่อซื้อสิ่งนั้นดูสิ ในระหว่างการเก็บเงินคุณจะมีเวลาคิดทบทวน มากขึ้นว่าคุณต้องการซื้อจริง ๆ หรือไม่ วิธีนี้จะทำให้คุณลดค่าใช้จ่ายและไม่ก่อหนี้เพิ่มขึ้น

7. ให้ความสำคัญกับประสบการณ์

ในบางครั้งประสบการณ์ก็สำคัญกว่าสิ่งของราคาแพง ลองให้ความสำคัญกับประสบการณ์ดี ๆ มากกว่าสิ่งของแพง ๆ ดูสิ นอ กจากคุณจะประหยัดเงินแล้วยังได้รับความสุขเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งทำงานตามความสามารถและมีเวลาเหลือให้กลับไปกินข้าวกับครอบครัว ความสุขเล็ก ๆ ที่คุณสามารถหาได้ใกล้ตัว กับอีกคนหนึ่งที่ทำงานอย่างหนักเพื่อซื้อสิ่งของแพง ๆ

หรือ กินอาหารหรู ๆ กับครอบครัวแต่ก็เป็นเพียงนาน ๆ ครั้งเพราะมัวแต่ทำงานหนัก คงจะดีไม่น้อยหากเปลี่ยนเป็นกินข้าวมื้อเล็ก ๆ ด้วยกันและได้กินด้วยกันบ่อยขึ้น ประสบการณ์บางอย่างถึงคุณจะมีเงิน มากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถซื้อได้

8. กำหนดเป้าห ม ายไม่ห ล งทาง

การมีเป้าห ม ายที่ชัดเจนจะทำให้คุณเก็บเงินได้ดีขึ้นและไม่เป็นหนี้ในภายหลัง เช่น การเก็บเงินเพื่อ การท่องเที่ยวหรือ การอยู่อย่างสุขสบายยามเกษียณเป็นต้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *