หลายครั้งเราจะพบว่าการออมเงินเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะการเริ่มต้น วันนี้เรามีคำแนะนำแบบเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่จะบอ กคุณว่าควรออมเงินยังไงเพื่อที่จะบรรลุเป้าห ม ายที่คุณต้องการ ไปดูกันเถอะ
1. บันทึกค่าใช้จ่าย
ขั้นแรกในการออมเงินคือคุณต้องรู้ว่าตัวเองใช้จ่ายอะไรไปบ้าง จงบันทึกรายจ่ายของคุณไว้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นค่ากาแฟที่คุณซื้อในทุกๆ วัน ค่าเดินทาง ค่ายาสีฟัน แชมพู
หรืออะไรก็ตามที่คุณจ่ายเงินเพื่อซื้อมา และถ้าคุณมีบันทึกข้อมูลเหล่านี้แล้ว ก็จงจัดหมวดหมู่เอาไว้ให้ชัดเจน ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะบันทึกรายจ่ายยังไงดี ก็ลองใช้แอปพลิเคชันเข้ามาช่วย สามารถหาโหลดมาติดตั้งในโทรศัพท์ได้อย่างไม่ยาก
2. กำหนดงบประมาณ
ถ้าคุณรู้แล้วว่าในแต่ละเดือนคุณจ่ายอะไรไปบ้าง ก็ถึงเวลาที่จะต้องกำหนดงบประมาณรายจ่าย งบประมาณในแต่ละเดือนนั้นต้องสอดคล้องกับรายรับด้วย อย่าให้มัน มากเกินไป
ไม่งั้นคุณจะไม่มีเงินออมเลย กำหนดสัดส่วนให้ชัดเจน เช่นใช้เงินแค่ 80% ของเงินเดือน ส่วนที่เหลือ ก็ออม หรือเอาไปลงทุน แต่อย่าลืมว่างบประมาณที่กำหนดนั้นย่อมไม่ต า ยตัว เพราะบางเดือนคุณอาจจะต้องใช้เงิน มากกว่าเดือนอื่นๆ
3. วางแผนการออม
เมื่อคุณกำหนดงบประมาณเรียบร้อยแล้ว คุณก็ต้องวางแผนต่อว่าจะออมเงินยังไง ถ้าคุณพบว่าตัวเองเหลือเงินออมน้อย
ก็ต้องลดรายจ่ายลงบ้าง อะไรที่ไม่จำเป็นก็ต้องตัดออ กไป อย่าลืมว่าถ้าคุณออมเงินในแต่ละเดือนได้เยอะเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเป็นผลดีในระยะยาวเท่านั้น
4. กำหนดเลยว่าจะออมเงินไปเพื่ออะไร
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการออมเงินคือ การตั้งเป้าห ม าย ถ้าคุณเคยผ่านช่วงเวลาในการเก็บเงินซื้อของเล่นเมื่อตอนที่คุณยังเด็กมาแล้วล่ะก็ คุณจะเข้าใจขั้นตอนนี้ดี
การมีเป้าห ม ายนั้นทำให้เรามุ่งมั่น มากขึ้น แต่เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว การตั้งเป้าห ม ายก็อาจจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ขึ้น เราแบ่งเป้าห ม ายเป็นสองแบบคือ ระยะสั้น กับระยะยาว
ระยะสั้น เช่น ออมเงินเพื่อไปเที่ยววันหยุด ออมเงินเพื่อเก็บไว้ยามฉุ п เ ฉิ น หรือออมเงินไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น
ระยะยาวอย่างเช่น ออมเงินเพื่อซื้อบ้าน รถ หรืออสังหาริมทรัพย์ ออมเงินเพื่อ การศึกษาของลูก ออมเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ เป็นต้น
นอ กจากนี้การออมเงินในระยะยาวจะสำเร็จยิ่งขึ้นถ้าคุณเอาเงินไปลงทุน ลองหาทางลงทุนที่คิดว่าเห ม าะกับตัวเองดู
5. จัดลำดับความสำคัญ
อย่าลืมจัดลำดับความสำคัญของเป้าห ม าย มันคงไม่ดีนักถ้าคุณมุ่งจะเก็บเงินเพื่อเกษียณในขณะที่ลูกคุณกำลังจะเข้าโรงเรียน
การจัดลำดับความสำคัญไม่เพียงแต่ทำให้คุณรู้ว่าควรทำอะไรก่อน แต่ยังทำให้การออมเงินของคุณมีระบบระเบียบมากขึ้นด้วย
6. ใช้เครื่องมือช่วย
มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยในการออมเงิน เช่น บัญชีเงินออมที่คุณไม่สามารถถอนออ กมาใช้ได้หากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด หรืออาจจะนำเงินไปลงทุนด้วยการซื้อหุ้นที่ความเสี่ยงต่ำก็ได้
7. การตัดเงินออมอัตโน มัติ
ธนาคารมีบริการตัดเงินออมอัตโน มัติ คุณสามารถใช้ตัวช่วยตรงนี้ได้ มันเป็นการป้องกันการใช้เงินเกินตัวของคุณได้เป็นอย่างนี้เลยล่ะ
8. ติดตามดูการเติบโตของเงินออม
คุณควรที่จะติดตามการออมเงินของคุณทุกเดือน ว่าคืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว มันจะช่วยให้คุณมีกำลังใจมากขึ้น แถมยังทำให้คุณเห็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย