ความรัก คือความปรารถนาที่ชายหญิงหลายคู่อยากจะมีไว้ครอบครอง ด้วยมันทำให้เราสุขใจ คลายความเหงา
อีกทั้งได้รู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลใครอีกคนไปนาน ๆ อันที่จริงแล้ว เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มักมีความซับซ้อน มากกว่านั้น
บางคู่ที่เราเห็นว่ารักกันดี ไปไหน มาไหนด้วยกันตลอด ไม่มีเรื่องการนอกใจหรือความเจ้า ชู้มาบั่นทอนชีวิตคู่ลงได้
แต่เมื่อสืบลึกเข้าไปแล้ว เราอาจพบว่ารักครั้งนี้ของพวกเขาไม่มีอยู่จริง ผญ.ที่ถูกเทิดทูนว่าเป็นแฟน กลับกลายเป็นแค่คน มาทีหลัง เพียงรอวันให้ผช.เลือกเท่านั้นว่าเขาต้องการจะอยู่กับใคร
ดังนั้นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เราต้องตกอยู่ในสถานะ “ตัวเลือก” เป็นเพียงหนึ่งในความสัม พันธ์ที่ผช.อยากเก็บเอาไว้
เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเลือกใคร ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องมาสำรวจความรักของตัวเองกันหน่อยแล้ว ว่าผช.ที่เขาคบเราอยู่มีแค่เราจริงไหม
เราคือโลกใบเดียวของเขาหรือเปล่า แต่ถ้าใครยังไม่มีแฟนก็ศึกษาเอาไว้สักนิด จะได้รู้ว่า พฤติпรรมผช.คบซ้อน ดูยังไง
1. เขามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง
ด้วยโทรศัพท์สมัยนี้ แบตเตอรี่มักจะหมดไวเหลือเกิน ทำให้หลายคนเลือกที่จะพกโทรศัพท์ไว้ 2 เครื่อง
เผื่อ มีอะไรฉุกเฉินจะได้ใช้โทรศัพท์อีกเครื่องได้ทันที แต่นั่นแหละคือช่องว่างของการนอกใจอย่างง่ายดาย
แทบจะไม่ต้องคอยระแวดระวังอะไรนัก อีกเครื่องหนึ่งเอาไว้คุยกับผญ.คนแรก อีกเครื่องหนึ่งเอาไว้คุยกับผญ.คนที่ 2 ได้อย่างสะดวก
จะตอบข้อความหรือลงรูปในเฟซบุ๊ก ก็ไม่ต้องกลัวว่าลงหรือคุยด้วยผิดคน เพราะแค่เปลี่ยนโทรศัพท์ก็เปลี่ยนคนคุยได้แล้ว
ดังนั้น ถ้าแฟนใครพกโทรศัพท์หลายเครื่องแล้วละก็ คงต้องสำรวจและตรวจตราให้ดีหน่อยนะ
2. ปลีกตัวไปคุยโทรศัพท์เรื่องธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง
ทั้ง ๆ ที่ผช.บางคนทำงานแค่อาชีพเดียว แต่ทำไมการเจรจาทางธุรกิจของเขาถึงมีมากมายและบ่อยครั้งนัก
หากเป็นธุรกิจจริง ๆ แล้วสถานที่นั้นก็ไม่ได้เสียงดังมาก หรืออยู่ในห้องนอนด้วยซ้ำ แต่เขากลับปลีกตัวไปรับโทรศัพท์อยู่เรื่อย
กดรับสายต่อหน้าเราก็ไม่ได้ ต้องไปกดรับสายที่อื่นเท่านั้น อย่างนี้ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน ว่าที่เขาไปคุยใช่เรื่องธุรกิจจริงหรือไม่
3. ถ้าโทร. ไปหาเขานอกจากเวลานัด เราแทบจะติดต่อกันไม่ได้เลย
คู่รักหลายคู่มักจะมีเวลาสำหรับโทร. คุยหรือส่งข้อความหากันทางไลน์เป็นประจำอยู่แล้ว
เช่น ตอนก่อนเข้างาน, เวลาพักเที่ยง หรือช่วงก่อนนอน แต่หากลองโทร. หาเขานอกเหนือจากเวลาที่คุยกัน
แล้วเขาตัดสายเราทิ้งหรือปิดเครื่องหนี ยิ่งเป็นช่วงหลังเลิกงานที่น่าจะเป็นเวลาที่ว่างที่สุดด้วย ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าเขาอยู่กับผญ.อีกคนในเวลานั้นแน่นอน
4. เขาเปิดโทรศัพท์ให้เป็นโหมดเครื่องบินเมื่ออยู่กับเรา
ผญ.บางคนอาจไม่เคยเจอกับปัญหาว่าเขาชอบแ อบไปคุยโทรศัพท์หรือแ อบพิมพ์ข้อความหาใคร นั่นก็เพราะว่าเขามาเหนือกว่านั้น
ด้วยการเปิดโทรศัพท์ให้เป็นโหมดเครื่องบินไปเลย ไม่ต้องมากังวลใจว่าจะมีข้อความเข้าตอนไหน แค่นี้เราก็จับพิรุธเขาไม่ได้แล้ว
5. คุณรู้จักแค่เพื่อนฝั่งเดียวของเขา
การรู้จักเพื่อนฝั่งเดียวในที่นี้ หมายถึงเรารู้จักแค่เพื่อนที่ทำงานโดยไม่รู้จักเพื่อนสมัยเรียนของเขาเลยสักคน หรือบางทีก็รู้จักแค่เพื่อนสมัยเรียนของเขา
หากเป็นเพื่อนที่ทำงานก็แทบจะไม่เคยเห็นหน้า ข นาดในเฟซบุ๊กยังไม่มีภาพของเพื่อน ๆ กลุ่มนั้นเลย นั่นเป็นเพราะเพื่อนกลุ่มที่เราไม่เคยเจอ อาจจะไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าเราก็เป็นแฟนของเขาอีกคน
6. เขามักจะพาเราไปเดตในสถานที่เงียบสงบ
ในใจเราคงคิดว่า ดีจัง ! สงสัยเขาคงชอบความโรแมนติก อยากหนีความวุ่นวายต่าง ๆ เพื่ออยู่กับเราเพียง 2 คนเท่านั้นแน่เลย
แต่หากลองคิดอีกแง่หนึ่ง บางทีอาจจะเป็นเพราะกลัวเราบังเอิญไปเจอคนรู้จักเขาต่างหาก ยิ่งถ้าคุณอยู่ในจังหวัดเล็ก ๆ โอกาสที่จะเจอเพื่อนของเขาก็ง่ายมากขึ้น
ดังนั้นลองนัดเจอคุณผช.แถวที่ทำงานของเขา ไม่ก็สถานที่ที่เขาชอบไปกับเพื่อนบ่อย ๆ ดู จะได้รู้ว่าเขาอยากหลบซ่อนเราจากหญิงคนรักที่มีอยู่แล้วจริงไหม
7. มีตารางเวลาพบปะกันแบบชัดเจน
เวลาจะนัดเจอกับเรา เขามักจะกำหนดเวลาหรือวันที่เอาไว้อย่างชัดเจน ไม่เคยนัดเรานอกเวลานั้นเลย อย่างถ้าเขาเคยนัดเราเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ จะช่วงกลางวัน
หัวค่ำ หรือดึกดื่นแค่ไหนเขาก็พร้อ มมาเจอ แต่ถ้าลองเป็นวันหยุดอย่างเสาร์ – อาทิตย์ เขาก็จะพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ยอ มมาเจอ
หาเหตุผลสารพัดมาอ้าง นั่นเป็นเพราะเขาจัดตารางเวลาที่จะมาเจอเราและเจอผญ.อีกคนไว้อย่างดีแล้วนั่นเอง
8. เขามีเฟซบุ๊ก หลายบัญชี
ขอให้สาว ๆ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด ว่าเฟซบุ๊กที่เขาขึ้นสถานะว่าคบหาดูใจกับเราแถมยังลงรูปคู่กันเต็มไปหมดนั้นเป็นเพียงบัญชีเดียวที่เขามี
บางครั้งเขาอาจจะมีเฟซบุ๊กอีกหนึ่งอันที่บล็อกเราไว้ไม่ให้เห็น รวมถึงบล็อกเพื่อน ๆ ของเราไม่ให้เห็นบัญชีนั้นอีกด้วย
ทางที่ดี ควร ค้นหาชื่อที่คิดว่าน่าจะเป็นนามแฝงของเขา แล้วตามไปส่องดูว่าในเฟซบุ๊กนั้น เขาเป็นแฟนกับผญ.คนอื่นอยู่หรือเปล่า
9. เมื่อกลับถึงบ้านแล้วเขาไม่เคยโทร. แบบวิดีโอหาเราเลย
เป็นคนรักกันก็อยากจะมองเห็นหน้ากันตลอดเวลา หรือไม่ก็แค่อยากจะเห็นว่าพอกลับถึงห้องแล้วเขาชอบทำอะไร อาบน้ำหรือยัง ใส่ชุดนอนแบบไหนเท่านั้นเอง
แต่ผช.บางคนกลับปกปิด อ้างเพียงแค่ว่าเขินอาย ไม่อยากจะคุยแบบเห็นหน้า ถนัดพิมพ์คุยกันเสียมากกว่า
ถ้าอย่างนั้นต้องระวังให้ดี บางทีอาจจะมีสาวสวยนอนข้างเคียงเขาอยู่ก็เป็นได้ เลยไม่อยากให้โทร. แบบวิดีโอหา
10. เราแทบจะไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ที่ไหน
นี่คือความลับข้อสำคัญที่เขาพยายามบ่ายเบี่ยงไม่เอ่ยปากถึง ว่ากินข้าวอยู่ที่ไหน ไปเที่ยวกับใคร กลับบ้านตอนไหน
เนื่องจากผช.ที่คบซ้อนเขารู้ดีว่าผญ.เราจับผิดเก่งเพียงใด แค่บอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ผญ.เราก็รู้ข้อ มูลเกี่ยวกับตรงนั้นทุกอย่างแล้ว
ดังนั้นถ้าเราไม่เคยรู้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน ให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าเป็นเพราะเขาอยู่กับใครอีกคนแน่นอน
11. ชอบตอบตกลงนัดกับเรา แต่สุดท้ายก็เบี้ย ว นัด
เวลามีนัดอะไรที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าสัก 1 – 2 สัปดาห์ เขามักจะตอบตกลงเอาไว้ก่อนให้เราชื่นใจ เช่น เราจะต้องไปงานบวชของเพื่อนสนิท
เขาตกลงว่าจะไปด้วยกันแน่ ๆ ทั้งจองรถ จองโรงแรมเอาไว้ พอถึงวันจริงก็กลับมาปฏิเสธเสียอย่างนั้น
นั่นเพราะเขารู้วิธีเอาใจผญ.อย่างเราดี ตอบตกลงให้ดีใจไปก่อนค่อยปฏิเสธทีหลัง เนื่องจากผญ.คนแรกได้ชวนไว้ก่อนแล้วนั่นเอง
12. เขาไม่เคยมองภาพอนาคตการแต่งงานกับเรา
จะเรียกว่าไม่เคยก็ไม่ได้ แต่เขาไม่รู้ต่างหาก ว่าควรวางแผนอนาคตนี้กับใคร คนแรกที่คบก็ดีแสนดี ส่วนผญ.ที่คบซ้อนก็น่ารักเหลือเกิน
หากปล่ อยใครไปคงทำใจลำบาก ขอ มองข้ามเรื่องแต่งงานไปก่อน มองที่ปัจจุบันอันแสนหวานจะดีกว่า
ถ้าอย่างนั้นเราควรช่วยให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้น ด้วยการเดินออกจากชีวิตผช.แบบนี้มาจะดีกว่า แล้วไปหาคนที่เห็นตัวเราอยู่ในอนาคตของเขาคงดีไม่น้อย