เราทำงาน มาก็ได้สัก 4-5 ปี แล้ว แน่นอนแรกๆ เราออมเงินเพื่อตัวเราเองในอนาคตอันใกล้ และออมเงินเผื่อใช้ยามฉุ ก เ ฉิ นในครอบครัว
แต่มาปีนี้เริ่มมีความคิดว่า หากเราโสดตอนแก่ใครจะเลี้ยงเราล่ะ แล้วหากวันหนึ่งเราไม่มีแรงทำงาน หาเงินเองไม่ได้ เราจะทำยังไง
จะพึ่งพาหรือฝากชีวิตที่เหลือ กับใคร คิดไปคิดมา ก็เห็นว่าสมควรแล้ว ที่เราจะต้องมีเงินเก็บไว้ใช้ตอนที่เราตั้งใจจะเกษียณตัวเอง
เพื่อเข้าวัดเข้าวาได้แล้ว และที่สำคัญ ตอนนี้อายุเรายังน้อย เพิ่งทำงานได้ไม่นาน หากเราเริ่มเก็บตั้งแต่วันนี้ เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก ยามที่เราอายุมากไปกว่านี้
กำหนดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ตั้งใจใช้ตอนแก่
ตอนที่เราทำงาน เราจะกำหนดรายจ่ายเพื่อ การทำงาน พร้อมกำหนดเงินเก็บที่เราจะสำรองไว้ในอนาคต แน่นอนการออมเงินไว้ใช้ตอนแก่ก็ไม่ต่างจากออมสำหรับอนาคต
แต่แค่ว่า เราจะต้องกำหนดเงินที่เราคิดว่าจะใช้ตอนแก่ แยกไว้อีกทาง โดยให้ระลึกเสมอว่า “เงินตอนแก่” ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น จำนวนเงินที่เราตั้งใจว่าจะใช้อาจจะลดลง
เพราะความต้องการของเราอาจจะน้อยลงตามไปด้วยก็เป็นได้ แต่ระหว่างทางการออมเงินนั้น อาจมีรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ตามยุคสมัยหรือตามภาระที่เราต้องประสบ ซึ่งต้องบริหารจัดการให้ดีๆ ตั้งแต่วันนี้ค่ะ
ตัวอย่าง
นางสาว B เริ่มต้นออมเงินเพื่อใช้ตอนแก่ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ตั้งใจเกษียณตอนอายุ 55 ปี และคาดว่าจะใช้เงินจนกระทั่งอายุ 80 ปี นางสาว B จึงแบ่งการออมไว้ตามขั้นเงินเดือนและช่วงระยะเวลาไว้ดังนี้
และเมื่อนางสาว B อายุ 55 ปี สามารถเฉลี่ยเงินเก็บเฉพาะส่วนนี้ สำหรับอีก 25 ปี ไว้เดือนละ 14,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมการออมเงินในรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถได้รับผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์มากขึ้นไปอีก
นอ กจากนี้ยังมีสวัสดิการประกันสังคมที่เราทำไว้ ตั้งแต่ตอนที่เรายังทำงาน เงินประกันชีวิต และอื่นๆ ที่เราได้ทำไว้อีก และนี่คือตัวอย่างการเก็บเงินแบบง่ายที่สุด เพื่อให้ลองคำนวณการออมเงินได้อย่างเห็นภาพในเบื้องต้น
อย่าลืม เรื่องเงินที่ส่งให้ประกันสังคม (กองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพ)
วัยทำงานอย่างเรา แน่นอนต้องมีสวัสดิการคือ ประกันสังคม เงินที่เราส่งไปให้บวกกับนายจ้างได้ช่วยสมทบนั้น หรือ เมื่อเราไม่ได้ทำงานในระบบเงินเดือน
แต่เราส่งเงินประกันสังคมด้วยตัวเองทั้งหมด กระทั่งครบอายุ 55 ปี (หากคิดแล้วว่า เราจะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 55 ปี) เราจะได้เงินบำเหน็จ หรือ บำนาญ มาให้เราได้ใช้จ่ายในแต่ละเดือน ไปจนตลอดชีวิตที่เหลือของเรา
เพราะฉะนั้น เราเห็นแล้วว่าการที่เราส่งประกันสังคม ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราได้มีเงินไว้ใช้ยามแก่อย่างแน่นอน สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคม
และยังมีแหล่งออมเงินที่น่าสนใจ แบบใกล้ตัวเราคือ กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพราะนอ กจากจะเป็นการทยอยเก็บเงินจำนวนน้อยๆ
เพื่อได้คืนในระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้ว ระหว่างการออมเรายังได้รับความคุ้มครองตามวงเงินที่ทำประกันไว้อีกด้วย ทั้งยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกทาง
นอ กจากนี้ยังมีแหล่งออมเงินอีกมากมายให้เราได้เลือ กทำ อาทิ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมเพื่อ การเลี้ยงชีพ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นต้น
ให้เลือ กตามเศรษฐกิจทางการเงินของตัวเองและครอบครัว เลือ กอย่างเห ม าะสม โดยที่ไม่ทำให้การเก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่นั้น กลับไปสร้างความลำบากต่อ การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเราค่ะ