ปกติแค่เราวางแผนการเงินสำหรับเราเพียงคนเดียวก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากแล้วใช่หรือไม่ และยิ่งเรามีสมาชิกตัวน้อยๆเพิ่มขึ้น มานั้น เราต้องมีการปรับเปลี่ยน
วิธีการใช้เงิน อย่างยกใหญ่เลยทีเดียว อะไรที่เราเคยทำได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงคนในครอบครัว ก็อาจทำไม่ได้อีกต่อไป
1. จากที่เคยทำบัญชีรายรับรายจ่ายของเราแค่คนเดียว ก็ต้องหัน มาทำบัญชีรายรับรายจ่ายของครอบครัว
ถ้าใครไม่เคยทำมาก่อนก็คงถึงคราวที่จะเริ่มทำจริงๆแล้วล่ะ เพราะว่าการที่เรามีเงินก้อนเดียว(ซึ่งมาจากเงินของหลายๆคน) และต้องใช้จ่ายออ กไปในหลายๆทางซึ่งไม่ใช่เพื่อเราคนเดียวนั้น
จะทำให้เงินลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าเราไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของครอบครัวเลย เราก็จะไม่มีทางรู้ว่าเงินหายไปไหน และใครใช้จ่ายเยอะเกินความจำเป็นบ้าง
ดังนั้นเราจึงต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อวางแผนทางการเงินนั่นเอง ซึ่งมีหลายคู่อยู่เหมือนกันที่มักจะมีปัญหาครอบครัวเพียงเพราะเรื่องการเงิน
เพราะฉะนั้นอย่าละเลยที่จะทำบัญชีรายรับรายจ่ายครอบครัว จะได้รู้กันไปเลยว่ารายจ่ายส่วนไหนเกินจำเป็น และหาทางลดรายจ่ายนั้นต่อไป
2. ลดรายจ่าย
ที่นี้เวลาที่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย เราก็จะเห็นได้เลยว่าเงินหมดไปกับตรงไหนและใครเป็นคนใช้ แต่ปัญหาอยู่ที่ เขาเคยมีวิธีการใช้จ่ายแบบนั้น มาก่อนและไม่มีปัญหา
การจะไปบอ กให้หยุดจ่ายเลยคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นอาจใช้วิธีลดรายจ่ายกันคนละครึ่ง เขาลดครึ่งหนึ่ง เราลดครึ่งหนึ่ง หรืออาจลดลงในปริมาณที่เท่าๆกันก็ได้
ซึ่งก็แล้วแต่จะตกลงกันก็ได้ นอ กจากนี้การช่วยกันลดค่าใช้จ่ายลง ยังทำให้มีเงินเหลือเก็บขึ้น มาเป็นสองเท่าเชียวนะ รู้อย่างนี้แล้วอย่ามัวมาทະ เลาະกันอยู่เลย มาร่วมือร่วมแรงใจกันลดค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มเงินเก็บกันดีกว่า
3. อย่าลืมเงินออม
ตอนที่วางแผนทางการเงินนั้นอย่าเอาแต่คิดว่าต้องใช้จ่ายเท่านั้น แต่ให้คิดถึงการออมด้วย เพราะว่าเราไม่ได้ใช้ชีวิตเพียงคนเดียวแล้ว นอ กจากนี้ยังอาจมีเหตุที่ต้องใช้เงินอย่างไม่คาดคิดด้วย
ยิ่งถ้าหากใครมีลูกแล้วด้วยล่ะก็ยิ่งต้องใช้เงินในการเลี้ยงลูก ซึ่งในสมัยนี้ก็ต้องใช้เงินไม่ใช่น้อยเลย ดังนั้นอย่าลืมแบ่งเงินออมไว้ด้วย
และควรออมเงินให้มากกว่าเงินที่ใช้ไปในสิ่งที่ไม่จำเป็น หรืออาจนำเงินที่ใช้ไปในส่วนที่ไม่จำเป็น มาเป็นเงินออม
หรือถ้าให้ดีแนะนำให้คุณทั้งคู่หักเงินที่ได้จากการทำงานคนละ 10-30 % มาเก็บไว้เป็นเงินออมทันทีที่ได้เงินเดือนแค่นี้ก็หมดปัญหาเงินเหลือไม่พอเก็บออมแล้วล่ะ เพราะอย่างไรก่อนนำเงินไปใช้จ่ายราก็ได้หักเงินออมไว้แล้ว
4. มีเงินเหลือไหม เอาไปลงทุน
อย่าไปคิดว่าเงินที่เราเหลือจากการจัดสรรนั้นจะเอาไปใช้ได้อย่างสบายใจ เพราะเงินออมนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเงินเก็บของเราแต่ก็ไม่ควรเอามาใช้โดยไม่จำเป็น
ส่วนเงินที่ใช้ได้นั้นก็เป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไปไม่ได้ทำให้เงินเพิ่มขึ้น มาแต่อย่างใด ดังนั้นเอาเงินไปลงทุนเพื่อสร้างเงินบ้าง ที่นี้เงินที่เพิ่มมาเหมือนเป็นเงินก้อนใหม่ที่เราจะเอามาจัดสรรเพื่อลงทุน
ใช้จ่าย และอดออมต่อไปได้นั่นเอง เงินที่มีอยู่ก็จะเพิ่มขึ้นๆ เราก็ไม่จำเป็นทีจะต้องอดออมอย่างเดียวไปเรื่อยแต่ก็สามารถหาความสุขเล็กๆให้ชีวิตได้เช่นกัน
แต่อย่าลืมนะว่าการลงทุน มักจะมีความเสี่ยงเสมอ จึงควรเลือ กลงทุนในสิ่งที่ศึกษาหาข้อมูลแล้ว และปลอดภัยที่สุด
บางคนแนะนำว่าให้ฝ่ายผ ญ.เป็นคนเก็บเงิน ซึ่งข้อนี้เราไม่แนะนำมากเท่าไหร่นัก เพราะฝ่ายหญิงนั้นแม้ว่าจะมีความสามารถในการเก็บเงิน มากเท่าไหร่
แต่อย่าลืมว่าก็มีทักษะในการใช้เงิน มากเช่นกัน หรือถ้าหากใครมีแนวโน้มว่าจะใช้เงิน มากกว่าก็อาจให้อีกฝ่ายเก็บเงินแทน
ลองคุยกันว่าจะช่วยกันเก็บเงินหรือว่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเก็บคนเดียว แต่สิ่งที่สำคัญคือ การตกลงกันให้ดีนั่นเอง หรือไม่ก็เก็บเข้าบัญชีกลางไปเลย