หลายๆคนนั้น มักจะไม่รู้ตัวค่ะว่าพฤติกรรมการใช้เงินแบบผิดๆของตัวเองนั่นแหละ ที่เป็นตัวการทำให้เงินหมดเร็วและหมดง่ายด้วย จนทำไม่มีเงินเก็บสำรองในชีวิตนั่นเอง
1. การใช้เงินแบบผิดๆ : ซื้อของที่อยากได้ มากกว่าของที่จำเป็น
ก่อนที่จะซื้อสินค้าแต่ละอย่าง ให้เราลองถามตัวเองดูก่อนว่า ของชิ้นนี้คือของที่จำเป็นหรือของที่อยากได้กันแน่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะซื้อของเพราะอยากได้กันทั้งนั้น
แต่ความอยากได้ของเรานี่แหละค่ะ ที่เป็นตัวการผลาญเงินของเราไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะสาวๆเมื่อเห็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือรองเท้านั่นเอง ดังนั้นก่อนซื้อให้ทุกคนลองถามตัวเองดูก่อนนะคะว่ามันจำเป็นสำหรับเรามั้ย
หากไม่จำเป็นก็ให้เราอดใจไว้ก่อน แล้วซื้อของที่จำเป็นสำหรับชีวิตก่อนค่ะ ใครที่อยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง ให้เริ่มจากตรงนี้ก่อนเลยค่ะ ถ้าทำได้ การเงินของเราจะเปลี่ยนไปได้เลยล่ะ
2. การใช้เงินแบบผิดๆ : ตามใจปาก
อีกหนึ่งสิ่งที่ผลาญเงินเราไปมากเช่นกันก็คือ การตามใจปากนั่นเอง การตามใจปากถือเป็นการลดจำนวนเงินที่เรามีและเพิ่มน้ำหนักตัวที่เราไม่เคยมีมาก่อนได้!
เชื่อว่าใครที่เคยทำรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน มักจะพบว่าตัวเองหมดเงินไปกับค่ากินเยอะที่สุด เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าอาหารคือสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย
และต้องกินถึง 3 มื้อในแต่ละวัน แต่หลายๆคนกิน มากกว่านั้นกันใช่มั้ยล่ะคะ นั่นก็เพราะว่าความหิวมันห้ามกันไม่ได้ โดยเฉพาะเบเกอรี่หน้าตาน่าทาน ชาไข่ มุกหวานๆ บุฟเฟ่ต์ชาบู-หมูกระทะต่างๆ ยิ่งห้ามใจไว้ไม่ไหวเลย
แต่ถ้าตามใจปากแบบนี้ เราจะหมดตัวได้นะคะ ดังนั้นเราจึงควรเน้นทานอาหารจานหลักให้เป็น มื้อๆไป ไม่กินจุกจิก และเลือ กทานอาหารที่ทำให้อิ่มง่ายและอิ่มท้องนาน จะถือเป็นการประหยัดและทำให้น้ำหนักลดลงไปได้เลยล่ะค่ะ
3. การใช้เงินแบบผิดๆ : เป็นทาสการตลาด
เล่นโซเชียลอยู่ดีๆ ดันเลื่อนไปเจอภาพอาหารหน้าตาน่าทาน ก็ทำให้เกิดอยากทานขึ้น มา ยิ่งสมัยนี้ชีวิตสะดวกสบาย แค่กดสั่งกริ๊งเดียว ก็มีเดลิเวอรี่มาส่งให้ถึงที่
ได้ทานสมใจแล้ว…เชื่อว่าหลายๆคนเป็นแบบนี้กันบ่อยใช่มั้ยล่ะคะ และตัวการหลักเลยก็คือ การตลาดตามช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆนั่นเอง บางครั้งการถ่ายรูปอาหารสวยๆ ทำกราฟฟิกอาร์ตๆ
หรือถ่ายวิดิโออาหารให้มันดูน่าทาน แค่นี้ก็ทำให้คนที่เห็นอยากทานขึ้น มาได้ ไหนจะรีวิวจากบล็อ กเกอร์ต่างๆอีก เห็นว่ามันเป็นเทรนด์ เราก็เลยอยากจะทานบ้าง
กลัวจะตามไม่ทันคนอื่นเค้า พูดเลยว่าพฤติกรรมแบบนี้มักจะผลาญเงินเราไปโดยไม่รู้ตัวได้เลย ดังนั้นต้องระวังให้ดี คิดก่อนซื้อ และอย่าตกเป็นทาสของการตลาดกันนะคะ
4. การใช้เงินแบบผิดๆ : สมัครบริการรายเดือนเยอะ
เรื่องความบันเทิงเราก็ต้องลงทุนกันหน่อยอ่ะเนอะ ชีวิตจะได้แฮปปี้ จัดเต็มไปเลยทั้ง Netflix, Viu, HBO Go ไหนจะ Spotify หรือ YouTube Premium อีก ก็อยากเล่นเพลินๆ แบบไม่มีโฆษณามาคั่นอ่ะเนอะ
แต่! ค่าสมัครรายเดือนของบริการเหล่านี้ รวมๆกันแล้วหลายบาทเชียวนะคะ ซึ่งบางเดือนเราก็แทบจะไม่ได้ใช้เลย ดังนั้นให้เราลองสำรวจพฤติกรรมของเราดูว่า
เราใช้บริการเหล่านี้คุ้มกับที่เสียเงินไปมั้ย หรือมีอะไรที่เราพอจะยกเลิกไปได้บ้าง จะได้เป็นการประหยัดเงินค่ะ
5. การใช้เงินแบบผิดๆ : รูดบัตรเครดิตจนเพลิน
ใครที่มีบัตรเครดิตต้องระวังเลย เพราะบัตรเครดิตจะทำให้เราใช้จ่ายเงินไปเยอะโดยไม่รู้ตัวค่ะ เนื่องจากการใช้บัตรเครดิตนั้น เป็นการใช้แบบรูดซื้อแล้วจ่ายทีหลัง จึงทำให้คนใช้รู้สึกว่าเราไม่ได้เสียเงินไปเยอะ
เงินในกระเป๋าก็ยังอยู่ครบทุกแบงค์ แต่…ยอดค่าใช้จ่ายรายเดือนออ กทีไร ทำไมมันเยอะแบบนี้ทุกทีล่ะ! นี่แหละค่ะข้อเสียของการใช้บัตรเครดิต ดังนั้นใครที่มี ต้องระวังอย่ารูดเพลินนะคะ ทางที่ดีเลี่ยงการใช้ไปเลยจะดีกว่ามากค่ะ
6. การใช้เงินแบบผิดๆ : จ่ายยอดบัตรเครดิตขั้นต่ำ
หลายๆคนที่รูดซื้อของชิ้นใหญ่ๆ ราคาหลายบาท พอบิลรายเดือนออ ก ก็มักจะโฟกัสที่ยอดชำระขั้นต่ำ เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถจ่ายในราคาที่ไม่สูงได้
ทำให้เราซื้อของอย่างอื่นเพิ่มมาอีกเยอะแยะมากมาย แต่ต้องอย่าลืมด้วยนะคะว่า การจ่ายยอดขั้นต่ำนั้นจะมีดอ กเบี้ยด้วย ยิ่งเราช้อปเยอะแล้วจ่ายยอดขั้นต่ำไปเรื่อยๆ แล้วก็กลับมาช้อปเยอะอีก
ซึ่งยอดเก่าก็ยังจ่ายไม่หมด พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้เราใช้เวลานานกว่าจะจ่ายหมดนะคะ แถมยังต้องแบกภาระดอ กเบี้ยที่สูงมากอีกด้วย จนอาจทำให้เรากลายเป็นหนี้ไปในระยะยาวได้เลยล่ะค่ะ
7. การใช้เงินแบบผิดๆ : จ่ายค่าบริการต่างๆ ช้าหรือเกินกำหนด
บางครั้งเราสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในชีวิตออ กไปได้ อย่างเช่นค่าปรับเกินกำหนดต่างๆ ซึ่งรวมๆแล้วหลายบาทเชียวนะคะ! ให้ทุกคน มีวินัยกับตัวเอง
ด้วยการชำระค่าสินค้าหรือบริการต่างๆให้ตรงตามกำหนด ไม่ช้าจนโดนค่าปรับ นี่เป็นวิธีง่ายๆที่จะช่วยให้เราไม่เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์เลยล่ะค่ะ
8. การใช้เงินแบบผิดๆ : ใช้เงินเกินตัว
แน่นอนที่สุดว่าพฤติกรรมการใช้เงินแบบผิดๆจนทำให้เราไม่มีเงินเก็บห ล งเหลืออยู่เลย ก็คือ การใช้จ่ายเกินตัวนั่นเอง ให้เราลองคำนวณรายได้ในแต่ละเดือนของเรา
จากนั้นคำนวณรายจ่ายในแต่ละเดือนด้วย ลองคำนวณดูซิว่าสิ่งไหน มีมากกว่ากัน ระหว่างรายรับกับรายจ่าย ถ้ารายจ่ายมากกว่า นั่นแปลว่าเรากำลังใช้เงินเกินตัวอยู่
เกินกว่ารายได้ที่เรามี จนบางครั้งก็ติดลบ เป็นหนี้บัตรเครดิตและหนี้อื่นๆอีกมากมาย ให้ทุกคนระมัดระวังการใช้เงินของตัวเองและมีสติทุกครั้งนะคะ อย่าใช้เงินเกินตัวเด็ดขาด
9. การใช้เงินแบบผิดๆ : ไม่ออมเงิน
เหนือสิ่งอื่นใด การใช้เงินแบบผิดๆของเราคือ การรับมาแล้วจ่ายออ กไป โดยไม่ได้เก็บออมไว้ วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือที่เราเรียกว่าเดือนชนเดือน
ซึ่งการออมเงินถือเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำค่ะ เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าในชีวิตของเราจะมีเรื่องฉุ п เ ฉิ นอะไรเกิดขึ้นบ้าง ดังนั้นเราจึงควรที่จะมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็น
ใครที่ใช้เงินเดือนชนเดือนอยู่ตอนนี้ยิ่งต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลยล่ะค่ะ ควรเริ่มออมเงินกันได้แล้วนะคะทุกคน