เป็นกันไหมคะ เวลาเจอของที่อยากได้ละอยากซื้อทันที หรืออยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ แต่ แต่ แต่! เงินเก็บไม่พอบ้าง เสียดายเงินบ้าง แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะได้ทำตามที่อยากทำสักทีนะ
1. ออมเงินอย่างมีเป้าห ม าย
ใครที่ตั้งเป้าห ม ายไว้ว่าภายในสัปดาห์นี้ เดือนนี้ หรือปีนี้ อยากจะช็อปอะไร หรือไปเที่ยวไหน จัดกระปุกใสๆมาเลยค่ะ
และก็ติดป้ายไว้ที่กระกปุกด้วยนะคะว่า กระปุกนี้หยอดเพื่อเกาหลี, กระปุกนี้หยอดเพื่อ กระเป๋าใบใหม่ หรืออะไรที่อยากได้ก็จัดไปค่ะ จากนั้นก็ค่อยๆหยอดไปทุกวันๆ พอออมได้ครบตามที่ต้องการแล้ว ก็จัดไปเลยค่า
2. เก็บแบงค์ใหม่ไว้อย่าเพิ่งใช้
อีกหนึ่งวิธีการออมที่ทำได้ไม่ยาก คือ การเก็บสะสมแบงค์ใหม่ๆไว้คะ ไม่ว่าจะเป็นแบงค์ยี่สิบ แบงค์ร้อย แบงค์พัน เก็บไว้เลยค่ะ
ส่วนแบงค์เก่าๆก็ค่อยๆใช้ไป ผ่านไปสักเดือนนึงละค่อยมานับดูกันซิว่า แบงค์ใหม่ๆที่เก็บสะสมไว้นั้น มีเท่าไหร่แล้ว จากนั้นค่อยไปฝากธนาคารหรือจะนำไปซื้อของที่อยากได้ ก็เริ่ดเลยค่า
3. แบ่งแยกประเภทของเหรียญและแบงค์ไว้
เชื่อว่าแต่ละวันจะต้องมากันเหลือ กันบ้างใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นเศษเหรียญหรือแบงค์ ให้ลองหาลิ้นชักอันเล็กๆที่มีหลายๆชั้น มาค่ะ และก็แยกประเภทของแบงค์และเหรียญไว้
เช่น ถ้าเป็นเหรียญสลึงไว้ชั้นล่างสุด เหรียญบาทชั้นถัดไป แบงค์ยี่สิบไว้ขึ้นกลาง และแบงค์ร้อยไว้ชั้นบนสุดแบบนี้ และก็ตั้งเป้าไว้ว่าครบ 1 เดือน หรือ 2 เดือน หรือตามที่ต้องการ ก็มาเปิดนับเงินดู รับรองว่าต้องมีไม่น้อยแน่ๆเลยค่ะ
4. กำหนดเงินที่ต้องใช้ในแต่ละวัน
วิธีนี้จะต้องมีการวางแผนกันนิดนึงนะคะ เพราะว่าจะต้องกำหนดว่าแต่ละวันจะใช้เงินไม่เกินเท่าไหร่ เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร จิปาถะต่างๆ เพื่อให้สามารถคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ ไม่เผลอแ อ บใช้จนเกินตัวไปนั้นเองค่า
5. ใช้แอพช่วยออมเงิน
ความทันสมัยของเทคโนโลยีก็ช่วยให้เราออมเงินได้นะ เพราะทั้งในระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์มีแอพบันทึกรายรับรายจ่ายเห ม าะสำหรับออมเงินเพียบเลยค่ะ
ที่ช่วยบันทึกรายการการใช้บัตรเครดิตได้ ก็ทำช่วยให้เราบริหารจัดการเรื่องการใช้เงินได้ง่ายขึ้นค่ะ
6. ออมเงินตามจำนวนวัน
กลับมาที่สายหยอดกระปุก แต่วิธีนี้จะเน้นไปที่การหยอดตามวันที่ในปฎิทินค่ะ เช่นวันที่ 1 ก็หยอดไป 1 บาท วันที่ 2 3 4 จำนวนเงินก็ตามวันนั้นไปเลย
พอครบสิ้นเดือนก็เริ่มต้นนับวันหยอดของเดือนใหม่แบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ หรือจะหยอดตามวันที่เหมือนเดิม แต่จะทบเพิ่มอีก 1 บาทไปเรื่อยๆจนถึงสิ้นปี ก็จะมีเงินเก็บเกือบ 70,000 บาทกันเลยทีเดียวค่ะ
7. ออมทีละสัปดาห์
แต่ถ้าใครไม่อยากหยอดกระปุกหรือต้องออมเงินทุกวัน ลองเปลี่ยน มาออมทีละสัปดาห์ดูค่ะ สัปดาห์แรกอาจจะเริ่มต้น 10 บาท พอเข้าสัปดาห์ที่ 2 เพิ่มอีก 10 บาท
และเพิ่มทีละ 10 บาททุกสัปดาห์ พอครบทั้งปีหรือ 52 สัปดาห์ ก็จะมีเงินเก็บประมาณ 13,780 บาทเลยค่ะ
8. หักเศษเงินเดือนเพื่อออมเงิน
และวิธีสุดท้าย สำหรับมนุษย์เงินเดือน ใครที่เงินเดือนจะออ กมาเป็น 20,750 บาท หรือจะเท่าไหร่ก็ตาม ให้เก็บเศษเงินไว้เป็นเงินออมค่ะ ก็จะได้ 750 บาทค่ะ พอไปรวมกับวิธีออมเงินอื่นๆ ก็จะช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้น
