หากเราต้องการให้เงินเรางอ กเงยมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งสิ่งหนึ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดคือ “หนี้” เพราะการเป็นหนี้นอ กจากจะทำให้รายได้ของคุณลดลงแล้ว
ในบางคนอาจร้ า ยแรงจนส่งผลถึงเงินเก็บอีกด้วย หลาย ๆ คนอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมบางคนเป็นหนี้มากมาย บางคนไม่เคยเป็นหนี้เลย
การที่จะไม่เป็นหนี้นั้นต้องมีการบริหารจัดการเงินของเราอย่างดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากนะคะ เพราะว่าเพียงแค่เราเริ่มปรับนิสัยส่วนตัวและมุมมองความคิดบางอย่าง ก็จะหนีห่างจากคำว่า “หนี้” ได้แล้วล่ะคะ
1. รู้จักตัวเองในเรื่องของรายรับ
การจะห่างไกลจากหนี้สินได้นั้น ต้องเริ่มตั้งแต่การรู้จักรายได้ของเราเองก่อน เพราะเราจะรู้ว่าเราสามารถใช้จ่ายได้ในระดับไหนที่จะไม่ทำให้เราเดือดร้อน
จากนั้นจึงค่อย ๆ จัดการในส่วนของรายจ่าย และไม่ควรใช้จ่ายให้เกินจากรายได้ที่เรามี เพราะการใช้จ่ายเกินจากที่เรามีหรือเรียกง่าย ๆ ว่าใช้จ่ายเกินตัวนั้นจะเป็นตัวสร้างหนี้ชั้นยอดเลยทีเดีย
เช่น เรามีรายได้อยู่ที่ 15,000 ต่อเดือน แต่เราใช้จ่ายเดือนละ 30,000 ส่วนต่างจำนวน 15,000 นั้น ค่อนข้างจะแน่นอนว่าคือหนี้สินที่พอมองเเเล้วว่าทำให้เราเดือดร้อนแน่นอน ฉะนั้นใช้จ่ายตามที่เรามีดีที่สุดจะได้มีกิน มีเก็บค่ะ
2. รู้จักตั้งเป้าห ม าย วางแผนการใช้จ่ายและรู้จักการเก็บออม
หลังจากรู้จักรายได้ของเราแล้ว เราก็ควรที่จะมีการบริหารจัดการให้สามารถมีเหลือเก็บและมีต่อยอดลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ของเราอีกนั่นเอง
โดยอาจจะเริ่มที่การตั้งเป้าว่ามีเงินเก็บจำนวนนึงในระยะเวลา 6 เดือน จากนั้นก็ค่อย ๆ วางแผนรายจ่ายเพื่อให้เราทำตามเป้าห ม ายที่วางไว้ให้สำเร็จ
ทำไมถึงต้องมีการตั้งเป้าห ม ายไว้ ก็เพื่อที่จะไม่ให้เราห ล งทางว่าจะเก็บเท่าไหร่ดีหรือจะทำอย่างไรดี แต่เมื่อมีเป้าห ม ายเราก็จะมองอะไรต่าง ๆ ออ กได้ง่ายขึ้น
3. ใส่ใจในรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
นอ กจากการมีเป้าห ม ายและการวางแผนที่ดีแล้ว เรายังควรใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ด้วย เพราะว่าในทุก ๆ รายจ่ายนั้น มีความสำคัญมาก ๆ
ต่อ การจะเป็นหนี้หรือไม่เป็นหนี้ของเรา เพราะหากเราไม่คิดให้ดี ๆ ก่อน มีการใช้จ่ายในทุก ๆ ครั้ง อาจจะทำให้เราใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นได้ และส่งผลให้เรามีสภาพการเงินที่แย่ลง
4. รู้จักหักห้ามใจในการซื้อของ
หลังจากใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ แล้ว จนเหลือแค่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและจ่ายในส่วนที่จำเป็นแล้ว ขั้นต่อมาเราก็ต้องหักห้ามใจตัวเองให้ได้ที่จะไม่ซื้อของที่อยากได้
เราทำงาน มาเหนื่อย ๆ ย่อมต้องอยากมีกำลังใจในการทำงานแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อทุกอย่างที่อยากได้เพื่อเป็นกำลังใจตัวเองนะคะ ควรเลือ กโอ กาสพิเศษหรือโอ กาสดี ๆ นาน ๆ ครั้งจะโอเคกว่าค่ะ เพราะจะได้ไม่เป็นการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยค่ะ
5. รู้จักการใช้ประโยชน์จากสิ่งรอบ ๆ ตัวให้เกิดผลทางบวก
ทุกสิ่งย่อมมีทั้งด้านดีและไม่ดี หากแต่เราต้องรู้จักใช้ รู้จักทำ ก็จะสามารถทำให้เกิดผลทางบวกแก่เราได้ เช่น การมีบัตรเครดิต ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
และข้อเสียที่เห็นได้ชัด ๆ คือ การใช้จ่ายง่ายและสะดวกจนทำให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมา ส่วนข้อดีคือ การที่หากเราใช้จ่ายผ่านบัตร
เราก็จะได้แต้มสะสมหรืออื่น ๆ ไว้สำหรับแลกของรางวัล ซึ่งหากเรารู้จักวางแผนรู้จักการใช้งาน ก็จะทำให้เราสามารถได้รับประโยชน์ที่มากขึ้นจากการใช้จ่ายได้นั่นเองค่ะ
6. สร้างวินัยในการทำตามแผนที่วางไว้
ทุก ๆ อย่างที่กล่าวมาจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากว่าเราไม่มีวินัยในตนเองที่จะทำตามแผนที่เราวางไว้ ฉะนั้นเมื่อมีเป้าห ม ายและแผนเรียบร้อยแล้ว
สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้สำเร็จได้คือตัวเรานั่นเอง ขอให้ตั้งใจพยายามฝ่าฟันไปให้ได้ค่ะ แล้วรับรองได้ว่าเมื่อวันที่ถึงเป้าห ม ายที่วางไว้ เราจะภูมิใจในตัวเราเองอย่างมากค่ะ