10 วิธีหาเงินเพิ่ม ในยุคแบบนี้

การหาเงินที่แท้จริงแล้ว คือ การแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างออ กไปเพื่อให้ได้เป็นตัวเงินกลับมา เช่น สินค้าหรือบริการ เมื่อคนเราต้องการ หาเงินเพิ่ม

ก็ต้องใคร่ครวญตามลำดับจากความสามารถและทรัพยากรที่มีอยู่ว่ามีสิ่งใดที่สามารถแลกเปลี่ยนออ กไปเพื่อรับเป็นเงินกลับมาได้บ้าง

สำหรับผู้ที่ทำงานตามระบบเงินเดือนอาจจะยังไม่เห็นภาพเท่าใด แต่การที่คุณทำงานให้นายจ้างด้วยแรงงานและกำลังสมองนั้นก็เป็นการแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่งนั่นเอง

ถ้าคุณอยาก หาเงินเพิ่ม คุณก็ต้องหาอะไรมาแลกเปลี่ยน มากขึ้น ซึ่งมีวิธีการหาเงินอยู่หลายช่องทาง และมีความยากง่ายที่แตกต่างกันไป บางช่องทางก็มีผลกระทบหรือผลเสียในอนาคตมาก

1. ทำงานให้มากขึ้น

หนทางที่ง่ายที่สุดคือ การทำงานประจำที่คุณทำอยู่ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่มากขึ้น เมื่อผลงานดีก็มีโอ กาสได้รับรายได้มากขึ้นในกรณีที่รับเป็นค่าคอมมิสชั่นบวกกับเงินเดือนประจำ

หรือมีผลต่อโบนัสปลายปีจากผลกำไรของบริษัท ถ้าคุณมีความขยันเข้าตากรรมการหรือหัวหน้างานก็จะมีโอ กาสได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งตามจังหวะและโอ กาสด้วย

วิธีนี้เห ม าะกับกรณีที่ยังไม่ได้ต้องการเงินเร่งด่วน มากนัก แต่มองไปที่อนาคตระยะยาวมากกว่า งานประจำเป็นแหล่งที่ที่ดีและมั่นคงมากที่สุด

ไม่ว่าคุณจะมีหนทางหาเงินทางอื่น ๆ อย่างไร อย่าได้ละทิ้งความรับผิดชอบและประสิทธิภาพในการทำงานประจำ

2. หางานทำนอ กเวลางานประจำ

นอ กจากการทำงานประจำแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือ ก็ลองมองหาโอ กาสหาเงินด้านอื่น ๆ ซึ่งถ้าจะให้ไปทำงานนอ กเวลาในสถานที่อื่นอีกคงจะยาก เพราะเป็นการใช้ร่างกายมากเกินไป

ลองมองหาโอ กาสทางการค้าขายออนไลน์หรือตลาดนัดซึ่งสามารถหาของที่ตลาดกำลังต้องการมาขายตามทุนที่มี หรือรับจ้างทำงานตามความถนัดของตัวเอง

เช่น รับซ่อมคอมพิวเตอร์ รับเขียนบทความ แปลภาษา หรือ การตกแต่งภาพ ทำภาพกราฟิก บางคน มีฝีมือวาดภาพสติ๊กเกอร์ไลน์ขาย ทำ E-book ขาย เป็นต้น

แต่การหางานออนไลน์ต้องระวังคำโฆษณาที่ดูเกินจริงด้วยเพราะโดยมากจะเข้าข่ายห ล อ กลวง ก่อนหางานออนไลน์จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ

3. นำของสะสมออ กขาย

หนังสือ ภาพวาด ของสะสม ของใช้หลาย ๆ รายการที่เคยชื่นชอบ แต่อาจจะไม่ได้ชอบมากนักแล้ว สามารถนำไปประกาศขายได้ เพราะว่ามีผู้ที่กำลังมองหาหรือรับซื้ออยู่เสมอ

ของบางอย่างแม้ชอบก็อาจจะต้องตัดใจขายไปในกรณีที่จำเป็นต้องหาเงินเพิ่มแบบเร่งด่วน การลงประกาศขายควรจะพิจารณาผู้จะซื้อให้ดี

ทางที่ดีที่สุดคือ การให้ผู้จะซื้อโอนเงินค่าสินค้ามาก่อนแล้วจึงส่งของไปให้ หรือนัดรับเงิน-ส่งของเป็นกรณีไปในสถานที่ที่ต่างฝ่ายต่างสะดวก เช่น บนสถานีรถไฟฟ้าหรือในห้างสรรพสินค้ากลางเมือง

4. ขอยืมจากพ่อและแม่

หลังจากพยายามด้วยตัวเองแล้ว แต่ถ้าต้องการเงินเพิ่มแบบเร่งด่วน การเอ่ยปากขอคุณพ่อคุณแม่ดูก็เป็นทางเลือ กที่ดี แม้ว่าจะเป็นการรบกวนท่านก็อาจจะขอยืมชั่วคราวแล้วรีบหาเงิน มาคืนท่านภายหลังให้เร็วที่สุด

บางครอบครัวทำระบบการยืมให้เป็นระบบจะได้แยกให้ชัดเจน ให้ส่วนให้ ยืมส่วนยืม เพื่อฝึกลูกให้มีนิสัยการชำระเงินคืนให้ตรงเวลา

พ่อแม่ไม่ได้หวังดอ กเบี้ยอะไรอยู่แล้ว นับว่าเป็นแหล่งเงินกู้ใกล้ตัวมากที่สุด และควรขอเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น

5. ขอยืมเงินจากญาติ

การยืมเงินจากญาติก็คล้ายกับการยืมเงินจากคุณพ่อคุณแม่แต่มีความรัดกุมมากกว่า ถ้ามีความจำเป็นอย่างมาก ญาติสนิทก็สามารถเป็นที่พึ่งพาได้ในยามที่คับขัน

ควรทำสัญญาให้ชัดเจนจะดีกว่าสัญญาปากเปล่า เพื่อความสบายใจของผู้ให้ยืม แต่โดยมากถ้าสนิทกันจริง ๆ ก็อาจจะไม่ต้องมีหนังสือสัญญาให้มากความ

เมื่อยืมมาแล้วก็ต้องพยายามชำระคืนตามกำหนดให้เร็วที่สุดเพื่อเป็นเครดิตต่อตัวเราเองในอนาคต

6. ขอยืมเงินจากเพื่อน

การยืมเงินจากเพื่อนก็เป็นทางเลือ กที่เป็นไปได้ แต่ต้องระวังการเสียเพื่อน โดยมากเพื่อนเองก็จะไม่มากความอยู่แล้ว ถ้าเขาสะดวกใจและเต็มใจเราก็ต้องขอบคุณเขาและคืนเงินตามกำหนด

อย่าให้เพื่อนต้องมาทวง โดยมากเพื่อนที่ให้ยืมกลับเป็นฝ่ายกระอักกระอ่วนใจที่จะทวงคืน ผู้ยืมจึงไม่ควรทำให้เพื่อนเกิดอาการแบบนั้น

ต้องตั้งใจว่าจะต้องคืนเงินเพื่อนให้ได้ตามที่สัญญากันไว้ ไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะเสียเพื่อนได้และเสียชื่อเสียงในแวดวงสังคมอีกด้วย ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

7. นำของไปจำนำ

ถ้าทางเลือ กอื่นนั้นเป็นไปได้ยาก ขอให้ลองมองดูว่าคุณพอจะมีของไปจำนำได้หรือไม่ เช่น สร้อยทองคำ แหวนทองคำ โรงรับจำนำเป็นทางเลือ กที่ดีเพราะว่ามีระบบการให้เงินและจ่ายดอ กเบี้ยชัดเจน

คุณสามารถรักษาของที่นำไปจำนำไว้ได้โดยการส่งดอ กเบี้ยตามกำหนด ถ้าส่งดอ กเบี้ยไม่ทันกำหนด ของก็จะหลุดจำนำไป

เมื่อคุณมีเงินสดพอสำหรับจำนวนเงินต้นและดอ กเบี้ยตามระยะเวลาที่นับมาจากการส่งดอ กเบี้ยครั้งล่าสุด ก็สามารถไปไถ่ถอนของจำนำกลับคืน มาได้ โรงรับจำนำมีทั้งของรัฐบาล องค์กรท้องถิ่น เช่น กทม. และโรงรับจำนำเอ กชน

8. สินเชื่อหรือ การกดเงินสดจากบัตรเครดิต

การขอสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลหรือ การกดเงินสดจากบัตรเครดิตนั้นเป็นทางเลือ กหนึ่งที่ได้เงินสดมาใช้จ่ายก่อน แม้ว่าจะกดได้ง่าย

เพียงมีรหัสกดเงินสดก็กดเงินตามวงเงินที่ใช้ได้ออ กมาได้ทันทีโดยเสียเพียงค่าธรรมเนียมการกดเงินสด แต่สิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นคือดอ กเบี้ยในกรณีที่คุณไม่สามารถหาเงิน มาชำระได้ทันตามกำหนด

ดอ กเบี้ยจากการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิตถือว่าสูงมาก อาจจะถึงร้อยละ 28 ต่อปี แหล่งเงินกู้นี้จึงต้องพิจารณาให้รอบด้านและมั่นใจว่าจะหาเงิน มาชำระได้ทัน

มีคนจำนวน มากที่สุดท้ายต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตจากการกดเงินสดมาใช้ก่อนและไม่สามารถหาคืนได้จนกลายเป็นคดีที่ศาลแพ่งก็มาก

9. นำทรัพย์สินไปจำนอง

มีไม่กี่เหตุผลที่จะนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน หรือโฉนดที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้างไปจำนอง นั่นก็คือจำนองเพื่อซื้อตัวอสังหาริมทรัพย์นั้นเองหรือเพื่อลงทุนในธุรกิจสำคัญเท่านั้น

เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างมากเพราะหากไม่สามารถชำระหนี้ได้ในที่สุดก็จะถูกบังคับคดียึดบ้านยึดที่ดินได้

สร้างความเดือดร้อนอย่างมากเพราะว่าที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ทางเลือ กนี้จึงต้องไตร่ตรองให้มาก ๆ และประเมินถึงความสามารถในการชำระหนี้คืน

10. การกู้เงินนอ กระบบ

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถหาหนทางอื่นใดได้นอ กจากการกู้หนี้นอ กระบบ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยไม่แนะนำให้ไปกู้หนี้นอ กระบบเพราะว่าไม่อยู่ในการควบคุมดูแลของ ธปท. เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นก็ไม่มีกฎห ม ายช่วยรองรับ

เช่น วิธีการทวงหนี้ ซึ่งรู้กันดีอยู่แล้วว่าหนี้นอ กระบบนั้นนอ กจากดอ กเบี้ยแพงแล้วยังมีวิธีการทวงหนี้ที่อาจจะเป็นการข่ มขู่ทั้งวาจาและการใช้ความรุนแรงต่อร่างกายและทรัพย์สิน หรือ การทำให้ลูกหนี้ได้รับความอับอายต่อสังคม ดังนั้นจึงไม่ควรกู้หนี้นอ กระบบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *