หลายคนใฝ่ฝันว่าจะเก็บเงินให้ได้มาก ๆ แต่ก็ต้องยอมรับแหละว่ากว่าจะเก็บเงินได้สักก้อนนั้น ช่างเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน โดยเฉพาะเงินแสนแรกด้วยแล้ว
บางคนแทบคิดไม่ออ กเลยว่าจะใช้วิธีไหนถึงจะเป็นไปได้ แต่ใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ ก็อย่าเพิ่งท้อไป
ถ้าอยากมีเงินแสนภายใน 1 ปี คิดง่าย ๆ เลยคือเราต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยวันละ 275 บาท ซึ่งวิธีง่าย ๆ อย่างหยอดเงินใส่กระปุกนี่แหละ
ที่เห็นผลได้ดีเลย แต่ต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเอง หมั่นออมเป็นประจำทุกวัน ถ้าทำได้แบบนี้ ครบปีเมื่อไหร่แคะกระปุกออ กมา ได้เป็นเศรษฐีนอนนับเงินแสนแน่นอน
2. ฝากประจำเดือนละ 8,300 บาท
สำหรับใครที่ขี้เกียจต้องมาคอยหยอดกระปุกทุกวัน อาจจะเลือ กเก็บเป็นรายเดือน หักเงินเดือนที่ได้เข้าบัญชีฝากประจำแบบอัตโน มัติไปเลย
เป็นเหมือนการบังคับตัวเองให้มีวินัยออมเงินที่ได้ผลดีเชียวล่ะ โดยเงินขั้นต่ำที่ออมควรอยู่ที่ 8,300 บาทต่อเดือน เพราะเมื่อรวมกับดอ กเบี้ยของบัญชีฝากประจำที่ได้รับราว 1-2.5% จะทำให้เมื่อฝากครบปี เราจะมีเงินเก็บครบแสนได้
โดยการออมเงินผ่านบัญชีฝากประจำ เราสามารถเลือ กได้ทั้งแบบที่ไม่ต้องฝากเท่า ๆ กันทุกเดือน สามารถเติมเงินในแต่ละเดือนได้เรื่อย ๆ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นการฝากประจำ 3 เดือน, 6 เดือน และ 12 เดือน
แต่ดอ กเบี้ยที่ได้รับจะโดนหักภาษี 15% ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองมีวินัยมากพอ ก็อาจจะเลือ กฝากประจำแบบปลอดภาษีที่ได้ดอ กเบี้ยสูงกว่า
ซึ่งจะมีระยะเวลาฝาก 24 เดือนขึ้นไป รวมถึงต้องฝากจำนวนเงินเท่า ๆ กันทุกเดือนด้วย ใครสะดวกแบบไหนก็เลือ กได้ตามความเห ม าะสมของตัวเองเลย
3. เปลี่ยน มาดื่มกาแฟชงเอง
รู้ไหมว่าการดื่มกาแฟทุกวัน เป็นปัญหาที่คอยกวนใจการเก็บเงินของหลายคนได้แบบไม่น่าเชื่อเลย เพราะลองคิดดูถ้าเราดื่มกาแฟแบรนด์ดังที่ขายกันอยู่แก้วละประมาณ 120 บาท ทุกวัน แสดงว่าใน 1 ปี ต้องเสียเงินไปถึง 43,800 บาท หรือเกือบครึ่งแสนเลยทีเดียว
ดังนั้น วิธีแก้ง่าย ๆ อาจจะลองเปลี่ยน มาดื่มกาแฟที่มีราคาถูกลง เช่น แก้วละประมาณ 30 บาท ก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บเพิ่มถึงปีละ 32,850 บาท หรือถ้าหัน มาชงเองที่มีราคาแค่ซองละประมาณ 5 บาท ยิ่งช่วยประหยัดได้อีกถึงปีละ 41,975 บาทกันเลย
4. เลิกบุหรี่
การสู บ บุ ห รี่นอ กจากจะทำร้ า ยสุขภาพ ยังทำลายเงินในกระเป๋าเราอีกด้วย เพราะเต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย เอาง่าย ๆ สมมติเฉลี่ยแล้วเราสู บ บุ ห รี่สัปดาห์ละ 4 ซอง ราคาซองละ 80 บาท นั่นห ม ายถึงคิดเป็นค่าใช้จ่ายอย่างน้อย ๆ ปีละ 15,360 บาทเลยนะ ซึ่งบางคนอาจจะสูบมากกว่านี้ ก็คูณเป็นตัวเงินที่มากเข้าไปอีก
ไม่หมดแค่นั้น การสู บ บุ ห รี่เป็นประจำ ยังตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ซึ่งบอ กเลยว่าถ้าเกิดเจ็บป่วย หรือเป็นอะไรขึ้น มาจากการสู บ บุ ห รี่ ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาลและดูแลตัวเอง ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย เสียเป็นหลักแสนหลักล้านก็มีให้เห็น มาแล้ว เพราะฉะนั้น ใครที่สู บ บุ ห รี่อยู่ถ้าลดได้ ก็ขอให้ลดเถอะ หรือหักดิบเลิกสูบไปเลยก็ได้ คงช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้อีกมากเลยล่ะ
5. หาแหล่งพักเงินที่ดีกว่าฝากออมทรัพย์
วิธีเก็บเงินด้วยการฝากบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอและให้ผลตอบแทนที่น้อยเกินไป เพราะฉะนั้น การนำเงินไปกระจายลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย จึงเป็นทางเลือ กที่น่าสนใจกว่า เช่น ซื้อ กองทุนรวม ที่ให้ผลตอบแทนราว 5-15% ซึ่งผลตอบแทนที่เราได้รับ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้น ๆ ตามความเสี่ยงที่เราสามารถยอมรับได้ คือ ยิ่งเสี่ยงมาก ผลตอบแทนที่มีโอ กาสได้ก็ยิ่งมากนั่นเอง
การเลือ กลงทุนในกองทุนรวม นอ กจากจะมีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องมาคอยจัดการเอง เพราะมีมืออาชีพมาบริหารจัดการความเสี่ยงให้เรียบร้อย ในกองทุนบางประเภท เช่น กองทุน RMF หรือ LTF ยังให้สิทธิประโยชน์สามารถนำเงินไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย จึงเห ม าะอย่างยิ่งสำหรับใครที่ฐานเงินเดือนถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี
6. หาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้
ถ้าอยากมีเงินเก็บเพิ่มไว ๆ แน่นอนว่างานประจำอย่างเดียวอาจไม่พอ ควรต้องมองหาช่องทางสร้างรายได้อื่น ๆ ด้วย อย่างหารายได้เสริมจากสิ่งที่ตัวเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือ รับแปลงาน เขียนบทความ ถ่ายรูป ปลูกต้นไม้ขาย หรือขับรถส่งอาหาร เป็นต้น เพราะเป็นการเพิ่มรายได้โดยที่ไม่ต้องควักเงินทุนหรือ กลัวเจ๊ง แต่ถ้าเกิดใครมีทำเลดี ๆ บวกกับมีฝีมือทำอาหารอยู่แล้วละก็ อาจจะลองเปิดร้านทำอาหารขาย สร้างรายได้อีกทาง ก็น่าสนใจไม่น้อย ลองดูตามไอเดียนี้เลย
อีกวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ดีแบบไม่น่าเชื่อ ก็คือ การทำอาหารกินเอง หรือ กินข้าวที่บ้านให้มากขึ้น เพราะรู้ไหมว่าหากเราเลือ กไปกินอาหารตามร้านข้างนอ ก อย่างน้อยก็มื้อละ 40-100 บาทแล้ว คิดดูถ้ากิน 3 มื้อ รวมเป็นเงินวันละ 120-300 บาทเลยนะ ต่างกันเยอะเลยกับการเลือ กทำอาหารกินเอง รวมทั้งวันอาจจะเสียเงินไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำ ประหยัดได้วันละเป็นร้อยเลย ถ้าทำได้ครบปีนี่ประหยัดได้กว่า 30,000 บาท
รวมถึงคนที่ชอบไปกินร้านหรู ๆ ทุกสัปดาห์ด้วย เพราะไปทีนึงก็หมดเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแน่นอน สมมติไปทุกสุดสัปดาห์ เดือนนึงนี่จ่ายไปไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาท ซึ่งถ้าลดได้หัน มาทำเองที่บ้าน ปีนึงประหยัดเงินได้เกือบ 50,000 บาทเชียวนะ
8. งดเที่ยวสังสรรค์บ้าง
หากใครเป็นคนติดเที่ยว ติดเพื่อน วันหยุดสุดสัปดาห์ทีไรต้องออ กไปสังสรรค์ให้ได้ละก็ ขอบอ กเลยว่าหากงดได้ ก็ทำเถอะ เพราะจะช่วยให้ปีนึงเราเหลือเงินเก็บในบัญชีอย่างน้อย ๆ ปีละกว่า 24,000 บาทกันเลยนะ เพราะหากเที่ยวแค่สัปดาห์ละครั้ง ค่าใช้จ่ายต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 500 บาทแน่นอน
9. หัน มาเที่ยวในประเทศ แทนต่างประเทศ
ใจนึงก็อยากเที่ยว แต่อีกใจก็อยากเก็บเงิน ยิ่งเวลาเห็นเพื่อน ๆ โพสต์รูปไปเที่ยวต่างประเทศด้วยแล้วก็ยิ่งอยากไปแบบเขาบ้าง แบบนี้จะทำยังไงดี เพราะถ้าเลือ กไปเที่ยวก็ไม่มีเงินเก็บ ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ อาจจะลองหัน มาเที่ยวในประเทศแทนก็ดีเหมือนกันนะ เพราะการเที่ยวในประเทศช่วยเราประหยัดเงินได้เยอะเลย แถมสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ในเมืองไทยก็มีให้เลือ กมากมายไม่แพ้เมืองนอ กเช่นกัน ไว้เก็บเงินได้เยอะ ๆ แล้วค่อยไปเที่ยวต่างประเทศดูบ้างก็ยังไม่สาย
10. Gadget ของฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นอย่าซื้อ
สินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต นาฬิกา หูฟัง ราคาไม่ใช่ถูก ๆ แต่ละชิ้นไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น ทำให้เราเสียเงินโดยใช่เหตุ ทั้งที่บางทีไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นที่มีออปชั่น มากขนาดนั้นก็ได้ แต่หลายคนก็เลือ กที่จะซื้อไว้ก่อน เพียงเพราะเห็นว่าเป็นรุ่นออ กใหม่ บางทีของเก่ายังผ่อนไม่หมดเลย เห็นของใหม่มาก็ซื้อใหม่อีกแล้ว หนี้ก็ทบหนี้เข้าไปอีก
แนะนำเลยว่าถ้าตัดเรื่องพวกนี้ออ กไปได้ แล้วเลือ กซื้อแต่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ รับรองว่าช่วยเพิ่มเงินเก็บในแต่ละปีได้เกือบแสนเลยนะ แถมไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินให้ปวดหัวอีกด้วย
ข้อนี้บอ กสาว ๆ เลยว่า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง กระเป๋า และอีกส า รพัดสินค้าแฟชั่นเป็นตัวดูดเงินชั้นดีเลย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีช้อปออนไลน์ ยิ่งซื้อยิ่งจ่ายง่ายเข้าไปอีก เคยนับกันบ้างไหมว่า ในแต่ละเดือนเราใช้เงินช้อปปิ้งกับสินค้าเหล่านี้ไปมากแค่ไหน บางคนถึงจะซื้อสินค้าทีละน้อย แต่บ่อย ๆ รวม ๆ กันเข้าคุณอาจจะตกใจกับจำนวนเงินที่จ่ายไปหลายพัน หรือเกือบหมื่นต่อเดือนได้เหมือนกันนะ
ดังนั้น ถ้าอยากมีเงินเก็บไวขึ้น ต้องจำกัดการช้อปปิ้งของตัวเองให้ได้เลย อาจจะเลือ กซื้อเฉพาะช่วงที่มีโปรโมชั่น และลิมิตงบแต่ละเดือนของตัวเองให้ได้ หรือถ้ามีเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่ไม่ใช้แล้ว ก็โละออ กมาโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก-IG ซะหน่อย เพิ่มรายได้ให้ตัวเองได้อีกทาง ก็จะช่วยให้เป้าห ม ายเก็บเงินใกล้ความจริงมากขึ้น