ถ้าสามีและพ่อของลูกคุณตอบตัวเองได้ว่าหมดรักคุณแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคืออะไรล่ะ! สามีที่รัก ถ้าวันนึงคุณตอบตัวเองได้ว่าหมดรักภรรยาคุณจะทนเพื่อลูกมั๊ยหรือเลิกกันไปเลย
เป็นหัวเรื่องที่โ หดร้า ยสำหรับผญ.เราอยู่เหมือนกันนะคะ คนเขียนขออกตัวก่อนว่า ระหว่างหาข้อ มูลเขียนเรื่องราวความสัม พันธ์ในครอบครัว เจอหัวข้อนี้เข้า ถึงกับนั่งเศร้าและทบทวนอยู่พักหนึ่งว่า
เรื่องแบบนี้ก็คงเกิดขึ้น มาไม่เว้นแต่ละวัน ในเมื่อทุกอย่างบนโลกเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา นับประสาอะไรกับหัวใจและความสัม พันธ์ของคน
แต่ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับผญ.และภรรยาอย่างเราคือ ถ้าวันนึงผช.ที่คุณรัก สามีและพ่อของลูกคุณตอบตัวเองได้ว่าหมดรักคุณแล้ว ทนเพื่ออะไร สิ่งที่ต้องทำต่อไปคืออะไรล่ะ!
สามีที่รัก ถ้าวันนึงคุณตอบตัวเองได้ว่าหมดรักภรรยาคุณจะทนเพื่อลูกมั๊ยหรือเลิกกันไปเลย ??? ภรรยาอย่างพวกเราอยากรู้
ลูกคือสิ่งยึดเหนี่ยวและผูกพันได้จริงหรือ
สำหรับคู่ไหนที่ตามที่คิดว่า จะอดทนกับความรักที่ไม่เหลืออยู่แล้ว เพื่อลูก อยากให้ลองมองในอีกมุมว่า ลูกคุณรับได้ไหมถ้าพ่อแม่อยู่ด้วยกันแต่มึนตึงกัน
ทะ เลาะกัน หรือเฉยเมย จนเหมือนคนอื่นคนไกล แต่ในขณะเดียวกัน ลูกก็ไม่ได้อยากให้พ่อแม่แยกทางกันด้วยเด็пที่พ่อแม่อยู่ด้วยกัน
แต่ไม่ได้มีความรักต่อกันให้เห็น ยังทะ เลาะกันทุกวัน อาจจะไม่ต่างกับการที่พ่อแม่แยกทางกันเลยก็เป็นได้ สิ่งที่ยังเหลืออยู่มันก็แค่ความรู้สึกว่าพ่อแม่รักลูกที่สุด แต่พ่อแม่ไม่ได้รักกัน แต่เรื่องนี้ไม่มีคำตอบที่ตา ยตัว แล้วแต่ว่าบ้านไหนตกลง
หรือ มีคนใหม่ไม่ใช่หมดรัก หรือหมดรักแล้วมีคนใหม่
ไม่ว่าจะด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็ตาม คนที่กล้าสามารถนอกใจกันได้ แปลว่ารักกันไม่เพียงพอ หรือ มีบางอย่างในความสัม พันธ์ที่มันไม่ลงตัว
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามถ้าอีกฝ่ายตัดสินก็เป็นสิ่งที่เราต้องรับให้ได้ แน่นอนว่ามันดูเห็นแก่ตัวกับอีกฝ่ายที่ยังรักอยู่ แต่การคงความสัม พันธ์ไว้ ก็เหมือนหลอกล วงอีกฝ่ายเช่นกัน
ในฐานะภรรยาคนหนึ่งแถมมีลูกด้วยคุณจะเจ็บปวดและเสียใจ แต่เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น
ผญ.เราต้องรู้อาการแบบนี้สามีหมดรักแล้ว
เมื่อบ้านเป็นแค่ที่พักแรม เมื่อสามีของคุณพยายามที่จะใช้เวลาอยู่บ้านให้น้อยที่สุด และเลือกที่จะทำงานของเขาให้มากที่สุด
โดยไม่รู้สึกตื่นเต้นที่จะต้องกลับบ้านให้ตรงเวลา หรือเป็นเพราะมีความรู้สึกว่ากลับบ้าน มาแล้วต้องเจอความเบื่อหน่าย นี่อาจเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงความสัม พันธ์อันง่อนแง่น
คุณคุยกันน้อยลง คุณเริ่มสังเกตเห็นว่ามื้ออาหารเย็นของพวกคุณนั้น ได้ถูกความเงียบปกคลุมจนสามารถที่จะได้ยินเสียงพัดลมแทนเลยทีเดียว และเมื่อต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบโดยไม่ได้เอ่ยปากพูดคุยกันเลย
สามีให้ความสนใจกับ ไลน์ เฟสบุค หรือโทรศัพท์มากกว่าคุณ ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าสามีหมпหมุ่นอยู่กับ สมาร์ทโฟน มากกว่าตัวคุณ
หรือใช้มันเป็นเครื่องหลบหนีหลังจากที่ทะ เลาะกัน เพื่อไม่ให้เผชิญหน้ากับคุณ นั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ได้ว่าชีวิตคู่กำลังอยู่บนขอบเหวแล้วล่ะ
ไม่ออกความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับตัวคุณ วันเวลาที่เคยเอาใจใส่และแสดงความคิดเห็นในทุกสิ่งทุกอย่างของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า แต่งตัว มันผ่านไปแล้ว
ถ้าตอนนี้สังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่คุณถามหรือแต่งตัวเซ็пซี่น่ารักข นาดไหน สามีกลับไม่มีคำตอบให้หรือแสดงท่าทีว่าเฉย ๆ แสดงว่าสิ่งนี้ก็ไม่มีผลอะไรกับเขาเลย
มีการโต้เถียงกันน้อยลง ถ้ารู้สึกว่าสามีมีข้อโต้แย้งกันน้อยลง คุณต้องเริ่มกังวลบ้างแล้วล่ะ มันอาจจะเป็นสัญญานของการดื้อเงียบ
อันเนื่องมาจากเขาเริ่มไม่มีความสุขกับความสัม พันธ์นี้ ในขณะที่คุณอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องทีดี ที่สามีไม่มาโต้เถียงทะ เลาะด้วย แต่จริง ๆ แล้วอาจหมายความว่าเขาไม่ได้สนใจคุณเหมือนเคยก็ได้
ไม่มีความกระตือรือร้นในเรื่องเซ็пส์ นี่อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนว่าชีวิตการแต่งงานของคุณกำลังมีปัญหาโดยธรรมชาติแล้วไม่มีผช.คนไหนที่จะปฏิเสธการมีเซ็пส์
ถ้าสามีทำแบบนี้ขึ้น มา จำเป็นอย่างมากที่คุณต้องพึงระวังและปรับเปลี่ยนทุกสิ่งก่อนที่จะสายไป
ถ้าคุณไม่พร้อ มจะรักหรืออยู่กับใครไปตลอดชีวิต อย่าแม้แต่คิดจะแต่งงานหรือผูกพันกับใครจน มีลูก!
สำหรับผช.หรือแม้แต่ผญ.อย่างเราเองก็ตามค่ะ ถ้าคุณไม่พร้อ มจะรักหรืออยู่กับใครไปตลอดชีวิต อย่าแม้แต่คิดจะแต่งงานหรือผูกพันกับใครจน มีลูก
และบางอย่างเมื่อเลือกแล้วเราเดินกลับหลังไม่ได้ ไม่ใช่หมดรักแล้วจะเดินจากกันไป มัน มีเหตุผลทางสังคม และสำนึกอีกมากมายที่เราต้องรับผิดชอบ
แต่ลึกๆ แล้วคนเขียนยังเชื่อว่า ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย คงไม่มีใครแต่งงานกันทั้งๆที่รู้ว่าจะไม่อยู่ด้วยกันตลอดไป สิ่งที่เกิดขึ้นในความสัม พันธ์
บางทีก็อธิบายยาก ไม่ต้องโลกสวย ไม่มองโลกในแง่ร้า ย แต่ขอให้มองทุกอย่างที่เป็นไปตามความเป็นจริง คำว่า “ตลอดไป ไม่มีจริง” เป็นสิ่งที่ต้องทำใจค่ะ ขอให้ทุกครอบครัวโชคดีและมีความสุขค่ะ