ข้อคิดสอนใจ

5 วิธีปรับลดค่าใช้จ่าย สำหรับมนุษย์เงินเดือน

ทุกวันนี้เชื่อว่า สภาพคล่องทางการเงินของมนุษย์เงินเดือนหลายๆคนเริ่มฝืดเคือง เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ หรืออาจจะเป็นสภาวะหนี้สินที่เกิดจากการใช้เงินเกินตัว ซึ่งคุณสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ไม่ยาก เพื่ออนาคตที่เป็นอิสระทางการเงินตามที่คุณปรารถนา

1. งดกิจกรรมปาร์ตี้ต่างๆที่ไม่จำเป็น

ปลายเดือนก็ฉลอง สักพัก ผ่าน มาไม่กี่วัน ก็เริ่มชวนกันไปฉลองอีก รวมแล้วเดือนๆหนึ่งคุณหมดเงินกับตรงนี้ไปหลายพันบาทโดยไม่จำเป็น

การฉลองมีหลายวิธีที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายขนาดนั้น คุณอาจซื้ออาหารมาทำทานเองที่บ้านสักมื้อใหญ่ๆ ฉลองกับครอบครัว

หรือชวนเพื่อนๆไปฉลองที่บ้านใครคนใดคนหนึ่งแทน วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดได้มากขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

คนญี่ปุ่นเองก็ใช้ชีวิตแบบนี้ พวกเขาจะเข้าร้านอาหารเฉพาะในโอ กาสพิเศษจริงๆเท่านั้น ปาร์ตี้ฉลองวันเงินเดือนออ กของพวกเขาคือ ปาร์ตี้หม้อไฟเล็กๆของครอบครัวที่อบอุ่น

และแสนประหยัด แต่อิ่มอร่อยและมีคุณค่าทางจิ ตใจไปตลอดชีวิต จึงทำให้คนญี่ปุ่นไม่มีปัญหาด้านการเงิน และยังมีเงินเก็บเหลือเฟืออีกด้วย แล้วคุณล่ะอยากจะมีชีวิตสุขสบายพร้อมกับมีเงินเก็บเหลือเฟือเหมือนกับคนญี่ปุ่นหรือเปล่า

2. ลดค่าใช้จ่าย จุกจิกที่ไม่จำเป็น

จำเป็นด้วยหรือที่คุณต้องซื้อ กาแฟแสนแพงติดยี่ห้อ เพียงเพราะกลัวสายตาดูถูกจากคนรอบข้าง อย่าลืมว่าคนพวกนั้นต่างก็เป็นไฮโซเพียงเปลือ ก

ทุกคนล้วน มีหนี้สินและภาระค่าใช้จ่ายที่เหมือนๆกัน สังคมไทยมักมีความเชื่อและค่านิยมที่ผิด ตัดสินคนจากภายนอ ก เพราะฉะนั้น เรื่องอะไรคุณจะต้องไปเดินตามเกมของสังคม แล้วส่งผลให้ชีวิตของตัวเองตกต่ำลงด้วยล่ะ

ทุกช่วงเวลาพักกลางวัน คุณเคยคำนวณบ้างไหมว่าคุณเสียค่าใช้จ่ายจุกจิกไปเท่าไหร่ ขน ม,ไส้กรอ ก,สินค้าโอท็อป หรือเสื้อผ้าที่คุณคิดว่าซื้อเพราะความคุ้ม

ของเหล่านี้คุณเคยทานหมดทุกวัน หรือได้สวมใส่มันตลอดหรือไม่ เสื้อผ้าของคุณเองก็เต็มตู้อยู่แล้ว มีความจำเป็นอะไรอีกที่จะต้องซื้อมาเพิ่ม

ลองหัน มาพิจารณาปรับ ลดค่าใช้จ่าย จุกจิกเหล่านี้ลง แล้วทำตัวสวนกระแส ไม่ยึดติดค่านิยมตามเพื่อนร่วมงาน

นอ กจากคุณต้องการจะมีชีวิตที่ล้มเหลวทางการเงินอย่างพวกเขาในอนาคต วันนี้คุณอาจจะเห็นเพื่อร่วมงานของคุณใช้เงินไปกับความสุขของพวกเขา แต่เชื่อเถอะในอนาคตพวกเขาจะมีปัญหาทางการเงินแน่นอน ถ้าไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นเศรษฐีจริงๆ

3. หัน มาเก็บออมจนเป็นนิสัย

เริ่มจากการหยอดกระปุกเหมือนวัยเด็กก็ได้ค่ะ วันนี้หยอด 10 บาท 20 บาท ไม่นานก็ถึงร้อยถึงพัน ครบแล้วก็นำไปเข้าบัญชีธนาคารเก็บไว้

หรือคุณจะหักดิบตัวเองด้วยการฝากเงินประจำในธนาคารทุกเดือน เดือนละ 500-2,000 ก็ว่ากันไป ตั้งเป้าให้แน่นอน อย่าให้ตัวเองเดือดร้อน แล้วกลั้นใจฝากให้ได้จำนวนนั้นทุกเดือน คิดเสียว่าคุณกำลังชำระหนี้สินอยู่ก็ได้

บางท่านไม่ไว้ใจตัวเอง กลัวว่าจะถอนออ กมาใช้ก่อนกำหนด ก็ฝากเข้าบัญชีประจำได้ค่ะ แต่ยอดเงินต่อเดือนค่อนข้างสูง ถ้าคุณมั่นใจว่าพอเจียดมาเก็บวิธีนี้ได้

ก็ควรทำนะคะ เพราะดอ กเบี้ยของบัญชีชนิดนี้ มีอัตราผลตอบแทนปลายปีค่อนข้างสูง แถมยังเป็นวิธีที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการออมเงิน มากกว่าอีกด้วย

4. วางแผนอนาคต

ลองตั้งเป้าขึ้น มา ว่าอนาคตในอีกสิบปีข้างหน้าคุณจะทำอะไร และต้องการเงินเก็บเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็ทำให้ได้ตามเป้าห ม าย

ห้ามย่อท้อหรือหมดกำลังใจจนล้มเลิกกลางครัน เพราะอนาคตของคุณ มีคุณเท่านั้นเป็นผู้กำหนด หากหวังพึ่งพาแต่คนรอบข้าง คุณก็จะไม่มีวันประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ

ยกตัวอย่างเช่น คุณมีเป้าห ม ายจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวในห้าปีข้างหน้า คุณต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ เป้าห ม ายนี้จะช่วยให้คุณกำหนดเวลาและวิธีการหาเงินได้ง่าย

จำไว้ว่าคนที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีเป้าห ม าย ย่อมไม่มีวันที่จะประสบความสำเร็จ แต่การจะก้าวไปสู่เป้าห ม ายได้นั้น จะต้องไม่ใช่การไปกู้หนี้ยืมเงินใครเขามาเพราะจะทำให้เกิดปัญหาหนี้สินขึ้นและจะทำให้การเงินแย่ได้อีกด้วย

5. ใช้เงินเพื่อ การลงทุน

เช่นนำเงินไปซื้อคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ เพื่อยกระดับตนเองในตำแหน่งหน้าที่งาน จน มีอัตราค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น อย่างนี้เรียกว่าการลงทุนรูปแบบหนึ่ง

หรือคุณเลี้ยงอาหารลูกค้าสักมื้อ เพื่อให้เขาตอบแทนคุณด้วยการเซ็นต์สัญญาซื้อขาย อย่างนี้ก็เรียกว่าใช้เงินเพื่อ การลงทุนอีกเช่นกัน

หากคุณไม่ปรับลดนิสัยการใช้เงินที่ฟุ่มเฟือยบางอย่างลงไป คุณก็จะมีชีวิตที่ลำบากในช่วงบั้นปลาย ดังนั้น ควรเริ่มต้นเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตดีๆคุณและใครอีกหลายคนปรารถนา แล้ววันนี้คุณเริ่มวางแผนให้กับชีวิตของคุณหรือยัง

อย่าลืมนะคะว่ายิ่งคุณวางแผนการเงินให้กับตัวเองเร็วมากเท่าไหร่ คุณก็จะมีโอ กาสมีเงินเหลือเก็บและมีชีวิตสุขสบายมากเท่านั้น แต่หากยิ่งล่าช้า ระยะเวลาในการเก็บออมเงินก็จะน้อยไปด้วยนะคะ

meko

Share
Published by
meko