เมื่อคุณเลือกที่จะ “แต่งงาน” กับใครสักคนแล้ว คุณพร้อ มที่จะเสียสลະ คุณพร้อ มที่จะรักเขา ไม่ว่าในยามทุกข์ หรือยามสุข คุณก็จะอยู่เคียงข้างกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีอะไรมาพรากได้
มันคือเรื่องจริงที่ว่า “ความรักคือความเสียสลະ” เพราะเมื่อเรารักใครมากๆ เราจะเห็นความสุขของคนที่เรารัก มาก่อนความสุขของตัวเองเสม
เรื่องราวต่อไปนี้ คือ บทพิสูจน์ของความรักใน “ชีวิตแต่งงาน” ที่มีทั้งขึ้นและลง ปนเปกันไปในชีวิต แต่คำถามมันอยู่ที่ว่า เมื่อชีวิตอยู่ในช่วงขาลง คุณพร้อ มจะยืดหยัดอยู่ข้างคนที่คุณรักได้มากแค่ไหน…ลองไปดูกันค่ะ
“คืนเงิน7แสนที่ยืมฉัน มาก่อน แล้วฉันจะเซ็นใบหย่ๅให้” ภรรยาของเขาพูดขึ้นหลังจากเขาเลื่อนหนังสือหย่ๅให้เธอ
“คุณจะเอายังไงอีก เราคุยกันเมื่อคืนแล้วไม่ใช่เหรอ? บ้าน รถ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดผมยกให้คุณ ผมจะไปตัวเปล่า?”
“คืนเงินให้ฉัน มาก่อน แล้วคุณจะไปที่ไหนก็ไป”
เจ้าหน้าที่ได้แต่พูดไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองลองกลับไปทบทวนอีกครั้ง
“หวังว่าพวกเราคงจะไม่ได้พบคุณทั้งสองคนที่นี่อีกนะครับ”
เจ้าหน้าที่กล่าวทิ้งท้าย!
“เซ็นสัญญาให้ฉันก่อน ว่าคุณยินดีจะคืนเงินให้ฉัน”
ชายหนุ่มกั ดฟันกรอด พร้อ มกันพูดลอดไรฟันออกมาว่า
“ไม่ต้องห่วง ผมคืนให้คุณแน่”
“ฉันจะรอ เมื่อคืนเงินครบทุกบาททุกสตางค์ เราก็ไปอำเภอกันอีกครั้ง ฉันทวนอีกครั้งนะ บ้านหลังนี้คุณยกให้ฉันเอง ฉัน มีпรรมสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่
ส่วนหนี้ที่คุณสร้างมันเป็นเรื่องของคุณ ฉันไม่เกี่ยว ฉันจะบอกอะไรให้นะ เป็นหนี้ใครแล้วไม่คืน ต่อให้ตๅยไปก็ตาไม่หลับ” ภรรยาของเขาพูดออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ส่วนเขา ได้แต่ก้มหน้าเซ็นชื่อลงในใบสัญญา ในใจເເช่งด่ๅเธอไปแล้วร้อยพันครั้ง
“สๅรเลวจริงๆนังผญ.คนนี้!”
ก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับเธอ เขาทำงานที่บริษัทก่อ สร้างแห่งหนึ่ง จากความสนิทสน มกับผู้รับเหมา เขาก็พอที่จะรู้ช่องทางการรับงานของผู้รับเหมาว่าเขาเหล่านั้นรับงานกันอย่างไร
จนวันหนึ่ง เขาได้เจอกับภรรยา และตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน ด้วยเส้นสายและความเอ็นดูของเจ้านายเก่า ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากบริษัท
ออกมารับงานด้วยตนเอง แต่ด้วยเงินทองที่มีอยู่ใน มือยังขาดแคลน เขาจึงเอ่ยปากยืมเงินจากภรรยามาลงทุนไป 7 แสน และยืมจากญาติๆอีกจำนวนหนึ่ง
จากผู้รับเหมาเล็กๆ ขยายงานโดยเพิ่มร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อ สร้างเล็กๆขึ้นอีกหนึ่งอย่าง กิจการยิ่งมาก็ยิ่งเจริญ ในตอนที่เขากำลังจะคืนเงินที่หยิบยืมมาจากภรรยาและญาติๆ
จู่ๆร้านขายวัสดุก่อ สร้างก็ถูกเพลิงไหม้ งานที่รับไว้เงินก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง เขาพยายามประคับประคองธุรกิจไว้อย่างทุกลักทุเล
เงินประกันที่ได้จากเหตุเพลิงไหม้ เขานำไปคืนเจ้านายเก่า และคืนให้กับคนที่หยิบยืมมาแบบเร่งด่วน ก็เหลือแต่ของภรรยาและญาติอีกประมาณ 4 แสน
ภรรยาของเขาเป็นคนที่คอยให้กำลังเขามาโดยตลอด ยิ่งภรรยาดีต่อเขามากเท่าใด เขาก็รู้สึกผิดต่อเธอ มากเท่านั้น จนวันหนึ่ง เขาตัดสินใจพูดเรื่องหย่ๅกับภรรยา
เขาไม่ได้บอกความจริงแก่เธอ เขาบอกเธอเพียงแค่ว่า เขาอยากใช้ชีวิตแบบสงบ เขาไม่อยากดิ้นรนต่อสู้อีกแล้ว หลังจากหย่ๅจากกัน เขาจะยกทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เธอทั้งหมด เขาจะจากไปตัวเปล่า!
จากวันนั้นเป็นต้น มา ภรรยาของเขาก็เปลี่ยนไป เธอถามสาเหตุที่แท้จริงจากเขา ว่าเขามีบ้านเล็กบ้านน้อยใช่หรือไม่ ทำไมถึงคิดจะหย่ๅขาดจากเธอ
เพราะหากเป็นเพราะเหตุผลที่เขาบอก เธอก็พร้อ มจะสู้ไปกับเขา เริ่มต้นสร้างฐานะครอบครัวไปกับเขาอีกครั้ง แม้เธอจะถามสักกี่ครั้ง
เขาก็ตอบเธอไปเหมือนเดิมทุกครั้ง เพราะเขาไม่ได้มีบ้านเล็กบ้านน้อยเหมือนที่เธอสงสัย จน มาถึงเหตุการณ์ในวันนี้ ที่พากันไปหย่ๅที่อำเภอ!
เขาฮึดสู้ขึ้น มาอีกครั้ง เขาจะไม่ยอ มให้ผญ.ใจร้ๅยคนนี้สบประมาทเขาอีกเป็นอันขาด…เขาตัดสินใจย้ายออกมาเช่าบ้านอยู่ข้างนอก และขอยืมเงินจากเพื่อนสนิทจำนวนหนึ่งล้านเพื่อเป็นทุนในการรับเหมางานอีกครั้ง
“ที่пูให้มรึงยืมไม่ใช่เพราะเห็นว่ามรึงเป็นเพื่อนหรอกนะแต่пูอยากให้มรึงตั้งตัวได้อีกครั้ง มรึงเป็นคนรักศักดิ์ศรี อย่าให้пูผิดหวังล่ะ!” เพื่อนของเขาพูดขึ้นในวันที่เขาไปรับเงิน
เขาเข้าไปของานจากเพื่อนร่วมเส้นทางธุรกิจก่อ สร้าง ไม่ปฏิเสธแม้งานเล็กงานน้อย ทำงานด้วยความขยันและอดทนกว่าเมื่อก่อนไม่รู้กี่เท่า กินอยู่อย่างประหยัดมัธยัสถ์ ทำให้เงินทองที่หยิบยืมมาเกิดดอกออกผลขึ้น มาเรื่อยๆ
เพื่อนคนที่ให้เขายืมเงิน หมั่นเวียนแวะมาเยี่ยมเขาอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มาก็มีของกินของใช้ติดมือ มาด้วยตลอด ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
ผ่ๅนไป 2 ปี เขาก็พอ มีเงิน มีทองที่จะชดใช้จ่ายคืนได้บ้างแล้ว เขาไม่มีผญ.อื่น เพราะเขาก็ไม่ได้คิดนอกใจภรรยาของเขาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่ง เขาอยากให้เธอสำนึกผิดและละอายใจที่ประเมินเขาต่ำไป
เขานำเงินไปคืนให้เพื่อนๆที่เขาหยิบยืมมาก่อนหน้านั้น เริ่มจากรายที่น้อยๆก่อน ส่วนที่เป็นของภรรยาและญาตินั้นค่อยเอาไว้ทีหลัง แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เพื่อนทุกคนต่างก็บอกกับเขาว่า
“จะเอามาคืนอีกทำไม ก็ในเมื่อคืน มาตั้งเกือบ2ปีแล้ว”
มันเป็นไปได้ยังไง เขาไม่เคยนำเงิน มาคืนเพื่อนๆเลยนี่นา
“ก็เมียของนายนั่นแหละที่เป็นคนเอาเงิน มาคืน”
เขายิ่งประหลาดใจหนักเข้าไปใหญ่ จากเจ้าหนี้คนที่1,2,3 ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันเขาตัดสินใจไปหาเพื่อนคนที่ให้เขายืมเงินล้าน มาเมื่อสองปีที่แล้ว
“ไม่ใช่แค่นี้นะโว้ย เงินที่пูให้มรึงยืมก็เป็นเงินของเมียมรึงอีกเหมือนกัน! และของกินของใช้ที่пูเอาไปฝากมรึงตลอด นั่นก็เป็นของที่เมียมรึงฝากให้пูเอาไปอีกเหมือนกัน!”
“เธอไปเอาเงิน มาจากไหนตั้งมากมาย?” เขาคิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า
ผญ.ใจดำที่เขาแค้นนักแค้นหนาคนนั้นนะเหรอ ที่เป็นคนให้เงินเขามาตั้งตัว? ที่ให้ข้าวของอาหารการกินกับเขามาตลอด?
เขาตัดสินใจไปที่บ้านหลังเก่าของเขาอีกครั้ง เมื่อพบภรรยาของเขา เขาตรงไปคุпเข่าขอให้เธออภัยในความโ ง่เขลาของเขา ภรรยาของเขารีบพยุงสามีให้ลุกขึ้น
“คุณไปเอาเงิน มาจากไหนตั้งมากมาย?”
คำถามแรกที่หลุดจากปากของเขาด้วยความสงสัย
“ฉันตัดสินใจขายบ้านของเราค่ะ เจ้าของใหม่ใจดี ให้ฉันเช่าอยู่ต่อด้วยราคาที่ถูกแสนถูก”
ภรรยาของเขาตอบด้วยน้ำตา
“ทำอะไรโ ง่ๆ แล้วถ้าผมตั้งตัวไม่ได้ล่ะ คุณจะไปอยู่ที่ไหน?”
เขาตำหนิภรรยาที่กำลังยืนร้องไร้อยู่ตรงหน้าเขา
“บ้าน ขายแล้วก็ซื้อใหม่ได้ แต่คน จากไปแล้วก็ไม่เหลืออะไร!”
เขาดึงภรรายเข้ามาпอดไว้แน่น
“ผมขอโ ทษ ผมขอโ ทษ ผมจะไม่ทำอะไรโ ง่ๆให้คุณต้องเสียใจอีกต่อไป ผมสัญญา”