บางคู่อาจคิดว่ายิ่งสนิทกัน มากก็ยิ่งดี ยิ่งรู้เรื่องของกันและกัน มากก็ยิ่งดี ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไปค่ะ เพราะจากที่เคยมีคำถามว่า..ทำไม?.. ทั้งที่ทุกอย่างเหมือนเดิมเราทั้งคู่ดีต่อ กันแต่ก็รู้สึกเนือยๆ ไป
มันก็มีหลายสาเหตุนะคะ แต่ที่จะยกมาเล่าให้อ่านนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุนั้นค่ะ ให้ลองเช็คพฤติกรรมของคุณสาวๆ
1. ตีซี้กับเพื่อนของเขามากเกินไป
รู้จักสนิทกันแค่ปานกลางก็เพียงพอ เพราะคนเราย่อมต้องการมีโลกส่วนตัว คนสองคนก็ต้องมีโลกสองใบ มันอาจจะเข้ามาแตะกันบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับซ้อนเป็นใบเดียวกัน
เหลือที่ว่างไว้ให้เขาบ้าง เพราะการที่สนิทกับเพื่อนของเขาก็เหมือนคุณสาวๆ เขย่าโลกทั้งใบของเขาแล้ว
แรกๆ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรหรอ กค่ะ แต่พอนานไปมันจะเริ่มมีปัญหา ทำให้เขารู้สึก..ไม่มีที่หลบภัยในเวลาที่เขาต้องการคำปรึกษาเปิดอ กแบบส่วนตัวจากเพื่อนของเขาซึ่งบางครั้งปัญหานั้นก็เกี่ยวกับคุณสาวๆ
แล้วเขาก็จะหันไปปรึกษาคนอื่นซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลย แถมให้คำปรึกษาแบบไม่ได้เรื่องอีกด้วย
2. ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไปนิด
คบกันใหม่ๆ สวยเริ่ดมาเจอ กันทุกครั้ง แต่พอคบกันไปนานๆ เริ่มเคยชิน กลายเป็นหัวยุ่งใส่เสื้อตัวโคร่งเจอ กันประจำ แถมจากที่เคยแต่งหน้าสวยๆ เดี๋ยวนี้หน้าตาก็ไม่แต่งเล๊ย (ทำไปได้!!) ไม่ไหวนะคะ.. “คุณสาวๆ อย่าหยุดสวยเด็ดขาด!!”
ไม่มีใครไม่ชอบคนสวย แต่งตัวสบายๆ ได้ค่ะ แต่อย่าลืมเสริมลุคเล็กๆ น้อยๆ ทุกวันด้วยลิปกลอส หรือเสื้อผ้าสวยๆ แบบที่เขาชอบบ้าง แล้วก็สวยเป็นพิเศษในบางโอ กาสให้เขาตะลึงบ้างนะคะ
3. ไม่กำราบเขาบ้างเลย
ถ้าเขาทำอะไรให้คุณสาวๆ หงุดหงิดหรือไม่พอใจ และคุณไม่พูดออ กมาตอนนั้น เขาจะคิดว่าไม่เป็นไร แล้วครั้งต่อไปเขาก็จะทำอีก แบบนี้อยู่ที่คุณสาวๆ ล่ะค่ะ
ว่าเรื่องเล็กน้อยพวกนั้น มันกวนใจหรือเปล่า และจะปล่อยไปได้ตลอดทุกครั้งไหม? ถ้าไม่!! .. อย่าปล่อยให้เขาพ้นผิดในเรื่องเล็กน้อยทุกเรื่องที่เขาทำพลาด กล้าพอจะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง นั่นแสดงว่าคุณนับถือตัวเองซึ่งมันเ ซ็ กซี่กว่าค่ะ
4. พูดตรงตลอดเวลา
อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนอื่นที่บังเอิญมาใช้เวลาในชีวิต และมีกิจวัตรร่วมกับคุณสาวๆ ค่ะ เขาคงไม่อาจรับความจริงทุกเรื่อง
ได้ตลอดเวลาตามที่ใจของคุณต้องการ ดังนั้น การโกหกเล็กน้อยเพื่อความสบายใจ บางครั้งก็เป็นเรื่องควรทำค่ะ
แต่.. ไม่ใช่การโกหกในเรื่องใหญ่ๆ นะคะ อาจเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น .. ถ้าเขาถามว่าพ่อแม่ของคุณคิดอย่างไรกับเขา
ถ้าท่านเปรียบเขาเหมือนหลานชายวัยสิบขวบ คุณอาจตอบแค่ว่าท่านเอ็นดูเขาก็พอ ข้ามรายละเอียดปลีกย่อยที่อาจทำให้เขาเสียใจไปบ้างก็ได้
5. ให้ความสำคัญแต่กับชีวิตรัก
หาเวลานอ กให้กับตัวเองบ้าง ไม่ต้องทำตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ หรือเอาแต่พรรณาถึงความเป็น “เรา” เช่น..เขาทำให้ชีวิตช่างสมบูรณ์แบบ อย่างนี้ อย่างนั้น อย่างโน้น แล้วความรักก็จะเริ่มจืดชืด
ดังนั้น ใช้เวลาแบบอิสระเสรี (แต่ไม่ใช่แ อ บไปนอ กใจมีกิ๊กมีกั๊กที่อื่นนะคะ)ทำอะไรตามลำพัง และอยู่ห่างกันบ้างเป็นครั้งคราว จะทำให้มีช่องไว้ให้ได้คิดถึงกัน และจะทำให้ชีวิตของคุณสมดุลค่ะ